ถ้าพ่อไม่รับเราจะทำยังไง?
ทราย : ตอนนี้ทรายก็ต้องปรึกษาพี่ๆ เขาก่อน ตามความคิดทรายถ้าเขาออกมาพูดเองเลยว่าเขาไม่อยากรับผิดชอบอะไรก็จะเป็นผลเสียแก่สังคมของเขาเองคือตัวเราไม่เสียอะไรอยู่แล้วค่ะ ถ้าเขาทำร้ายจิตใจทรายมากๆ พูดจากระแทกทรายเกินไปหรือจิตใจแม่ทรายก็อาจจะฟ้องเขาหรือแจ้งความเพราะแน่นอนเลยแม่บอกว่าแม่ไม่เคยยุ่งกับฝรั่งคนไหนเลย ทรายก็มั่นใจจะพิสูจน์ก็ได้ค่ะ
เท่าที่ได้พูดคุยกับพ่อรู้สึกว่าเขาเป็นยังไง?
ทราย : แค่บอกว่าทรายชื่อทรายอายุ 15 แล้วไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลยขนาดนั่งอยู่ด้วยกันเป็นชั่วโมง 2ชั่วโมง ขนาดเจอหน้าเขาและรู้ว่าเขาเป็นพ่อทรายยังไม่เรียกเขาว่าพ่อเลย จะเรียกคุณทิม ส่วนตัวเขาไม่คุยกับทรายค่ะแต่ก็ได้กอดกันตอนจะกลับครั้งหนึ่งก็น้ำตาเล็ดเหมือนกัน ไม่เคยดีใจขนาดนี้มาก่อนเลย แต่ก็เป็นเหมือนมารยาทฝรั่งที่จะจากกันก็กอดกันก็ดีใจนะได้แตะตัวพ่อครั้งแรก เขาก็กอดและก็ไป ด้วยความไม่สนิทเราเลยไม่ได้คุยกันเลย
รู้สึกยังไงกับพ่อ?
ทราย : ก็ผิดหวังหน่อยที่เขาไม่ติดต่อกลับมาเลย เห็นแม่บอกว่าพอบอกให้ช่วยส่งเสียหน่อยเขาบอกว่าจะไปคิดดูก่อนและไม่ติดต่อมาเลย อันนั้นก็ถือว่าแรงเหมือนกัน เขาไม่ใจร้ายค่ะแต่เขาไม่มีความรับผิดชอบ ตอนนี้ทรายก็ไมได้โกรธเขานะคะ เขายังไม่ได้ออกมาคุยอะไรกับเราเลย แต่เราก็คงไม่ติดต่อไปรอดูว่าเขาจะออกมาแบบไหน
จะฝากถึงทาทายังไง?
แม่ : ก็ขอโทษน้องทาทาด้วยนะคะแม่ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ จริงๆ เป็นเรื่องบังเอิญ จริงๆ แล้วถ้าเกิดแม่จะทำก็ทำตั้งนานแล้ว ขอโทษน้องทาทามากๆ
ทราย : ตรงนี้คือทรายไม่อยากไปก้าวก่ายพี่ทาทาเขาเท่าไหร่นะคะ แต่ที่เป็นพ่อเดียวกันทรายก็ขอโทษพี่ทาทาขอโทษจริงๆ (ยกมือไหว้) ทรายไม่ได้ต้องการไปก้าวก่ายชื่อเสียงของพี่เขาน่ะค่ะ แต่ทรายต้องการความช่วยเหลือจากพ่อให้มาดูแลแม่ช่วยส่งเสียทรายหน่อย
ต่อจากนี้ไปจะวางแผนชีวิตยังไง
แม่ : แม่ก็ทำตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะเหมือนเมื่อก่อนที่ทำมา
ทราย : ก็อยู่ในวงการนี้มานานแล้วนะคะก็เล่นหนังละคร ก็ขึ้นอยู่กับตัวทรายเองว่าความสามารถจะดีแค่ไหน ตั้งแต่มีข่าวก็ไม่ทราบว่ามีใครติดต่อมาบ้างเพราะว่าทรายก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ชวนแม่พาไปวัดบ้าง อยากอยู่กับแม่และครอบครัว แต่ข่าวมันออกมาแบบนี้ทุกคนจะมองว่าเราผิดรึเปล่ากลัวสายตาคนมองมากกว่าค่ะ
รู้สึกยังไงได้เป็นน้องทาทา?
ทราย : ก็ดีใจนะคะพี่เป็นซูเปอร์สตาร์โอ้โหดังใหญ่เลย ถ้าพ่อไม่ยอมรับก็เสียความรู้สึกมากพอสมควร เป็นพ่อแท้ๆ แต่มาตัดลูกแต่เราคงจะไปอะไรกับเขามากไม่ได้ใช่มั้ยคะ เพราะเขายังไม่พูดอะไรเลย ถ้าเจอพี่ทาทาก็คงเฉยๆ น่ะค่ะแต่ก็อยากปรับความเข้าใจอยากเจอบอกว่าขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้
ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้มีข่าวว่าเตรียมจะออกพ็อคเก็ตบุ๊คเกี่ยวกับเรื่องพ่อด้วย?
ทราย : ใช่ค่ะ ทรายขอให้พี่เขาทำให้แล้วค่ะ หนูต้องการจะเรียกร้องพ่ออยู่แล้ว แต่แม่จะคอยห้ามตลอดเลย หนูก็ไม่ยอมเราอยากสบายอะไรอย่างนี้ อยากให้แม่สบายก็อยากเรียกร้องให้แม่น่ะค่ะ หนูทำงานในวงการบันเทิงก็เพื่อช่วยแม่ด้วยก็ให้เงินแม่หมดเลย โดยส่วนตัวอยากเป็นนางแบบ อยากเป็นเบื้องหลังด้วยเป็นดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าเพราะวงการบันเทิงไม่ได้อยู่คู่กับเราตลอดไป ถ้าเราไม่เก่งจริงเราก็อยู่วงการนี้ได้ไม่นานค่ะ
ในพ็อคเก็ตบุ๊คมีรายละเอียดอะไรบ้าง?
ทราย : เนื้อหาจะเป็นเรื่องของทรายกับแม่ส่วนใหญ่ แล้วก็จะมีประมาณว่าพ่อเป็นใคร ไม่มีเอ่ยชื่อหรืออะไร ไม่มีก้าวก่ายอะไรทั้งนั้น
พ็อคเก็ตบุ๊คทำก่อนหรือหลังที่เจอพ่อ?
ทราย : หลังค่ะ เวลาอัดเสียงทรายก็พูดแบบยิ้มๆ ดีใจค่ะไม่ใช่คับแค้นใจหรือประชดค่ะ ไม่ได้คิดอย่างนั้น ในพ็อคเก็ตบุ๊คก็มีชื่อทรายด้วยแต่ไม่มีชื่อพี่ทาทา ชื่อพ่อก็มีว่าทิมค่ะ
ถ้าคนมองว่ากระแสตรงนี้ทำให้พ็อคเก็ตบุ๊คดังรู้สึกยังไง?
ทราย : ก็คงไปนั่งตัดสินใจกับแม่กับป้าและครอบครัวอีกที ไม่แน่นะถ้าเกิดว่าทำออกมาแล้วเรารวยหนูก็ทำนะ
เป็นการเตรียมที่จะพูดเรื่องนี้อยู่แล้วแต่เรื่องมันดันหลุดออกมาก่อนใช่ไหม?
ทราย : คือเราไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุอย่างนี้ขึ้นค่ะ ในหนังสืออาจจะมีกล่าวชื่อคุณทิม ยัง บ้าง ถ้าเกิดเขาจะมาฟ้องว่าเราแอบอ้างชื่อหนูก็ไม่กลัวค่ะ ลูกคนหนึ่งจะเรียกพ่อตัวเองไม่ได้เลยเหรอ
https://www.facebook.com/teeneedotcom