จากดาราเดลี่ หนังสือพิมพ์บันเทิงส่งดาราตรงถึงคุณทุกเช้า
หนุ่มแด็ก แห่งวงบิ๊กแอส ได้ออกมาเปิดแถลงข่าวถึงผลการตรวจดีเอ็นเอ ของทางสถาบันนิติเวช ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น
ส่วนสาวฝ้าย สุวรรณรี ไชยมงคล เองก็ยังคงมั่นใจในคำพูดของตัวเองว่าหนุ่มแด็กเป็นพ่อของน้องจัสตินอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้สาวฝ้ายก็ยังแสดงความเครียดกับผลการตรวจดีเอ็นเอที่ออกมา
รวมทั้งการทำงานของสถาบันนิติเวช ที่ไม่ชัดเจน เพราะหลังจากที่สาวฝ้ายได้เดินทางไปตรวจดีเอ็นเอกับทางสถาบันนิติเวชไปก่อนหน้านี้ โดยทางสถาบันนิติเวชก็ได้บอกให้สาวฝ้ายรอฟังผลการตรวจของทั้ง 3 คนในอีกประมาณ 2 อาทิตย์ แต่เมื่อวันที่ 9 พ.ค ที่ผ่านมา ผลการตรวจอย่างไม่เป็นทางการ
ก็เกิดเล็ดรอดออกมายังสื่อมวลชน และได้ประโคมข่าว ทั้งๆ ที่เรื่องของผลการตรวจดีเอ็นเอในลักษณะอย่างนี้ ทางสถาบันเองควรจะปิดเป็นความลับสำหรับผู้ร้องและผู้ถูกร้องเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่า ผลการตรวจที่ออกมาได้กลายเป็นผลที่สาธารณชนได้รับรู้ก่อนผู้เสียหาย
ทำให้ฝ้ายที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ จำเป็นต้องออกมาเรียกร้องความยุติธรรมเพื่อตัวเธอเองและลูก โดยเธอได้เตรียมเดินทางไปพบกับแพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนนท์ แห่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อจะให้มีการตรวจดีเอ็นเอพร้อมหน้ากัน 3 คนพ่อแม่ลูกอีกครั้ง
พร้อมกันนี้สาวฝ้ายก็ได้เผยถึงความคืบหน้าของคดีพรากผู้เยาว์ ที่เรื่องยังคงอยู่ในขั้นตอนที่ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เด็กเยาวชนและสตรี ( ปดส.)โดยเธอได้เผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า ตอนนี้ทางปดส. กำลังจะดำเนินการสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องศาลกับนายแด็ก
โดยผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ดาราเดลี่ก็ได้สอบถามเรื่องนี้ไปยังสาวฝ้าย และเธอก็ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดทั้งเรื่องคดีและการดำเนินการในการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของเธอต่อไป ซึ่งสาวฝ้ายก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า
ความจริงเรื่องนี้มันไม่ยุติธรรมสำหรับฝ้ายเลยนะค่ะ ถ้าลองได้ฟังที่โฆษกของโรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต นพ.สมยศ ดีมาก พูดในรายการถึงลูกถึงคนก็จะเห็นได้ว่าทางนิติเวช เขาไม่มีความน่าเชื่อถือเลย เพราะเขาพูดออกทางรายการเองว่า พนักงานของทางนิติเวช นั้นยังคลุมเครือพอสมควร เพราะมีอีกหลายปรเด็นที่น่าสงสัย
แถมยังบอกอีกว่า ทางนิติเวชเคยเกิดข้อถกเถียงในการทำงานกันอีกด้วย แล้วอย่างนี้ฝ้ายจะเชื่อถือการทำงานของพวกเขาได้ยังไง ลองคิดดูว่า ตอนที่หนูไปตรวจเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ทางนิติเวชบอกหนูว่า ให้มาฟังผลในวันที่ 4 มิ.ย. ซึ่งหมายถึงว่าหลังจากที่ไปตรวจแล้วหนึ่งเดือน
แล้วอยู่ๆ ก็มีผลอย่างไม่เป็นทางการออกมา โดยที่ฝ้ายเองก็ยังไม่รู้เรื่อง และทุกวันนี้ฝ้ายก็ยังไม่ได้รับผลนั้น แต่ทางฝ่ายโน้นเขาได้รับผลเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งพี่ๆ นักข่าวด้วย ฝ้ายรู้สึกทุกอย่างมันเข้าทางฝ่ายโน้นทั้งหมดเลย เพียงแต่เราก็ไม่มีหลักฐานจะไปเล่นงานอะไรเขาได้
ฝ้ายจะทำได้ก็แค่ออกมาเรียกร้องเพื่อที่จะให้มีการตรวจดีเอ็นเอ เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งฝ้ายได้ก็จะไปพบ คุณหญิง พญ. พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ในวันจันทร์ ที่ 15 พ.ค. นี้ ซึ่งฝ้ายจะไปกับคุณแม่ และน้องจัสติน เพื่อจะให้ฝ้ายและน้องจัสติน และฝ่ายโน้นได้ตรวจดีเอ็นพร้อมกันอีกครั้ง
ซึ่งในส่วนของแด็กถ้าจะให้ตัวของเขามาเจาะเลือดก็จำเป็นที่ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะต้องทำหนังสือเบิกตัวมาเจาะเลือด เพราะนายแด็กเขายังคงติดเรื่องคดีอยู่ เพื่อจะได้พิสูจน์ว่า ความจริงแล้วน้องจัสตินเป็นลูกของใครกันแน่ และในส่วนของคดีพรากผู้เยาว์นั้น ฝ้ายจะไม่ยอมให้มีการประนีประนอมยอมความกันเด็ดขาด
เพราะฝ้ายรู้สึกว่า เขาไม่ได้มีความกังวลใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิด เพราะในขณะที่มีเรื่องกันอยู่นี่เขาก็ยังไปเที่ยวกับแฟนใหม่อยู่เลย ซึ่งหลังจากที่ฝ้ายได้โทรไปถามความคืบหน้ากับทางปดส.มาล่าสุด ก็ได้ทราบว่า อีกไม่เกิน 1 อาทิตย์หลังจากนี้ ทางปดส. ก็จะสรุปสำนวนส่งฟ้องกับศาลในคดีพรากผู้เยาว์นี้ได้ค่ะ
https://www.facebook.com/teeneedotcom