´น้องทราย´ เปิดใจยันไม่คิดใช้ชื่อพี่ ทาทา ไต่เต้า

´น้องทราย´ เปิดใจยันไม่คิดใช้ชื่อพี่ "ทาทา" ไต่เต้าลั่นเงินสำคัญที่สุด พร้อมวอนขอค่าเลี้ยงดูจาก ´พ่อ´

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2549 00:35 น.

"น้องทราย" แถลงข่าวเปิดใจเรียกร้องอ้างสิทธิ์น้องสาว "ทาทา ยัง" แต่ยืนยันไม่ได้สร้างเรื่องหวังใช้ชื่อพี่สาวเรียกเรตติ้งไต่เต้า เผยยุคนี้เงินสำคัญที่สุดก่อนน้ำตานองหน้าวอนพ่อ "ทิม ยัง" ออกมารับผิดชอบค่าเลี้ยงดูหลังไม่เหลียวแลปล่อยให้ทั้งแม่และตนลำบาก พร้อมแจงถึงพ็อคเก็ตบุ๊คเขียนถึงพ่อที่จะออกในเร็วๆ นี้

กลายเป็นเรื่องโอละพ่อที่สร้างความสนใจให้กับประชาชนหลายต่อหลายคนทีเดียวกับเรื่องราวอันเหลือเชื่อของ "น้องทราย สุภัสสรา เรืองวงศ์" นางแบบโฆษณาหลังเคลียร์ปัญหาหายออกจากบ้านจบแล้ว แต่กลับมาเซอร์ไพร์สเมื่อเรื่องถูกเปิดเผยว่ามีพ่อคนเดียวกับนักร้องดัง "ทาทา ยัง" กลายเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาว่าเป็นการเกาะกระแสหวังดังและปูทางเพื่อเข้าสู่วงการบันเทิงหรือไม่?

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดนั้น ในวันนี้ (24 เมษายน) "นางนุชนาฎ เรืองวงศ์" พร้อมด้วยบุตรสาว "น้องทราย" ก็ได้ควงกันออกมาแถลงข่าวที่ซ.นาทอง 2 ห้วยขวาง ถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแบบหมดเปลือก


ทำไมวันนี้ออกมาแถลง?
แม่ : ไม่ได้ต้องการทำให้น้องมีชื่อเสียงหรือดึงกระแสข่าวมาให้น้อง พอดีเป็นเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นแบบนี้ จริงๆ แล้วแม่ปิดความลับมาตั้งนานแล้วนะคะคือไม่อยากบอกน้องเขา พอดีน้องเขามารู้ตอนที่น้องเขาหายตัวไปค่ะไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรจากเขา

เจอกันก็ไม่ได้คุยอะไรกัน จะคุยเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปถามข่าวคราวอยู่ยังไง ก็บอกว่าน้องทรายเป็นลูกแต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไร เขาก็ทำเฉยๆ ถ้าเขาติดต่อมาให้ความช่วยเหลือแม่จะรับรึเปล่า ก็จริงๆ แล้วแม่ไม่เคยเรียกร้องอยู่แล้ว แต่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ ก็มีข่าวทุกวันว่าคนนี้คือพ่อ ถ้าเรียกร้องก็เรียกร้องไปตั้งนานแล้ว ถ้าจะเรียกร้องก็คงเรียกร้องว่าลูกขาดพ่อและให้ช่วยเหลือ

ก่อนหน้านี้แม่จะพูดถึงพ่อยังไงบ้าง?
แม่ : ก็บอกว่าคุณพ่อเสียแล้วจะบอกเขาอย่างนี้ตลอดที่เลือกบอกแบบนั้นเพราะว่าอย่างที่เห็นๆ อยู่น้องทาทากำลังดังอยู่จนถึงทุกวันนี้แม่ก็ตามข่าวตลอด ถ้าเกิดทำไปแม่กลัวน้องเขาจะเสียชื่อเสียงแล้วก็น้องทรายก็เป็นลูกผู้หญิงด้วยก็กลัวว่าเขาจะเสียทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าเกิดว่าจะทำก็ทำตั้งนานแล้ว แต่พอมันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ แล้วแม่จะเก็บความลับนี้ไว้ให้ดีที่สุดน่ะค่ะ

ทราย: (เสียงสั่นน้ำตาร่วง) คือหนูอยากให้เขามาดูแลหนูบ้าง เขาไม่เคยมาดูแลพวกหนูเลย ซึ่งเขาเป็นผู้ชายเขาน่าจะรับผิดชอบ แม่ก็เลี้ยงหนูมาตั้งแต่เด็กด้วยน้ำพักน้ำแรง เขาก็ไม่ได้เดือดดร้อนอะไรแต่ด้วยความเป็นพ่อหนูแค่อยากให้เขามาช่วยดูแลบ้าง

คุณทิมยอมรับไหมว่าน้องเป็นลูก?
แม่ : เขาไม่ได้พูดอะไร จริงๆ แล้วเรื่องตรวจดีเอ็นเอเนี่ยถ้าเกิดเขาต้องการอย่างนั้นแม่พร้อมนะคะแต่ว่าที่ผ่านมาในเมื่อเราบอกเขาไปแล้วแต่เขายังเฉย มันจะมีความหมายอะไรล่ะคะที่เขาจะทำอย่างนั้นน่ะ ตอนนั้นไม่ทราบว่ามีครอบครัวแล้ว เพราะว่าช่วงนั้นแม่เป็นเด็กบ้านนอกเลยไม่รู้อะไร ตอนนั้นไม่รู้นะคะว่าเป็นพ่อทาทา แต่เคยไปเฝ้าเขาที่โรงพยาบาลนะคะก็พอดีเห็นน้องเขากับคุณแม่เขาไปเยี่ยมก็เลยรู้ค่ะ

ทราย : รูปคู่หนูกับพ่อถ่ายเมื่อปีที่แล้วค่ะในย่านนั้นจะมีช่างถ่ายรูปใบละ 100 น่ะค่ะ เขาก็สนิทกับคุณพ่อเขาก็โอเคถ่ายๆ หลังจากวันที่เจอกันก็ไมได้ติดต่อกันอีกเลย ตอนนั้นที่หนูรู้ความจริงว่าเขาเป็นพ่อของหนูก็บอกแม่ว่าอยากเจอ หนูเป็นลูกไม่มีสิทธิเจอเลยเหรอ (ร้องไห้) ก็เลยอยากเจอเขาคุณแม่ก็ไม่รู้จะทำยังไงแต่แม่เขาจำเบอร์พ่อได้ก็เลยโทรไปว่าอยากเจอ ก็เลยนัดเจอกัน


ออกมาในช่วงที่ทาทากำลังดังจะตอบสังคมว่ายังไงดี?
แม่ : มันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าเพราะว่าจริงๆ แล้วน้องเขาก็ดังมานานแล้ว ไม่จำเป็นต้องออกมาตอนที่โก อินเตอร์หรืออะไร จริงๆ แล้วโอกาสข้างหน้าเรามองไม่เห็นด้วยว่าจะเป็นยังไง

ตอนที่รู้ว่าคนนี้คือพ่อรู้สึกยังไง?
ทราย : หนูก็พูดไม่ออกค่ะ เพราะเพื่อนๆโทรมาบอกว่าพ่อรึเปล่าเพราะตอนที่หนูทำรูปส่งครูกับรูปหนังสือพิมพ์เพราะหนูมีรูปเขารูปนั้นรูปเดียวแล้วหนูมาตัดตัวเขาออกเอาหัวมาแปะส่งครู เพื่อนจะเห็นตอนหน้าหนังสือพิมพ์ตอนที่แม่ของพี่ทาทาเขาเสีย เขาก็บอกกันว่าพ่อเดียวกับทาทาแน่เลย

ตอนนั้นทรายไม่เชื่อแต่พอเพื่อนเอาหนังสือพิมพ์มาให้ดูแล้วเอางานทรายมาทาบ ทรายก็อึ้งน่ะแต่ทรายไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงค่ะ หลังจากนั้นทรายก็บอกให้แม่ติดต่อค่ะ เจอกันที่ร้านอาหารแถวสีลมเมื่อปีที่แล้ว เขาก็ถามว่าชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ หลังจากนั้นเขาก็คุยกับแม่แต่หนูไม่รู้เรื่องว่าเขาคุยอะไรกัน

คนมองว่าทรายแค่หน้าคล้ายแล้วมาแอบอ้างรึเปล่าจะบอกคนอื่นเขาว่ายังไง?
ทราย : หนูก็ไม่รู้หนูก็จะไปห้ามจิตใจเขายังไงล่ะค่ะเพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไง ถ้าจะให้หนูพิสูจน์หนูก็กล้าค่ะเพราะแม่ก็ยื่นคำขาดขนาดนั้นแล้วว่าพิสูจน์ก็ได้

อาศัยกระแสด้านนี้อาศัยเป็นดาราไหม?
ทราย : ไม่ค่ะ พี่ทาทาเขาเก่งด้านร้องเพลงใช่มั้ย แต่ทรายเคยไปทำเกี่ยวกับด้านร้องเพลงแล้วแต่ทรายไม่รุ่งด้านนี้ค่ะ ทรายจะเป็นพวกถ่ายโฆษณาด้านนั้นมากกว่า

อยากให้พ่อออกมาดูแลขนาดไหนรับเป็นลูกเลยไหม?
ทราย : ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ ส่งเสียเรื่องเรียนของทราย การกินอยู่ที่บ้านนิดหน่อย ไม่ต้องอยู่ด้วยกันก็ได้ค่ะเพราะสมัยนี้เงินสำคัญที่สุด ถ้าไม่มีเงินเราก็ไม่มีอนาคต ตอนนี้ต้องเหนื่อยพอสมควรเหมือนกันทั้งทรายทั้งแม่เพราะแม่ทำเกี่ยวกับทัวร์ด้วยแล้วใช่ว่าจะมีทัวร์ลงมาตลอด


ถ้าพ่อไม่รับเราจะทำยังไง?
ทราย : ตอนนี้ทรายก็ต้องปรึกษาพี่ๆ เขาก่อน ตามความคิดทรายถ้าเขาออกมาพูดเองเลยว่าเขาไม่อยากรับผิดชอบอะไรก็จะเป็นผลเสียแก่สังคมของเขาเองคือตัวเราไม่เสียอะไรอยู่แล้วค่ะ ถ้าเขาทำร้ายจิตใจทรายมากๆ พูดจากระแทกทรายเกินไปหรือจิตใจแม่ทรายก็อาจจะฟ้องเขาหรือแจ้งความเพราะแน่นอนเลยแม่บอกว่าแม่ไม่เคยยุ่งกับฝรั่งคนไหนเลย ทรายก็มั่นใจจะพิสูจน์ก็ได้ค่ะ

เท่าที่ได้พูดคุยกับพ่อรู้สึกว่าเขาเป็นยังไง?
ทราย : แค่บอกว่าทรายชื่อทรายอายุ 15 แล้วไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลยขนาดนั่งอยู่ด้วยกันเป็นชั่วโมง 2ชั่วโมง ขนาดเจอหน้าเขาและรู้ว่าเขาเป็นพ่อทรายยังไม่เรียกเขาว่าพ่อเลย จะเรียกคุณทิม ส่วนตัวเขาไม่คุยกับทรายค่ะแต่ก็ได้กอดกันตอนจะกลับครั้งหนึ่งก็น้ำตาเล็ดเหมือนกัน ไม่เคยดีใจขนาดนี้มาก่อนเลย แต่ก็เป็นเหมือนมารยาทฝรั่งที่จะจากกันก็กอดกันก็ดีใจนะได้แตะตัวพ่อครั้งแรก เขาก็กอดและก็ไป ด้วยความไม่สนิทเราเลยไม่ได้คุยกันเลย

รู้สึกยังไงกับพ่อ?
ทราย : ก็ผิดหวังหน่อยที่เขาไม่ติดต่อกลับมาเลย เห็นแม่บอกว่าพอบอกให้ช่วยส่งเสียหน่อยเขาบอกว่าจะไปคิดดูก่อนและไม่ติดต่อมาเลย อันนั้นก็ถือว่าแรงเหมือนกัน เขาไม่ใจร้ายค่ะแต่เขาไม่มีความรับผิดชอบ ตอนนี้ทรายก็ไมได้โกรธเขานะคะ เขายังไม่ได้ออกมาคุยอะไรกับเราเลย แต่เราก็คงไม่ติดต่อไปรอดูว่าเขาจะออกมาแบบไหน

จะฝากถึงทาทายังไง?
แม่ : ก็ขอโทษน้องทาทาด้วยนะคะแม่ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ จริงๆ เป็นเรื่องบังเอิญ จริงๆ แล้วถ้าเกิดแม่จะทำก็ทำตั้งนานแล้ว ขอโทษน้องทาทามากๆ

ทราย : ตรงนี้คือทรายไม่อยากไปก้าวก่ายพี่ทาทาเขาเท่าไหร่นะคะ แต่ที่เป็นพ่อเดียวกันทรายก็ขอโทษพี่ทาทาขอโทษจริงๆ (ยกมือไหว้) ทรายไม่ได้ต้องการไปก้าวก่ายชื่อเสียงของพี่เขาน่ะค่ะ แต่ทรายต้องการความช่วยเหลือจากพ่อให้มาดูแลแม่ช่วยส่งเสียทรายหน่อย

ต่อจากนี้ไปจะวางแผนชีวิตยังไง
แม่ : แม่ก็ทำตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะเหมือนเมื่อก่อนที่ทำมา
ทราย : ก็อยู่ในวงการนี้มานานแล้วนะคะก็เล่นหนังละคร ก็ขึ้นอยู่กับตัวทรายเองว่าความสามารถจะดีแค่ไหน ตั้งแต่มีข่าวก็ไม่ทราบว่ามีใครติดต่อมาบ้างเพราะว่าทรายก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ชวนแม่พาไปวัดบ้าง อยากอยู่กับแม่และครอบครัว แต่ข่าวมันออกมาแบบนี้ทุกคนจะมองว่าเราผิดรึเปล่ากลัวสายตาคนมองมากกว่าค่ะ

รู้สึกยังไงได้เป็นน้องทาทา?
ทราย : ก็ดีใจนะคะพี่เป็นซูเปอร์สตาร์โอ้โหดังใหญ่เลย ถ้าพ่อไม่ยอมรับก็เสียความรู้สึกมากพอสมควร เป็นพ่อแท้ๆ แต่มาตัดลูกแต่เราคงจะไปอะไรกับเขามากไม่ได้ใช่มั้ยคะ เพราะเขายังไม่พูดอะไรเลย ถ้าเจอพี่ทาทาก็คงเฉยๆ น่ะค่ะแต่ก็อยากปรับความเข้าใจอยากเจอบอกว่าขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้

ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้มีข่าวว่าเตรียมจะออกพ็อคเก็ตบุ๊คเกี่ยวกับเรื่องพ่อด้วย?
ทราย : ใช่ค่ะ ทรายขอให้พี่เขาทำให้แล้วค่ะ หนูต้องการจะเรียกร้องพ่ออยู่แล้ว แต่แม่จะคอยห้ามตลอดเลย หนูก็ไม่ยอมเราอยากสบายอะไรอย่างนี้ อยากให้แม่สบายก็อยากเรียกร้องให้แม่น่ะค่ะ หนูทำงานในวงการบันเทิงก็เพื่อช่วยแม่ด้วยก็ให้เงินแม่หมดเลย โดยส่วนตัวอยากเป็นนางแบบ อยากเป็นเบื้องหลังด้วยเป็นดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าเพราะวงการบันเทิงไม่ได้อยู่คู่กับเราตลอดไป ถ้าเราไม่เก่งจริงเราก็อยู่วงการนี้ได้ไม่นานค่ะ

ในพ็อคเก็ตบุ๊คมีรายละเอียดอะไรบ้าง?
ทราย : เนื้อหาจะเป็นเรื่องของทรายกับแม่ส่วนใหญ่ แล้วก็จะมีประมาณว่าพ่อเป็นใคร ไม่มีเอ่ยชื่อหรืออะไร ไม่มีก้าวก่ายอะไรทั้งนั้น

พ็อคเก็ตบุ๊คทำก่อนหรือหลังที่เจอพ่อ?
ทราย : หลังค่ะ เวลาอัดเสียงทรายก็พูดแบบยิ้มๆ ดีใจค่ะไม่ใช่คับแค้นใจหรือประชดค่ะ ไม่ได้คิดอย่างนั้น ในพ็อคเก็ตบุ๊คก็มีชื่อทรายด้วยแต่ไม่มีชื่อพี่ทาทา ชื่อพ่อก็มีว่าทิมค่ะ

ถ้าคนมองว่ากระแสตรงนี้ทำให้พ็อคเก็ตบุ๊คดังรู้สึกยังไง?
ทราย : ก็คงไปนั่งตัดสินใจกับแม่กับป้าและครอบครัวอีกที ไม่แน่นะถ้าเกิดว่าทำออกมาแล้วเรารวยหนูก็ทำนะ

เป็นการเตรียมที่จะพูดเรื่องนี้อยู่แล้วแต่เรื่องมันดันหลุดออกมาก่อนใช่ไหม?
ทราย : คือเราไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุอย่างนี้ขึ้นค่ะ ในหนังสืออาจจะมีกล่าวชื่อคุณทิม ยัง บ้าง ถ้าเกิดเขาจะมาฟ้องว่าเราแอบอ้างชื่อหนูก็ไม่กลัวค่ะ ลูกคนหนึ่งจะเรียกพ่อตัวเองไม่ได้เลยเหรอ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์