มหากาพย์ ลูกหมี-ลิลลี่ กับทนายปู มัณฑนา โต้กันเดือดปมหนี้

ลูกหมี รัศมี เล่าว่า ได้รู้จักกับ ปู มัณฑนา ผ่านทางเพื่อน รู้จักกันได้วันเดียว เขาก็โทรมา บอกว่าเขามีเพื่อนที่จะลงทุนขายกระเป๋าแบรนด์เนม ชวนให้ตนไปลงทุน ตนก็ตกลง แล้วมีการโอนเงินให้เขาหลายครั้ง ยอดทั้งหมดที่ลูกหมีโอนไป รวมแล้ว 4,043,700 บาท ยอดที่อีกฝ่ายโอนกลับมาคือ 2,663,500 บาท แต่ยอดที่ค้างอยู่เขายังไม่โอนกลับมาสักที ตนพยายามขอเงินที่เป็นเศษๆ หลักแสนกลับมาก่อนได้ไหม

หลังจากที่ได้รู้เรื่องจากเพื่อน ตนก็ยังไม่ได้โวยวายอะไรกับเขา ยังไปใช้ชีวิต ไปทานข้าวกับปูเหมือนเดิม เขาไม่ได้ขาดการติดต่ออะไร แต่โทรตามทวงแล้วไม่ได้เงิน ตนพยายามทวงแล้วไม่ได้คืน จนได้รู้เรื่องว่ามีผู้เสียหายคนอื่นๆ อีกหลายคน จึงต้องออกมาร้องผ่านสื่อ

จริงๆ แล้วตนไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากต้องการได้เงินคืนเท่านั้น ถ้าเขาคืนเงินก็จบ

ในวันที่ไปไกล่เกลี่ยกันที่โรงพักทองหล่อ หาญส์ สามีของปู มัณฑนา บอกว่าในบัญชีผมมีเงิน จะเดินออกไปกดเงินมาให้ก็ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่สะดวกคืน แล้วการที่ลูกหมีออกมาทำให้เขาเสื่อมเสียถึงวงศ์ตระกูล จะรับผิดชอบยังไง ช่วยพูดอะไรให้เขาพอใจก่อน แล้วจะคืนเงินให้

ลูกหมีก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษ และบอกว่า ถ้าเขาคืนเงิน เรายินดีจะไปออกรายการ เพื่อเคลียร์สิ่งต่างๆ และขอโทษคู่กรณี แต่ทางเขาก็ไม่ตกลง สุดท้ายในวันดังกล่าวไม่ได้มีข้อสรุปอะไร จนการไกล่เกลี่ยล่มไป

แต่ลักษณะการออกมาทวงหนี้ การออกมาให้ข่าว ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าไม่คืนจะเสียหายไปมากกว่านี้, ใครไปนั่งข้างเขาเป็นเหยื่อหมด , ใช้คำว่าภัยสังคม ต่างๆ เหล่านี้มันดูเป็นการละเมิด ดูเป็นการหมิ่นประมาท

ปรากฏว่ารู้จักกันได้วันเดียว วันรุ่งขึ้นเขาก็โทรมาเลย โทรมาขอยืมเงิน 5 แสนบาท อ้างว่าเพื่อนจะยืม ตัวพี่ปูเป็นคนค้ำประกัน เราอยากเป็นดาราก็เลยโอนให้เขาเลย บัญชีปลายทางเป็นชื่อปู มัณฑนา วันต่อมาก็มาขอยืมอีก 3 แสน รอบนี้โอนให้คนที่ชื่อบัญชีเดียวกับที่ลูกหมีโอนไป

ขณะที่ ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา ชี้ว่า การที่จะคืนเงิน คืนหนี้ ฝั่งลูกความของตนคืนได้อยู่แล้ว แต่การที่เขามาออกสื่อ มาทำให้ลูกหนี้เสียหายแบบนี้ มันเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดี ที่ทำให้ต่อไป เจ้าหนี้ใช้วิธีนี้ มาออกสื่อทวงหนี้ให้ลูกหนี้เสียหาย มันจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายมีปัญหาไปหมดเลย การจะทวงหนี้ควรทวงส่วนตัว ถ้าไม่จ่าย ก็ไปใช้สิทธิ์ทางศาล ไปฟ้องเอา แล้วชนะคดีมา ก็ไปยึดทรัพย์เขาได้เลย

ขณะที่ทางลิลลี่ เหงียนบอกว่า จะให้ตนไปฟ้องบังคับหนี้ ตนก็คงไม่ทำหรอก ยกหนี้ให้ไปเลยยังดีกว่า เพราะฟ้องเป็นปีๆ กว่าจะได้เงิน จะเอาเงินที่ไหนไปจ้างทนายอีก ส่วนตัวตนไม่อยากได้เงินคืนแล้ว หนี้ 6 แสนบาท ยกให้ไปเลย แต่ถ้าอีกฝ่ายจะมาฟ้องหมิ่นประมาทตน ก็ขอบอกไว้เลยว่า ตนไม่มีเงินจะให้ จะยอมติดคุกให้ดู

ลิลลี่ยังเล่าอีกว่า ตอนที่ตนจะไปออกรายการทีวีรายการหนึ่ง ตนโทรไปบอกปูก่อน ว่ารับปากลูกหมีไว้แล้ว ว่าจะไปออกรายการ ทางปูขอร้องว่าไม่ไปได้ไหม ถ้าหาเงินมาคืนให้ได้ 1.7 แสนบาท แล้วไม่ไปออกรายการได้ไหม ลิลลี่มาคิดทบทวนแล้วก็ตกลง แต่สุดท้ายไม่ได้เงิน ตนก็เลยไปออกรายการ ก็ตามนั้น

ท้ายที่สุด ช่วงท้ายรายการ มีการถกเถียงกันเดือดในรายการ จนลิลลี่ ลั่นว่าจะไม่เอาเงินคืน ขออย่างเดียว ให้ ปู มัณฑนา มาขอโทษตนแค่คำเดียว จะยกหนี้ 6 แสนให้เลย เพราะเหนื่อยที่จะไปขึ้นศาล ไปสู้คดีแล้ว

ส่วนทางผู้เสียหายอื่นๆ ยืนยันว่าต้องการได้เงินคืน ก็ขอให้เรื่องนี้ไปสู้คดีกัน จะเรื่องหมิ่น จะอะไรก็ช่าง แต่เป็นหนี้ก็ต้องใช้คืน