เปิดความสนิท พ่อพีท-น้องโรเตอร์ ตั้งเป้าดันลูกชายสู่ยุโรป
หล่อคู่ กาลเวลาทำอะไรคุณพ่อไม่ได้ แต่น้องโรเตอร์หล่อจังเลย อายุเท่าไหร่?
โรเตอร์ : อายุ 15 ครับ
รู้มั้ยดังในโซเชียลมาก?
โรเตอร์ : พอรู้ เพราะคุณแม่ลงผมเยอะ คนดูเยอะ
พอสาวๆ มากรี๊ดลูก พ่อรู้สึกยังไง หวงมั้ย?
พีท : ไม่หวง แค่เขาเหมือนกำลังจะเป็นวัยรุ่น แต่จริงๆ มีคนติดต่อให้น้องทำงานในวงการบันเทิงเยอะ แต่น้องยังไม่มีแพสชั่นตรงนี้ เขาขอโฟกัสที่การขับรถแข่งของเขาก่อน
โรเตอร์ : คนละแบบมากกว่า ถ้าเป็นคุณพ่อจะดุแป๊บเดียว แต่เขาห้ามเด็ดขาดเลย แม้ผมอยากจะไปกับเพื่อน ถ้าเขาไม่ให้ก็ไม่ได้เลย
พีท : ไม่ได้ดุตะโกน แต่จะให้เหตุผล พอหมดเหตุผลก็คือไม่ได้ แค่นั้น พูดปกติ ไม่ได้เสียงสูงเสียงต่ำ
โรเตอร์ : เสียงไม่เท่าไหร่ คือหน้ามากกว่า ถ้าเคยดูละครพ่อเป็นตัวร้ายก็ประมาณนั้น จะเห็นเลยสีหน้าเข้ม หน้านิ่ง เหมือนเล่นละครเลยครับ
พีท : ไม่ได้ดุมาก แค่พูดหน้านิ่งๆ เลย ว่าไม่ควรไปแบบนี้ เรียบๆ ง่ายๆ
แม่พูดไม่จบ?
โรเตอร์ : แม่จะพูดนานๆ ครับ มีเหตุผลเยอะครับ
นานสุดกี่วัน?
โรเตอร์ : แล้วแต่อารมณ์ด้วยครับ แล้วแต่ว่าเราตอบว่าอะไร ถ้าตอบไม่เข้าหูก็จะยาวนิดนึงครับ (หัวเราะ)
เห็นว่าน้องเป็นอภิชาตบุตรไม่มีอะไรให้ห่วงเลย?
พีท : จริงๆ ไม่ถึงขนาดนั้น แค่ด้วยวัยเขาจะมีเพื่อนเพิ่มขึ้น นอกจากเพื่อนในโรงเรียน ก็เหมือนยุคที่ผ่านๆ มา เราจะเจอทั้งเพื่อนที่ดี และคนที่อาจไม่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนเรา
โรเตอร์ : ใช่ครับ ถ้าคุณพ่อไม่แข่ง ผมก็ไม่น่าได้แข่งเหมือนกัน พ่อแข่งรถก่อนผมเกิดอยู่แล้วด้วย พอเกิดมาก็เห็นพ่อแข่งตลอด
พีท : แข่งครั้งแรกตอน 7 ขวบ ปกติพี่พีทแข่งรถหลายอย่าง ปีนี้แข่งแรลลี่ เขาจะปล่อยสตาร์ททีละคันในป่า ไม่ได้ปล่อยเป็นฝูงเหมือนทางเรียบ 3 นาทีก็ปล่อยสักคัน แล้วเราจะไปเปิดฤดูกาลแข่ง รถแข่งเรามีสองคัน อีกคันน้องเคยขับรถเล่นอยู่แล้วในป่าที่บ้านแถวเขาใหญ่ เราเลยโทรไปหาผู้จัดการแข่งขัน บอกว่าจะเป็นไปได้มั้ย ถ้าให้น้องโรเตอร์ ตอนนั้นอายุ 7 ขวบ ไม่ให้เขาร่วมทำการแข่งขัน แต่ให้เขาวิ่งตามรถแข่งคันสุดท้ายเพื่อดูเส้นทางการแข่งขัน ว่าเขาวิ่งทางแบบไหน มันเป็นยังไงบ้าง โดยไม่ต้องแข่ง พอรถแข่งออกไปหมดแล้ว ก็ให้เขาเป็นรถคันสุดท้าย ให้เขาได้ดูทาง พอการแข่งขันสเปเชียลสเตท แข่ง 10 ครั้งในเสาร์-อาทิตย์นึง พอสเตทแรกเป็นสเตทโชว์ นักแข่งและทีมแข่งจะอยู่แถวนั้นกันหมด เอสแรกวิ่งโชว์ ทำทรงให้ดูว่ารถแรงมั้ยลีลาการขับเป็นยังไงบ้าง พอหมดเอสที่หนึ่งถึงเข้าไปวิ่งในป่า พอหมดเอสที่หนึ่งน้องวิ่งปุ๊บ ทั้งกรรมการและนักแข่งบอกว่าถ้าอายุขนาดนี้ ขับแบบนี้ ไม่ต้องไปขับคันสุดท้าย เขาเป็นห่วง ให้มาวิ่งตรงกลางฝูงเลย เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น พี่ๆ ที่วิ่งตามหลังจะได้ช่วยดูได้ เพราะถ้าเขาวิ่งคันสุดท้ายของการแข่งขัน ก็เหมือนไม่มีคนตามมาไง
ตอน 5 ขวบที่นั่งข้างๆ จำความรู้สึกได้มั้ย?
โรเตอร์ : จำได้ครับ พ่อจะพาเข้าป่าทุกเช้าที่เขาใหญ่ สัก 7-8 โมง ผมก็จะนอนบนรถ เขาจะขับเร็วมาก
พอแข่ง 7 ขวบ เข้าป่าแข่ง ตื่นเต้นมั้ย?
โรเตอร์ : สนุกมากครับ ต้องมีเนวิเกเตอร์บอกทางครับ
มอเตอร์ไซค์นี่ 5 ขวบ?
พีท : พี่พีทไม่มีความตั้งใจจะให้เขาขับมอเตอร์ไซค์แม้แต่นิดเดียว แต่บริษัทพี่พีท ทำพวกโปรดักซ์เทรนนิ่งให้กับรถยนต์ มีลูกน้องประมาณ 70-80 คนที่ทำงานด้วยกัน เรากำลังสอนอยู่บนห้องประชุมข้างบน มอเตอร์ไซค์นี่เจ้าของสนามเอามาให้พี่พีทบอกว่าให้ลูกแล้วกัน เพราะลูกเขาไม่ได้ใช้แล้ว เราก็ไม่ได้ยุ่งกับมัน สักพักเที่ยงได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์สตาร์ท เราก็เอ๊ะ เรารู้ทุกกิจกรรม เพราะเราสั่งงานไปหมดแล้ว แล้วเสียงรถมอเตอร์ไซค์ไม่ควรมี เพราะเราทำอีเวนต์เกี่ยวกับรถยนต์
พอโผล่มาดูเห็นภาพเขาขี่มอเตอร์ไซค์ ลูกน้องเราเป็นสายเด็กแว้นไง มันก็จับน้องขึ้นมอเตอร์ไซค์ แล้วขาไม่ถึงด้วยนะ ต้องจับน้องวาง อีกคนจับรถไว้ แล้วน้องก็บิดเลย ตัดภาพมาอีกที เขาเลี้ยวไปสนามแข่งเลย ซ้ายขวา มีมอเตอร์ไซค์ลูกน้อง 2 คันวิ่งประกบคู่ เราก็เฮ้ย ยังไม่เคยสอนไง ว่าบิดคันเร่งตรงไหน เบรกยังไง เขาก็ขับไปเลย เราก็โอ้มายกอด! แล้วจะไหวมั้ย จุดนั้นทำอะไรไม่ได้แล้ว แล้วเป็นช่วงขึ้นเขา เราก็เริ่มแบบ ไอ้หยา จะเร่งเป็นมั้ยเนี่ย ซึ่งไม่เคยสอน แต่เขาเร่งได้ พอถึงทางเลี้ยว เขาจะเลี้ยวได้มั้ยเนี่ย ซึ่งเขาก็เลี้ยวได้
พอตั้งลำทางตรง เราก็บอกให้เอาน้องลงเดี๋ยวนี้เลย ด้วยความที่ขาไม่ถึง แล้วไม่ฝึกเบรก ลูกน้องสองคน คันนึงแซงหน้าน้องไปกระโดดลง ไอ้คนกระโดดด้านหลังก็เตรียมรอ พอน้องพุ่งมาทางตรง คนนึงก็คว้าเอวเอาไว้ อีกคนก็จับมอเตอร์ไซค์ เราลุ้นระทึกมาก ปรากฏว่ากลายเป็นชอบ แล้วข้างๆ สนามที่โบนันซ่าเขาใหญ่ เขาทำเป็นสนามเนินวิบาก ตัดภาพมาอาทิตย์ต่อมา พี่พีทหอบกินเลย น้องขี่มอเตอร์ไซค์โดดเนินแล้วครับ อายุ 5 ขวบ เรากลัวล้มตรงไหนแล้วช่วยไม่ทัน เราก็วิ่งตามไปเรื่อยๆ แต่มันไม่ไหว มันผิดทรงแล้ว คุณแม่น้องก็บอกว่ารอวันกระดูกหักอย่างเดียวเลยเนี่ย
พี่พีทสอนน้องยังไง?
พีท : จากมอเตอร์ไซค์ก็เริ่มแข่งรถแรลลลี่ครั้งแรก แข่ง 10 พอถึงอันที่ 9 เราขับคนละคัน น้องออกสตาร์ทไปก่อน พี่พีทออกสตาร์ทตามไป พอพี่พีทเข้าเส้นชัยปุ๊บ ทำไมน้องไม่ออกมาจากในป่า กรรมการวิ่งมาแจ้งว่าน้องรถคว่ำอยู่ข้างใน โอ้โห ทั้งผมทั้งภรรยากระโดดขึ้นรถ มิย่า-เซย่านั่งข้างหลัง เอารถเอวีขับเหมือนบินตามหาน้องในป่าเลย เรารู้ทาง วิ่งๆ ไป มิย่านั่งกินข้าวผัดอยู่ กระโดดจนข้าวกระเด็นทั้งรถเลย สุดท้ายตัดภาพมาเจอรถมูลนิธิ รถป่อเต๊กตึ๊ง 7-8 คัน คนอยู่ 7-8 คน ภาพที่เห็นคือรถคว่ำตั้งอยู่เลย ทุกคนก็หันมาบอกว่าคุณพ่อใจเย็นๆ รถแข่งที่วิ่งตามน้องมา เขาพาน้องไปแล้ว เราก็คิดว่าน้องเป็นอะไร ปรากฏว่าน้องแขนหัก เพราะตอนรถคว่ำ นางก็กลัว เอามือยื่นไปท้าว แล้วรถก็ทับ เราก็ถามกรรมการที่อยู่ตรงหน้า ถามว่าน้องเป็นยังไงบ้าง เขาบอกว่าไม่เป็นไร น้องไม่ร้องไห้ ไม่ตกใจ เราไม่กล้าแสดงว่าเราตกใจ เราก็ถามเขาว่าเป็นยังไงบ้าง เขาไม่ร้องไห้ ชิลๆ พี่ๆ เขาก็บอกว่าอย่าทำตื่นเต้นเยอะ เดี๋ยวน้องตื่น พอคุณแม่บอกว่ากลับบ้าน ไม่ต้องแข่งแล้ว เขาบอกว่ายังกลับไม่ได้ ยังเหลืออีก 1 ต้องแข่งต่อ
โรเตอร์ : ไม่กลัวครับ
ปัจจุบันเพิ่งคว้าแชมป์มา?
โรเตอร์ : ที่เกาหลีครับ แข่งได้แชมป์ปี 23 ชนะเป็นแชมป์เลยครับ
พีท : ปีที่แล้วก่อนน้องขึ้นมาขับ น้องแข่งอีกรุ่น เป็นฟอร์มูล่าล้อปิด แต่ความเป็นคนไทยคนแรกๆ ที่ไปแข่งในเกาหลีอย่างจริงจัง แล้วอายุ 14 ไปแข่งกับผู้ใหญ่ ปรากฏว่าไปถึงก็เป็นน้านอกสายตา เพราะเขาเด็กไทย คนอื่นเป็นคนเกาหลีกันหมดเลย ปรากฏว่าเรสแรกเขาแข่งแล้วชนะเลย เรสสองก็ชนะอีก เขาก็เอ๊ะ มันมาจากไหน มาจากไทยแลนด์เหรอ ทำไมขับได้ ปรากฎว่าแข่ง 5 เรสก็ชนะทุกเรส กระทั่งแข่งหมดปี เก็บคะแนน เขาได้เป็นแชมป์เลย
เก่งขนาดนี้ เลยถูกเรียกไปเซ็นสัญญา?
พีท : ใช่ครับ เมื่อต้นปี ทีมที่เกาหลี เขามองเห็น ก็เลยให้โอกาส ชวนน้องเซ็นสัญญาเข้าทีม เป็นนักแข่งอาชีพเลย
ตื่นเต้นมั้ย?
โรเตอร์ : ทั้งดีใจและตื่นเต้น แล้วก็กลัวนิดหน่อย เพราะเป็นรถที่ขับยากมาก เป็นรุ่นใหญ่เลย
คนแรกเลยที่เซ็นเป็นนักแข่งของเกาหลี?
พีท : คนไทยคนแรก แล้วเด็กด้วย ตอนเซ็นอายุ 14 นะ (หัวเราะ)
พีท : อย่างแรกไฟลต์ขึ้นเครื่องบินตอนตีสองก็เหนื่อยแล้วนะ แล้วไปถึงเกาหลีตอน 10 โมงเช้า พรุ่งนี้ต้องรีบไปถึงให้เร็ว ที่โน่นมาตรฐานเขาระดับสูง ทุกสนามที่เราไป ไม่ใช่ไปถึงได้แข่งนะ ต้องสอบข้อสอบของสนามนั้น เช่น ธงอยู่ตรงไหนบ้าง ที่บอกเรื่องความปลอดภัย ทางเข้าออกพิตอยู่ตรงไหน เขาจะเช็กทุกอย่าง พรุ่งนี้ทีมแจ้งว่าต้องรีบไปถึงและรีบไปสอบก่อน เพราะว่าการสอบแต่ละครั้ง ใช้ได้ประมาณ 6 เดือน แล้วที่นี่มันหมดไปแล้ว เราต้องกลับไปสอบอีกทีนึง พี่ก็ไปด้วย ไปกันหมดเลย ไปกันทั้งครอบครัว
บิวต์เขายังไง?
พีท : ไม่เลย พอน้องถึงสนามก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับเขาแล้ว ส่วนมากเขาจะเป็นคนคิด ตัดสินใจ วางแผน เป็นคนขับเอง พี่พีทไม่ได้สอนเขามา 7 ปีแล้ว ไม่เคยสอนอะไรเลย เวลาแข่งพี่พีทจะแค่เตือนสติเขา เราไม่เคยกดดันลูก คุณแม่ยิ่งหนักไปใหญ่ จะกระซิบว่าขับช้าๆ นะลูก (หัวเราะ) เป็นสไตล์เรา เราก็จะบอกว่ารอบแรกของการแข่งขัน มันจะแย่งตำแหน่งกัน มันจะค่อนข้างเดือด จะมีเบียด มีบัง มีต่อสู้ เราก็จะบอกว่ารอบแรกให้ระวังอุบัติเหตุหน่อย สุดท้ายก็ตบทุกครั้งว่าขับให้สนุก ยังไงก็ต้องสนุกไว้ก่อน ไม่ใช่ว่าชนะให้ได้นะ
เวลาลงสนาม พ่อเป็นผู้จัดการ พ่อทำอะไรกับเราบ้าง?
โรเตอร์ : เช็กรถให้ครับ
พีท : หน้าที่หลักคือคอยเช็กอัพ เราจะรู้ว่าเขาขับสไตล์ไหน หน้าที่เราคือจะปรับรถให้เข้ากับการขับขี่เขาให้มากที่สุด
คำปลุกใจคุณพ่อ ทำให้ฮึบ มีมั้ย?
โรเตอร์ : มีนะครับ เขาพูดตลอดว่าแข่งให้สนุก เราก็อยากชนะ แต่ถ้าเราดันเกินจะเกิดอุบัติเหตุได้
พีท : พี่พีทจะชอบบอกให้เขาขับให้สนุก ทำให้ดีที่สุด เราจะคุยด้วยวิทยุ จะบอกว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ฉะนั้นตักตวงทุกวินาทีให้ได้มากที่สุด
นอกจากกำลังใจจากคุณพ่อ วิธีส่วนตัวที่ใช้ช่วยในการคิดของตัวเองก่อนจะแข่งคืออะไร?
โรเตอร์ : จะสวดมนต์ที่คุณพ่อให้สวด คุณปู่ให้สวดอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่เพื่อแข่งรถ เขาให้ผมสวดทุกวันอยู่แล้ว
พีท : คุณพ่อพี่พีทจะมีเหล็กไหลพิเศษ ให้ติดตัวคนละอัน คุณพ่อใช้ทำงานมาเยอะมากๆ และประสบความสำเร็จในชีวิต คุณพ่อบอกว่าเขาไม่ต้องการอะไรเพิ่ม เขาก็ยกให้ผมกับโรเตอร์ มูหนักมากเลยครับ
https://www.facebook.com/teeneedotcom