ยัน!นามสกุลไม่เกี่ยว “แพร์”แจ้งเกิดด้วยตัวเอง

ก้าวเข้ามาจับไมค์แบบไม่ทันจะตั้งตัว หลังจากเคยอวดโฉมและฝีมืออยู่ตามปกนิตยสารวัยรุ่น ถ่ายแบบโฆษณา เป็นนางเอกมิวสิกวีดีโอ ฯลฯ

จนเกิดมาเข้าตาค่ายเพลงอินดี้แต่ฝีมือไม่เล็กอย่าง สมอลล์รูม ด้วยความเป็นสาวน้อยวัยสดใส น้องแพร์-พิมพิศา จิราธิวัฒน์ เลยถูกทาบทามให้มาจับไมค์ร้องเพลงออกอัลบั้มครั้งแรก ในอัลบั้ม “Leisure Songs” (เลเชอร์ ซองส์) ที่ร้องร่วมกับศิลปินทั้งใหม่และเก่า ไม่ว่าจะเป็น กิ-กิรตรา พรหมสาขา ณ สกลนคร ,บิว เลม่อน ซุป ,กอล์ฟ ซุปเปอร์เบกเกอร์ เป็นต้น จาก 11 บทเพลง 11 สไตล์ ซึ่งร่วมกันขับร้องบทเพลงในสไตล์ของใครของมัน แต่ยังคงคอนเซ็ปต์บทเพลงป็อปฟังสบายสไตล์แบบสมอลล์รูม



โดยซิงเกิ้ลแรก “แปลกดีนะ” ที่ปล่อยออกมาก่อนเพื่อน ก็ถูกใจแฟนเพลงไม่น้อย ซึ่งสาวน้องเจ้าของเพลงนี้ แพร์ ลูกสาวคนสวยของ ธีระยุทธ-ชนัดดา จิราธิวัฒน์

ที่วันนี้ “พักไมค์” ต้องรีบเคลียร์คิวสาวน้อยคนนี้มาเปิดใจถึงการจับไมค์ร้องเพลงครั้งแรก “จริงๆแพร์ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ที่ได้มาร้องเพลงลงอัลบั้มชุดนี้ เป็นอะไรที่บังเอิญมาก ที่ผ่านมาแพร่เล่นมิวสิกฯเพลง “เขิน” ของ ซุปเปอร์เบกเกอร์ มาก่อน เป็นงานแรกที่ได้ทำกับ ค่ายสมอลล์รูม ซึ่งก่อนหน้านี้แพร์เองก็ฟังเพลงของค่ายนี้มาพักหนึ่ง ตอนแรกได้เล่นมิวสิกฯก็ดีใจแล้ว ไม่คิดว่าจะได้มามีผลงานเพลงที่ทำกับค่ายเพลงที่เราชอบฟังเพลง พี่รุ่ง (รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์) ผู้บริหารค่ายฯ ก็ขอเบอร์ติดต่อไป ไปๆมาๆมีโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา ซึ่งพี่เขาก็อยากคนนักร้องหน้าใหม่ๆมาร้องบ้าง อีกอย่างอัลบั้มนี้เป็นงานเพลง ที่ออกมาตอนที่ศิลปินมีเวลาว่างจากการทำอัลบั้มของตัวเอง พักจากงานเพลง เขาก็จะมาแต่งงานเพลงขึ้นมา เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อัลบั้มชุดที่ผ่านมาก็มีแต่นักร้องเดิมๆในค่ายมาร้อง พี่เขาก็อยากเปลี่ยนบ้าง เลยมีนักร้องใหม่ 8 คน มาแจม รวมนักร้องเก่าอีก 3 คนค่ะ
   
ที่รู้ว่าตัวเองได้ถูกเลือกเป็นหนึ่งในชุดนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง?

   
“ก็ไปแบบงงๆ ได้แบบงงๆ พอไปร้องปุ๊ป พี่เขาบอกลองมาฟังเพลงดู ซึ่งตัวเองก็งง แต่ไม่กล้าถาม แล้วพี่เขาก็ให้ฟังแล้วกลับไปร้องที่บ้าน แพรเองก็งงว่าได้หรือไม่ได้ แต่ตัวเองก็กลับมาซ้อม แล้วลองโทรไปไปว่าที่ซ้อม เนี่ยตกลงหนูได้หรือไม่ได้ค่ะ พี่เขาบอกว่าให้ไปซ้อมแสดงว่าได้แล้ว โดยเพลงที่เอากลับไปซ้อม คือ เพลง “แปลกดีนะ”  ค่ะ”


แล้วตอนเข้าห้องอัดล่ะ?
    
“ตื่นเต้น เพราะแต่ละคนเป็นมืออาชีพทั้งนั้น เลยรู้สึกว่าจะไหวมั้ย แต่พอเข้าไป พี่เจ เพนกวิน วิลล่า เป็นคนมาคุมซาวน์ พี่เขามาช่วยอัดร้อง บรรยากาศก็สนุกดี ไม่ค่อยกดดัน ชิลล์ๆ ยังไงก็ได้ ครั้งแรกอัดในห้องอัด 2 ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว แต่พอให้พี่รุ่งฟังก็มีปรับกลับมาร้องใหม่บ้าง รวมแล้วประมาณ 4 ครั้งกว่าจะสมบูรณ์ค่ะ”
   
เป็นเพลงแนวไหนที่ร้องเอาไว้?
   
“เพลงป๊อปใสๆ แนวฟังสบายๆ ดนตรีมีความเป็นตัวแพร์เหมือนกัน ที่ดูสดใส ทั้งอัลบั้มอยู่ในโทนป๊อป แต่นักร้องแต่ละคนจะมีสไตล์เป็นของตัวเอง แพร์เด็กสุดค่ะ เด็กสุดในสมอลล์รูม ด้วยซ้ำ ก็โอเค สนุกดี พี่เขาใจดี การทำงานที่นี่เขาชิลล์ เป็นกันเอง เวลาขึ้นเวทีครั้งแรกจะตื่นเต้นบ้าง แต่พอขึ้นไปบนเวทีแล้ว ก็ดีนะ” 
   
ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าจะได้มาเป็นนักร้องบ้างมั้ย?

    
“ไม่เคยเลยค่ะ ตอนเด็กชอบร้องเพลง เคยเรียนร้องเพลง พอเรียนไปสักพักคิดว่าจะเรียนไปทำไม เราไม่ได้ใช้งานเลย ส่วนดนตรีแพร์ก็เรียนเปียโน ตอนเด็กเรียนหมด บัลเล่ย์ รำไทย วาดรูป จริงๆชอบวาดรูปมากที่สุด สนุกดี ไม่ซีเรียสเหมือนวิชาดนตรีอื่นๆ”


แล้วมีโอกาสจะทำอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองบ้างมั้ย? 
    
“อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนี้แพร์เรียนหนัก เพื่อเตรียมตัวเอนทรานซ์ แล้วแต่ผู้บริหารด้วย จากกระแสตอบรับเพลงนี้ก็โอเคนะ ถ้าแพร์มีโอกาสได้ทำ คงต้องไปเรียนอีกเยอะ ถ้ามีโอกาสก็ดีนะค่ะ ตอนนี้ถ้าจะทำอัลบั้มเดี่ยวจริงๆ กลัวมีผลกระทบกับการเรียน เพราะใกล้เอนฯแล้ว ซึ่งแพร์เองต้องสปีดตัวเองมากๆ ปีนี้เป็นการสอบแบบใหม่อีกด้วย เลยต้องเร่งเก็บคะแนนตั้งแต่ ม.5 (สาธิตจุฬาฯ ม.5 สายวิทย์-คณิต) เลยค่ะ อีกอย่างการทำงานของค่ยนี้ก็เนี๊ยบมา ถ้าคิดจะทำต้องใช้เวลาเยอะ บางทีทำไม่เต็มที่ มันก็จะออกมาคุณภาพไม่ใช่ ”
     
ก้าวมาทำงานวงการบันเทิงขนาดนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ว่าอะไรมั้ย?

    
“สนับสนุนค่ะ แพร์ไปร้องเพลงก็ไปเชียร์ ทำให้รู้สึกมีคนไปเชียร์ ทำให้กล้าร้องมากขึ้น ตอนนี้คิดอยากไปเรียนร้องเพลงอีก มาคิดว่าเราน่าไปเรียนร้องเพลงจริงจัง ทำให้เป็นการจุดประกายอยากทำงานบันเทิงต่อไปอีกค่ะ คือ จะชอบแสดงออก ชอบทำกิจกรรม อย่างประกวดร้องเพลงในโรงเรียนก็ทำมาแล้ว เพราะเพื่อนยุ อย่างคุณแม่เองก็อยากให้แพรทำในสิ่งที่เรารัก ถ้าแพรถูกบังคับทำในสิ่งที่ไม่ชอบ แพรอาจทำได้ไม่ดีก็ได้”
   
มีงานอะไรอีกบ้าง นอกจากงานเพลง?
    
“เล่นหนังโฆษณา ถ่ายแฟชั่น เดินแบบบ้าง ส่วนใหญ่ถ่ายแบบภาพนิ่งมากกว่า อย่างนิตยสาร น็อก น็อก ,แพรว ,พลอยแกมเพชร ฯลฯ แล้วเคยทำพิธีกร ตอนนี้ยังไม่ออกอากาศของ “น็อก น็อก ทีวี” น่าจะออกอากาศต้นปีค่ะ ณ ตอนนี้ แพร์ชอบร้องเพลงที่สุดและงานพิธีกร ส่วนงานแสดงยังไม่เคยลองเลย ยังไม่รู้เป็นยังไง ถ้ามีคนให้โอกาสก็อยากลองดู ทางคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ว่าอะไร ของอย่าให้เสียการเรียน เพราะการเรียนสำคัญที่สุด ล่าสุดมีมิวสิกฯ วงเสลอ อันล่าสุด


เข้าวงการมาแบบนี้ กลัวเรื่องข่าวไม่ค่อยดีบ้างมั้ย?
    
คุณแม่ชนัดดาเสริมว่า “ต้องมีบ้าง แต่คงต้องมีจุดยืนของตัวเอง อะไรควร อะไรไม่ควร กฏกติกาครอบครัวเป็นอย่างไร น้องแพร์เขายังไม่บรรลุนิติภาวะ เวลาไปไหนมาไหนจะมีพี่เลี้ยงดูแล หรือไม่ก็คุณพ่อ คุณแม่ ไปด้วยเสมอ ซึ่งการที่ปล่อยให้ทำงานแบบ เหมือนเป็นการสอนให้เขารับผิดชอบก่อนวัย ว่าการทำงานหาเงินมันยากแค่ไหน บางทีเราก็สอนเค้า ไม่เท่าให้ เค้าต้องประสบบด้วยตัวเองนะ ถึงรู้”
   
แพร์กล่าวต่อว่า “การทำงานเนี่ยสอนให้แพร์รู้เลยว่าการทำงานมันเหนื่อย กว่าจะได้เงินมาก ตื่นแต่เช้า เสร็จเที่ยงคืน ถ่ายแล้ว ถ่ายอีก ร้อนก็ร้อน แพร์เข้าใจอารมณ์คนที่เรียนจบปุ๊ปแล้วอยากมีงานทำเลย ที่ผ่านมาแพร์มีประสบการณ์จากการไปแคสติ้งกี่งาน กี่งานเยอะมาก แต่จะได้รับคัดเลือกแค่ไม่กี่งาน ซึ่งปกติแพร์ก็แคสติ้งเหมือนคนอื่นๆที่เค้าทำกัน มันก็แล้วแต่ดวง มันเหมือนเป็นประสบการณ์สนุกๆนะ”
   
เคยมีคนครหามั้ย ว่ามาทำงานจุดนี้ได้ เพราะนามสกุลรึเปล่า?
   
“ก็มีบ้างนะค่ะ มีในกระทู้อินเตอร์บ้าง ถ้าแพร์ทำแบบนั้นตัวเองคงไปอยู่ค่ายของคุณอา (สไปซ์ซี่ดิกส์) แล้วล่ะค่ะ หรือไม่ก็ไปอยู่ค่ายใหญ่ๆไม่ดีกว่าเหรอ จริงๆตอนที่ถูกทาบทามถ่ายแบบเนี่ย ก็ไม่ได้ไปพรีเซนเองเลย พี่เค้ามาติดต่อเอง ทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยว่าเราเป็นใคร ลูกใคร จะหาว่าใช้นามสกุลคงไม่ใช่แน่นอนค่ะ นี่เวลาไปแคสติ้งงานยังไปเป็นแคสฯหลายสิบที่ แต่ได้แค่ไม่กี่ที่เอง มันขึ้นอยู่กับโอกาสมากกว่าค่ะ”
   
ได้ยินอย่างนี้แล้ว คงทำให้แฟนๆ เข้าใจความเป็นตัวตนของสาวคนน้อยได้มากยิ่งขึ้น!


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์