ผัดไทขอเคลียร์สาเหตุน้องเจอาร์ เลือกก้อง ปิยะ ทำหน้าที่แทนพ่อในงานแต่ง
พี่ชุ : จริงๆ ไม่ใช่ลูกชายพี่นะ ลูกชายของกลุ่มเลย
เรียกว่าเป็นงานที่อบอวลไปด้วยความรักความอบอุ่นของเพื่อน แม่ๆ และลูก ในฐานะเป็นคุณแม่รู้สึกยังไงบ้าง?
พี่ชุ : มีความสุขมากแล้วก็ดีใจ มันเหมือนครอบครัวที่เราไม่ต้องปรับมาก เจก็เป็นที่รักของเรา และเป็นลูกสาวกลุ่มเหมือนกัน มันกลายเป็นเรื่องจริง มันมีความสุข
พี่ชุ : ใช่ จนทุกวันนี้คนก็ยังถามอยู่เลย พี่โดนถามตั้งแต่ลูกเล็กๆ ด้วยความที่เขาขาวตี๋ คนก็นึกว่าไปขอมาเลี้ยงแล้วแล้วพอตอนลูกเล็กๆ 1-2 ขวบ พี่ไปออกรายการ แต่ว่าคนดูน้อย แล้วพอเสร็จปุ๊บลูกจะไปเรียนเมืองนอกก็เลยลงไอจีจริงๆ ไม่เคยปิด แต่กลุ่มคนดูช่องทางมันหลากหลายก็จะมีคนรู้นิดเดียว แต่ในวงการรู้หมด
สมัยก่อนย้อนกลับไป อาจจะไม่ได้โซเชียลจ๋าเหมือนสมัยนี้ คนเลยอาจจะไม่ได้รู้ทั้งประเทศ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่พี่ชุใจฟูหรอก เพื่อนๆ แม่ตื้นตันขนาดไหน?
พี่ท็อป : ต้องบอกว่าความที่เรารักเขาตั้งแต่แม่ทั้ง 2 คน ทั้งผัดไท ทั้งชุ รักเขามาหลายสิบปี แล้วหลาน 2 คนเราก็รักต้องบอกว่าเราต้องแยกแยะระหว่างความสัมพันธ์กับความผูกพัน กลุ่มเรานอกจากมีความสัมพันธ์ คือหลานเราเห็นมาตั้งแต่เกิด แล้วความผูกพันมันมีมาตลอดระยะทาง เพราะฉะนั้นมันจะเหนียวแน่น น้องเจไปเรียนเมืองนอกพวกเราก็รวมตัวกันไปส่ง น้องโจอย่างนู้น อย่างนี้ เราอยู่ในโมเมนต์กันตลอด พี่พูดจากใจเลยว่าลูกตัวเองแต่งงานแล้วช่วงโควิด แต่งเงียบๆ ที่บ้าน แต่ว่ามาเห็นของหลานมันน้ำตาไหล มันเป็นโมเมนต์แบบเราเห็นลูกชายเราคนแรก แล้วตอนเขารับปริญญา เราเห็นโจที่ถือขวดนม นางใส่สูท และสิ่งที่ประทับใจเขามาก คือเขากำลังฟังบาทหลวงบรีฟเห็นแล้วความรู้สึกมันปะทะเรา เห็นแล้วน้ำตาไหล ไม่รู้จะทำยังไง เดินไปหาแม่กูแบบดีใจ
พี่ก้อง : ตอนรู้ที่จะแต่งงานก็ตกใจ ไม่คิดว่ามันจะอยู่ในเครือกันขนาดนี้ แต่พอได้มาเจอได้พาเขาไปดูของชำร่วย ดูชุดก็เป็นแม่งานช่วยด้วย พอเห็นวันงานรู้สึกว่าหลานโตแล้ว แต่มาเริ่มน้ำตาจะไหลตอนที่จะต้องพาเจอาร์เข้าโบสถ์จริงๆ
ทำไมเป็นพี่ก้อง?
พี่ก้อง : คือคุณพ่อติดธุระ คุณพ่อเขาเป็นนักบินก็เลยมาไม่ได้เลยกลายเป็นพี่ ซึ่งพี่รู้ตั้งแต่มาแล้วว่าเป็นพี่ แต่ตอนแรกคิดว่าคงเหมือนเข้าฉากละคร พอวันจริงกำลังจะเข้าโบสถ์ เสียงเพลงแต่งงานขึ้น น้ำตาจะไหล เห็นไหมพี่หน้าบึ้งมากเพราะพี่พยายามเกร็งไม่ให้น้ำตาไหล เพราะถ้าพี่น้ำตาไหล พี่จะเด่นกว่าเจ้าสาว พี่รู้สึกว่าวันนี้หลานพี่เป็นนางเอก ต้องให้เขาเด่นสุดก็เลยนิ่งๆ เงียบๆ
พี่ผัดไท : ใครร้องไห้ จริงๆ ฉันไม่ได้ร้อง แต่ตัวนั้นนำ
พี่ท็อปร้องคนแรก?
พี่ท็อป : เออ
พี่ผัดไท : พี่ท็อปนั่งอยู่ตอนรอพี่ก้องพาเจเข้ามายิ้มแย้มแจ่มใส แต่พอหันไปอีกที อ้าว...ดารณีเป่าปี่ซะแล้ว แล้วพอนางขึ้นตรงนั้นก็ขึ้นกันทั้งแผงเลย เขาพูดว่าเห็นตั้งแต่เด็ก อาบน้ำ อาบท่าให้มา พูดเรื่องแบบนี้เราก็น้ำตาไหลตามมาเป็นแทบๆ เราก็นึกเพราะเราเห็นทั้งคู่มาตั้งแต่เด็กๆ โดยเฉพาะพี่ท็อปใครติดงานอะไร เขาก็จะเอาเด็กพวกนี้ไปเที่ยว แล้วพี่เป็นคนหวงลูก พี่ไม่ให้ลูกไปกับใคร แต่ให้ไปกับเขา ภาพพวกนี้มันขึ้นมาก็ร้องสิคะ พี่ก็ไม่ไหว พี่ก้องหันมาเห็นเขาก็ดุ ทำเป็นแบบว่าอะไรกัน แต่จริงๆ ข้างในของเขาไหลยิ่งกว่าเรา แต่เขาไม่ได้ เขาต้องดูแลงาน
พี่ผัดตื้นตันแค่ไหนที่เห็นภาพลูกตัวเองในวันนั้น?
พี่ผัดไท : เอาจริงๆ พี่มองแต่น้องโจ เพราะพี่รัก คือลูกชายจะมีลูกพี่ท็อป 2 คน แล้วก็น้องโจมันเป็นเด็กเล็กสุดในกลุ่มก็เห็นมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ชินแล้ว นึกภาพบ้านพี่ชุ เขาจะมีบันไดสูงๆ เวลาเราไปกินเลี้ยงกัน โจเขาจะนั่งตรงบันได แล้วก็ถือผ้าเน่าของเขา แล้วนั่งดูพวกเราทำกิจกรรม แต่เขาไม่ได้มาจอยด้วย แล้วตาเขาออกแดงๆ เหมือนเด็กง่วงนอน ภาพเหล่านี้มันขึ้นมา แล้วตอนนี้มาเป็นลูกชายลูกชายเรา คือเราร้องไห้ ไม่ได้ร้องไห้ภาพตรงนั้นเป็นหลัก แต่เราร้องไห้กับอดีตที่เราเห็นเขามา
พี่ผัดไท : เขียนๆ เขียนในไอจี มีคนชื่นชม แล้วก็มีความถามว่าทำไมเปลี่ยนโรงเรียนลูกบ่อย ทำไมไม่ให้ลูกไปโรงเรียน ทำไมเอาลูกไปเชียงใหม่ ทำไมเอาลูกไปนั่น ไปนี้ กลัวเด็กไม่เรียนตามสเต็ป แต่เราก็มีวิธีของเรา แต่ทำอะไรก็ได้ที่เขาเจอกับตัวเองที่ไม่ใช่แม่บอก พี่รู้สึกว่าถึงเราจะเลี้ยงแบบนี้ แต่วันนี้เราก็ส่งเขาถึงจนได้ จริงๆ ไม่ได้ขอบคุณตัวเองนะ ต้องขอบคุณลูก เพราะนางก็ให้ความร่วมมือ พัฒนาตัวเองไปด้วยกัน พอเห็นอย่างนี้ จริงๆ ก็เหมือนหมดหน้าที่หลักแล้วนะ ที่เหลือก็เป็นผู้ช่วย ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ตอนนี้ก็เป็นลมใต้ปีกแล้ว ไม่งั้นมันจะไม่ใช่ครอบครัวเขามันจะเป็นครอบครัวที่มาจากการดีไซน์ของแม่ต่อไป ซึ่งไม่ควรทำอย่างนั้น อีกหน่อยเราก็ต้องจากโลกนี้ไป กลัวเด็กๆเขาจะยืนไม่ได้เราก็ต้องปล่อย ถ้าเขามีคำถามเราก็เตรียมตัวตอบเขาอยู่แล้ว พวกเราก็เป็นแบบนี้กันทั้งกลุ่ม โดยเฉพาะคุณก้องที่เป็นเหมือนแม่ของทุกคน พวกเราก็เป็นแค่ตัวประกอบ พี่ก้องทำเยอะ
พี่ก้อง : ไม่ขนาดนั้น แม่เขายังอยู่
พี่ผัดไท : ตอนลูกพี่ผัดคลอด หมอบอกให้ติดต่อญาติ เพราะน้องคลอดกะทันหัน 8 เดือน ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด เขาบอกขอเบอร์ติดต่อญาติ พี่จำเบอร์ใครไม่ได้เลย พี่จำเบอร์แพคลิ้งพี่ก้องได้ พยาบาลก็แพคลิ้งไปบอกว่า ยินดีด้วยนะคะลูกคุณคลอดแล้ว แล้วพอตอนเช้าได้ยินเสียงคนพูดกัน มันอยู่ไหนๆ วุ่นวายกันเหลือเกิน เขาก็มารับหลาน มาดูตั้งแต่เกิด พี่ก้องหนักสุด เพราะพี่ก้องเห็นตั้งแต่น้องเกิด แล้วไม่ใช่แค่ลูกเรานะ ลูกพี่ท็อป ลูกพี่ชุ คือลูกพี่ท็อปยิ่งหนักเลย พี่ก้องเข้าห้องคลอดเลย
พี่ก้อง : จริงๆ ไม่ได้เข้าไปหาพี่ท็อป ไม่ได้เข้าไปดูลูกหรอก อยากไปดูของสงวนเขา
พี่ผัดไท : ต้องให้พี่ท็อปเล่า จริงๆ เสียงแรกที่ลูกได้ยินน่าจะเป็นเสียงแม่
พี่ท็อป : เขาเป็นคนที่มีบทบาทในชีวิตพวกเรา ก้องเขาเป็นผัวของกลุ่ม เพียงแต่เราไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์อะไรกัน เขาเป็นเจ้าอาณาจักรที่ดูแลเราอย่างดีนะ ปากก็ด่าๆ พูดแล้วจะร้องไห้ แต่เขาเป็นอย่างนี้ เขาจะดูแลพวกเราโดยที่แบบเออ...กูดูมึงนะ แต่เขาจะดู ดูทุกคนด้วยนะ พี่ก้องเขาทำมากกว่าพูด แล้วพอเราเห็นเขาคลอดลูก เขาก็อยากมีลูก แล้วเขาก็ไปมีลูกเลย 1 ปี
พี่ชุ : ต่อๆ กันเลย อยากมีลูกอยู่แล้ว เข้าไปในห้องคลอดด้วย แล้วมีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าชุมาดูทางนี้สิ เราก็ส่ายหัวเราไม่กล้าดู
พี่ก้อง : แต่ของเขาพี่ไม่อยู่ เจอเขาตอนโตแล้ว แล้วทะเลาะกับลูกด้วย วันนั้นขับรถไปกาญจนบุรี แล้วเขาตีแม่ พี่บอกหยุด อย่ามาตีแม่ฉันนะฉันเกิดก่อน อยู่กับแม่เธอมาตั้งนานยังไม่ตีแม่เธอเลย
พี่ชุ : ตั้งแต่นั้นมาพี่ไม่เอาลูกมาหาพี่ก้องอีกเลย
พี่ก้อง : เด็กมันก็งง เอ๊ะ...ด่าอะไร
พี่ชุ : เห็นไหมภาพในวันแต่งงานเขาได้คะแนนแค่วันเดียว แต่ตลอด 20 กว่าปีที่เขาทำกับหลานมาหลานจำไม่ได้
ทั้งแก๊งก็เหมือนช่วยกันเลี้ยงมาหมดเลย?
พี่ผัดไท : ช่วยกันเลี้ยง
พี่ชุ : ใช่ เพราะจริงๆ เด็กเขาจะอยู่แต่กับแม่ พอเขาออกมาเจอเพื่อนเขาหวงแม่ เขาก็เหมือนไม่ให้คุยแล้วพี่ก้องก็เลยสอน
พี่ท็อป : ต้องเข้าใจวัฒนธรรมกลุ่มเรามันครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ มันเลยเติมเต็มซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นเป็นกลุ่มเพื่อนนี่แหละ ที่คนนั้นเป็นพ่อ คนนั้นเป็นแม่ คือบางคนไม่เข้าใจว่าความอบอุ่น ความผูกพันที่เรามี มันอาจจะไม่ใช่เธอทำบทบาทนี้ แต่เราทดแทนกันอยู่ตลอดเวลา
พี่ผัดไท : คือพร้อมทำแทนกันๆ
พี่ก้องทำทุกอย่างแทนเพื่อนได้หมดเลย แม้กระทั่งวันจดทะเบียนสมรส?
พี่ก้อง : ใช่ไปเป็นพยาน
พี่ชุ : ใช่เราจะต้องไป แม่กับแม่
พี่ก้อง : ผัดไทไปไหนวันจดทะเบียนสมรส
พี่ผัดไท : ผัดแพ้อาหารแล้วมันไม่ไหว มันต้องนอนโรงพยาบาลเลย แล้วทีนี้โบสถ์นี้เป็นโบสถ์โบราณถ้าไม่จดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมายมาเขาจะไม่ทำพิธีให้ แล้วแม่ดันมาไม่สบาย ปรากฎว่าวันนั้นพี่ก้องใส่ชุดสีชมพูพาลูกไปจดทะเบียนกับพี่ชุ แล้วถ่ายรูปมาแบบลูกฉันแต่งงาน หน้าฟิตมาก แล้วเจก็ส่งข้อความมาบอกว่าน้าก้องมาเป็นพยานจดทะเบียนให้ น้าก้องเขาหน้าสีชมพูมากเลยแม่ เหมือนพี่ก้องเขามีความสุขเขาทำให้หลาน ใครมีช่องโหว่ที่ทำไม่ได้เขาก็จะเสียบให้
พี่ก้องวันนั้นที่ไปจดทะเบียนเป็นยังไงบ้าง?
พี่ก้อง : ดีใจนะ ได้เห็นจริงๆ เคยเห็นแต่ในละคร อันนี้มาในชีวิตจริงได้เห็นหลาน 2 คนที่เรารู้สึกรักและรู้ดีด้วยได้จดทะเบียนกัน เพื่อจดเป็นพยาน แล้วก็เซ็นผิดด้วย ก็ต้องพิมพ์ใหม่ ไปเซ็นผิดที่
พี่ชุ : ไปเซ็นเป็นเจ้าสาว
https://www.facebook.com/teeneedotcom