หลงกลมายาเมย์ พูดไม่คิด!!

ถ้าเราทำอะไรไม่ดีออกไป พ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ไหนและเราจะมองหน้าเขาได้อย่างไร


เพิ่งคว้ารางวัลสาวเซ็กซี่แห่งปี จากนิตยสาร FHM ไปหมาดๆ สำหรับหมวยสาวผิวขาวจั๊วะ "เมย์"พิชญ์นาฏ สาขากร

วันนี้ได้จังหวะดีที่เจ้าตัวเปิดโอกาสเล่าเรื่องราวชีวิตให้ฟัง

เมย์เป็นคนที่ไหน?

เมย์ - "เป็นคนกรุงเทพฯค่ะ คุณพ่อเป็นอัยการ คุณแม่จบกฎหมายที่ม.ธรรมศาสตร์ แต่ไม่ได้ทำงานด้านนี้ และเมย์มีพี่ชาย 1 คน ซึ่งก็จบกฎหมายเหมือนกัน เป็นนิติกร"

ชีวิตวัยเด็กเป็นอย่างไร?

เมย์ - "แม่เคยเล่าว่าตอนที่แม่ท้อง แม่ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมเพื่อขอให้ได้ลูกสาว ตกกลางคืนแม่ฝันว่ามีเด็กผู้หญิงถักเปียมานั่งบนหลังคาบ้าน พอตื่นเช้าไปตรวจท้องที่ร.พ.ปรากฏเป็นลูกผู้หญิงจริงๆ พอเมย์เกิด (22 พ.ค. 2524) ตอนเด็กๆ แม่จะถักเปียให้เมย์เพราะจะได้เหมือนในฝัน ซึ่งมันส่งผลให้เมย์ไม่กินเนื้อเพราะนับถือเจ้าแม่กวนอิม เมย์เป็นเด็กเลี้ยงง่าย กินง่ายนอนง่าย ดื้อบ้างนิดหน่อย แต่จะดื้อเงียบ ที่บ้านค่อนข้างระเบียบ เช้าพ่อส่งไปโรงเรียน เย็นแม่จะไปรับ"

แสดงว่าพ่อแม่ค่อนข้างหวง?
เมย์ - "ค่ะ หวงขนาดไม่ให้คบเพื่อนผู้ชาย บางวันพ่อจะส่งถึงโต๊ะเรียนเลย ห้ามนั่งเกินแถวที่ 2 นั่งแถวหน้ายิ่งดี และให้คบเพื่อนที่เรียนเก่งๆ ทำให้ช่วงเด็กๆ เมย์เรียนหนังสือดี สอบได้ที่ 1 บ้าง ที่ 2 บ้าง แต่พอเข้ามัธยมเริ่มรู้สึกว่าทำไมพ่อแม่ต้องทำขนาดนั้น เหมือนเก็บกดอยู่ข้างในก็เริ่มต่อต้าน พอเรียนถึงม.3 (บดินทรเดชา 2) ก็เริ่มเล่นกีฬา

เริ่มนั่งเรียนกลางห้อง เริ่มมองออกไปนอกรั้วโรงเรียนแล้วว่ามันก็น่าสนใจ เริ่มแอบดื้อแอบเกเรนิดหน่อย เข้าโรงเรียนสายบ้าง แต่ไม่ถึงโดดเรียน พอเมย์เปลี่ยนพฤติกรรม ที่บ่านก็เริ่มเป็นห่วง ช่วงนั้นเป็นช่วงรอยต่อระหว่างม.3 กับม.4 เขาก็เลยมาคุยและบอกว่าถ้าสอบเรียนต่อม.4 ได้ เขาจะให้ทำกิจกรรมและต้องเรียนไม่ให้เกรดต่ำ ซึ่งเราก็ทำได้ ที่บ้านเลยเริ่มปล่อยมากขึ้น"



แล้วช่วงไหนที่เข้าวงการ?

เมย์ - "ตอนม.5 ปลายเทอม ไปติวที่อิมพีเรียลเวิลล์ ลาดพร้าว เริ่มมีแมวมองชวนให้ไปแคสต์นั่นแคสต์นี่ ถามว่าชอบมั้ย ไม่ชอบ แต่อยากรู้อยากเห็น โดยงานชิ้นแรกเป็นงานโฆษณากรีนสปอร์ต ตื่นเต้นมาก ได้เงินมาถึง 4 หมื่นบาท ความจริงที่บ้านไม่ค่อยสนับสนุน แต่ก็ไม่ถึงห้าม แต่จะให้ทำได้ตอนว่าง เวลาเรียนต้องไปเรียน ก็มีงานโฆษณาเข้ามาเรื่อยๆ เริ่มมีมิวสิควิดีโอให้เล่น เล่นไปทั้งหมด 23 เพลง


โดยส่วนใหญ่จะเล่นแต่เพลงเศร้า ตอนเล่นไม่ค่อยชอบเพราะเหนื่อย ร้องไห้ตลอด แต่พอออกมาเป็นมิวสิคฯแล้วกลับโอเค เพราะมันก็คือหนังสั้นเรื่องหนึ่ง และก็มีคนมาชวนให้เล่นละคร แต่ก็ปฏิเสธเพราะที่บ้านห้าม เป็นช่วงสอบเอ็นทรานซ์ อีกอย่างไม่ได้อยากเป็นดารา แค่อยากทำงานสั้นๆ อย่างถ่ายโฆษณา ถ่ายมิวสิคฯ หลังสอบเทียบได้ก็ลองไปเอ็นทรานซ์ แต่ไม่ติด เลยสอบเข้าเอแบค คณะบริหาร พ่อแม่เองก็ไม่บังคับ


ขอให้เรียนหนังสือก็พอ เขาพูดไว้ตั้งแต่เด็กแล้วว่าถ้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วจะทำอะไรเขาจะไม่ว่า ในช่วงนี้ก็มีคนมาชวนไปแคสต์ละครอีก จนได้เล่นเรื่อง "สะใภ้จ้าว" เล่นเป็นตัวร้าย ยากมาก แต่พอเล่นไปก็ชอบ กลับบ้านเห็นพ่อแม่ดูด้วย ก็เริ่มชอบ เรื่องแรกประสบผลสำเร็จ จากนั้นก็มีงานถ่ายหนังสือ งานละครเข้ามาเต็มเลย แต่จะมีแต่บทร้ายๆ หมดเลย ซึ่งก็ไม่ได้ซีเรียส"

แล้วได้เป็นนางเอกหนังได้อย่างไร?

เมย์ - "อยู่ดีๆ มีโทรศัพท์ติดต่อให้เป็นนางเอกหนัง "สายล่อฟ้า" คนที่โทร.มาคือพี่อร ผู้จัดการของเมย์ทุกวันนี้ ความจริงก่อนหน้านี้เขาเคยโทร.มาชวนให้เล่น "มือปืน/โลก/พระ/จันทร์" แต่ที่บ้านไม่ให้เล่น พอพี่เขาชวนอีกก็เลยตกลง พอหนังเรื่องนี้ออกฉาย

จากนางร้ายก็กลายเป็นนางเอกทันที แต่เป็นนางเอกที่ภาพออกเซ็กซี่ ก็กลายเป็นว่ามีแฟนคลับ มีเด็กเขียนจดหมายมาหา ส่งขนมมาให้ ทำเว็บไซต์ให้ ซึ่งงานที่ตามมาก็คือมีถ่ายแบบเซ็กซี่ ครั้งแรกที่ถ่ายคือหนังสือ LIPS ก็ตกใจ ร้องไห้ เพราะเซ็กซี่มาก ด้วยความที่ไม่เคยถ่ายขนาดนี้ก็กลัวพ่อแม่ว่า


ตอนถ่ายไม่คิดว่าจะขนาดนี้ แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมาก แค่เตือนว่าให้ระวัง ดูดีๆ จากนั้นก็มีหนังอีกหลายเรื่อง ส่วนการถ่ายแบบก็จะมีคนติดต่อมาให้ถ่ายหวือๆ มาก เมย์เป็นคนหัวสมัยใหม่ รับงานไม่ถึงขนาดต้องไปถามพ่อแม่ แต่ถ้าอะไรที่มันมากไปก็ตัดสินใจเองได้ว่าไม่รับ เพราะสงสารพ่อแม่ ถ้าเราทำอะไรไม่ดีออกไป พ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ไหน และเราจะมองหน้าเขาได้อย่างไร"



จากที่ได้สัมผัสวงการชอบมั้ย?

เมย์ - "เหมือนเราติดเหมือนกัน ชอบที่ได้เจอคนเยอะๆ ชอบที่จะทำงานแล้วหาเงินได้เอง ทำให้เราโตขึ้น มีความรับผิดชอบ แต่บางครั้งก็รู้สึกเศร้ากับบางเรื่องที่เป็นน้ำท่วมปาก ข่าวบางข่าวเขียนโดยที่ไม่รู้ว่าตัวจริงเมย์เป็นอย่างไร ภาพที่นำเสนอออกไปจะบอกว่าเมย์เซ็กซี่ มั่นใจ เป็นคนเจ้าชู้ ซึ่งเมย์ไม่สามารถมานั่งอธิบายกับทุกคนได้"

แล้วเจ้าชู้อย่างที่เขาพูดหรือเปล่า?

เมย์ - "เมย์ว่าถ้าหากคนที่เจ้าชู้เขาจะไม่บอกว่ามีแฟนแล้ว เมย์รู้สึกว่าเมย์เป็นคนเปิดเผย มีอะไรเมย์พูดหมด พอเราบอกว่าไม่มีแฟน เขาก็จะบอกว่าเราโกหก แต่พอบอกว่ามีแฟนแล้ว แต่เห็นเราไปเดินกับคนอื่นโดยที่เราไปทำงาน เขาก็บอกว่าเป็นกิ๊กเรา และเมย์เป็นคนที่ไม่ระวังตัว เจอใครก็คุยก็ทักไปหมด คนไหนสนิทก็เข้าไปกอดไปเกาะแขน อีกอย่างเมย์เป็นคนที่ใครถามอะไรจะตอบหมด ก็เลยกลายเป็นเรื่อง เพราะเราเป็นคนตอบเร็วแบบไม่ทันคิด"

ส่งผลมากขนาดไหนกับการพูดแบบไม่ทันคิด?

เมย์ - "ส่งผลมากเลยค่ะ เพราะบางครั้งมีรายการสดโทร.มาสัมภาษณ์ เราก็ตอบแบบไม่ทันคิด บางเรื่องมันไม่เหมาะไม่ควร มันก็ส่งผลทันที ตรงนี้จึงอยากจะบอกว่าเมย์ขอโทษ เมย์ไม่ได้มีเจตนาที่จะคิดไม่ดีแบบนั้น มันเป็นความผิดของเมย์เองที่ยังไม่ทันคิด ไม่ได้ตั้งใจ บางอย่างที่พูดไป จนเพื่อนหรือผู้ใหญ่บอกว่า พูดไปได้ยังไงแบบนั้น เราถึงได้รู้ตัวว่าเราทำไม่ถูก แต่คนที่สนิทจะรู้ว่าเมย์ไม่ใช่เป็นคนแบบนั้น บางครั้งก็เสียใจกับการกระทำของตัวเองจนร้องไห้ก็มี"

แก้ไขอย่างไรกับเรื่องนี้?
เมย์ - "ตอนนี้ก็จะใช้วิธีนั่งสมาธิ เพราะหลังๆ เรื่องแบบนี้จะมีผลกระทบกับตัวเองมากขึ้น ซึ่งจะโทษคนอื่นไม่ได้ เราผิดเอง จึงต้องหาทางแก้ไขด้วยตัวเอง ด้วยการปรับตัวเองให้มีสมาธิมากยิ่งขึ้น เวลาพูดจะได้ระมัดระวัง เพราะในช่วงนี้ดูเหมือนจะทำอะไรหลายอย่างแล้วมันฟุ้งๆ ซึ่งบางส่วนอาจจะเกิดจากที่เรางานเยอะขึ้น สมองแบ่งไม่ทัน อีกอย่างเมย์เป็นคนที่ไม่ค่อยอยากจะจำอะไรอยู่แล้ว จึงอาจจะมีหลุด อยากบอกทุกคนว่า เมย์ไม่เคยคิดร้ายกับใครและขอโทษกับบางคำพูดที่ไม่ทันได้คิด"



ชีวิตจากนี้ไปคิดไว้อย่างไร?

เมย์ - "คิดว่าอยากจะเรียนเอาปริญญาให้พ่อแม่ ตอนนี้เมย์ยังเรียนที่เอแบคอยู่ ยังไม่จบ แต่ก็อีกไม่เยอะ และก็ไปลงเรียนไว้ที่ม.ราชภัฏธนบุรี คณะรัฐศาสตร์ด้วย ที่ต้องลง 2 ที่ก็เพราะเมย์ต้องทำงาน กลัวจะไม่จบ ที่ราชภัฏธนบุรีเป็นภาคพิเศษจึงเบาลงและคิดว่าปีหน้าน่าจะจบแล้ว และถ้าจบก็จะเรียนต่อโทเลย ซึ่งงานบันเทิงก็ไม่ทิ้ง และตอนนี้เมย์ก็ทำธุรกิจด้วยคือเปิดร้านติ่มซำ ชื่อ "นัมเบอร์ 69" ที่ทองหล่อ 9 แต่ก็คิดว่าจะไม่เป็นดาราตลอดไป อีกไม่นานก็คงจะเลิกแล้ว"

ทำไมถึงคิดแบบนั้น เพิ่งจะเริ่มดังยังมีเวลาอีกเยอะ?

เมย์ - "คือปีนี้มันอาจจะฮ็อต แต่ปีหน้าไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เมย์เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวพอสมควร มีสิ่งที่ตัวเองฝันคืออยากจะทำธุรกิจของตัวเอง ฝันอยากเป็นเจ้าของรีสอร์ต ที่ไม่ยึดติดวงการก็เพราะวันนึงออกจากวงการ มีครอบครัว เราก็อยากใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป"

"อยากเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นค่ะ"



"เมย์"มีรักเดียว

เป็นสาวหมวยที่มีข่าวรักกระฉ่อน จนหลายคนมองว่าหนู "เมย์"พิชญ์นาฏ สาขากร สุดแสนเจ้าชู้ แต่เจ้าตัวยืนยัน "เปล่า!!"

"สำหรับเรื่องความรักปกติ มีคนเดียว"

ใช่ "นายโอ๊ค" หนุ่มนักเรียนนอกหรือเปล่า "นั่นแหละค่ะ มีอยู่คนเดียว แต่ที่ผ่านมาจะเป็นข่าวกับหลายคนมาก แต่ก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก เพราะเราคิดว่ายังเด็ก จะให้มาพูดว่าจะแต่งเมื่อไหร่ วางแผนอะไรกันไว้ มันคงไม่ใช่เรื่อง เราเป็นแค่แฟนกัน ไม่ใช่สามีภรรยากัน เรายังไม่ได้แต่งงาน ถ้าเราจะไปรู้จักผู้ชายคนอื่นมันก็คงไม่ผิด ซึ่งคนอื่นก็แค่เป็นเพื่อน ไม่ใช่แฟน เราไม่ได้ทำอะไรผิดจารีตประเพณี ถ้าหากเมย์แต่งงานแล้ว แล้วไปทำแบบนั้นค่อยมาว่ากัน"

"เมย์เป็นคนเพื่อนเยอะ จึงไม่อยากจะให้มาพูดว่า เมย์มีแฟนใหม่หรือมีกิ๊ก เพื่อนก็เพื่อน แฟนก็แฟน ซึ่งข่าวที่ออกมา บางคนก็คือเพื่อนกัน แต่บางคนไม่เกี่ยวเลยก็มี ไม่รู้เอาอะไรมาเขียน ซึ่งบางครั้งชาวบ้านเขาไม่เข้าใจ ผลเสียก็มาตกอยู่กับเมย์ ก็อยากจะบอกว่า ถ้ามีอะไรสงสัยโทร.ถามได้ เมย์เป็นคนที่รับโทรศัพท์ทุกสาย ถ้าจริงเมย์จะได้ปรับปรุงตัว ถ้าไม่จริงก็จะได้ชี้แจงไป อย่าเขียนไปแบบผิดๆ เพราะผลมันมีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง จะทำให้ยุ่งกันไปใหญ่"

กับแฟนคุยกันเรื่องนี้หรือเปล่า "ไม่ค่อย เพราะแฟนเมย์เขาเข้าใจอยู่แล้ว และเขาก็จะสนิทกับคนที่ตกเป็นข่าวกับเมย์ ก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร แต่เขาก็เตือนให้ระวัง"

วางอนาคตเรื่องครอบครัวไว้บ้างหรือยัง สาวหมวยส่ายหน้า "ไม่ได้วางอะไรมาก เท่าที่คิดตอนนี้ ก็น่าจะอายุ 30 ปีถึงจะแต่งเพราะตอนนี้เมย์มีอะไรอีกเยอะที่อยากจะทำแล้วไม่ได้ทำ และก็ทำงานเก็บเงิน ส่วนหนึ่งเก็บ ส่วนหนึ่งเอามาทำธุรกิจ อีกส่วนหนึ่งเอามาสร้างบ้านให้พ่อ ซึ่งความจริงบ้านทุกวันนี้ก็โอเค สบาย แต่เราทำงานให้เงินเขา เขาก็ไม่เอา เพราะเขาจะบอกว่า ไม่ได้ให้เราทำงานเพราะอยากจะได้เงิน เราก็ไม่รู้จะตอบแทนเขายังไง ก็เลยสร้างบ้านให้ดีกว่า ส่วนกับแฟนก็ไม่ได้คุยเรื่องทำอะไรด้วยกัน ต่างคนต่างคิด ต่างทำ เพราะอนาคตเราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร"

กันไว้ดีกว่าแก้...



แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์