
วิลลี่ เผยชีวิตหลังสูญเสียคุณแม่ เล่าเรื่องลับเสนาหอยแกล้งจนเสียน้ำตา

วิลลี่ :" ตอนนี้โอเคแล้วครับ จริงๆ โอเคมาตั้งแต่วันที่ 3 หลังคุณแม่เสียแล้ว เพราะเราจะรู้ว่าคนเสียชีวิตไปแล้ว 3 วันเขาจะรู้ตัว พอเขามองกลับมาเขาจะเห็นว่าลูกๆ อยู่ได้ ไม่ใช่ว่ายังติดพันอยู่กับความทุกข์ทรมานต้องเดินหน้าให้ได้ คือถ้าผมเกิดเป็นอะไรไป ลูกผมต้องอยู่ให้ได้เท่านี้แหละที่พ่อแม่ต้องการ เราก็จัดงานให้ดีที่สุด ทำทุกอย่างให้ถูกต้องดีที่สุดหลังจากนั้นเราก็ต้องเดินหน้า เราก็จะจำในสิ่งดีๆ ของคุณแม่เอาไว้ นึกถึงแม่แล้วไม่ร้องไห้ นึกถึงแม่แล้วต้องยิ้มเพราะแม่ผมก็ตลกเหมือนผม"
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราสอนตัวเอง หรือมีคนสอนเรามาเรื่องสามวัน?
วิลลี่ : "คือมีคนทักมาเรื่อง 3 วันว่าคนตายเขารู้แล้วนะว่าเขาตายแล้ว เพราะฉะนั้นผมเลยบอกแหม่มว่า เออถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาอยากเห็นลูกเขาเป็นยังไง เขาอยากเห็นเราอยู่ได้ใช่ไหม เขาจะได้สบายใจ คนตายจะได้สบายใจ หลังจากนี้อยู่กันได้แล้วก็ค่อนข้างจะแฮปปี้แสงสว่างที่เป็นถ้ำออกมาเขาจะได้เดินไปเลย คุณจะไปขึ้นสวรรค์หรือจะทำอะไรจะได้ไม่ต้องกังวล"
ณ วันที่เกิดเรื่องขึ้นมันไวมาก คือไปเที่ยวหรือทำอะไร?
วิลลี่ : "ใช่ มันเกิดขึ้นไวมาก ช็อกเลยแหละ ตอนนั้นไปเที่ยวรวมญาติประมาน 20 กว่าคนที่บินมาจากทุกประเทศมาเจอกันที่อังกฤษ แล้วก็มาเช่าบ้านอยู่ ทำอาหารกินกัน ผมก็รับหน้าที่หุงข้าว ซึ่งเป็นหม้อเล็ก วันๆ เลยไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากหุงข้าว วนอยู่แบบนี้ 20 กว่าวัน"

วิลลี่ : "วันนั้นมันคือเช้าวันที่เราเตรียมตัวจะกลับเมืองไทย ไฟต์ตอนเที่ยง เพราะฉะนั้นผมก็บอกทุกคนว่าเดี๋ยวผมจะเอากระเป๋าลงไปล็อบบี้ ซึ่งทุกคนก็แต่งตัวอาบน้ำ แล้วผมก็บอกว่าเดี๋ยวมารับคุณแม่ไปทานอาหารเช้า ผมก็หิ้วกระเป๋าลงไป ก็บอกพนักงานว่าเอารถเข็นไปขนกระเป๋าที่เหลือข้างบน ซึ่งก็มีพนักงานขึ้นไปกับผมข้างบนหนึ่งคน ขึ้นไปถึงก็อ่าว.. ทำไมลูกถึงไม่อาบน้ำแต่งตัว อ่อคุณย่ายังไม่ออกมาจากห้องน้ำ เราก็บอกว่านานแล้วนะ ก็เลยเปิดประตูเข้าไปดูตอนนั้นให้พนักงานช่วยพอเข้าไปมือคุณแม่ยังกำแปรงสีฟันอยู่ ก็เป็นหน้าที่เราจับว่าคุณแม่ยังหายใจอยู่หรือเปล่าแล้วก็เรียกคนมาเพื่อปั้มหัวใจแต่ก็ปั้มไม่ขึ้นแล้ว ในขณะที่ปั้มเราก็บอกแหม่มว่าคุณแม่ไม่หายใจแล้วนะ ไม่รู้ว่าจะปั้มขึ้นหรือเปล่า หลังจากนั้นแหม่มก็มา ตำรวจก็มา เขาก็ปั้มหัวใจไปเรื่อยๆ เราก็นั่งมอง และก็หันมาบอกว่ารู้รึเปล่าว่าญาติถึงจะบอกให้หยุดได้ และเขาก็ปั้มมา 20 นาทีกว่าแล้วเราก็บอกให้หยุดเถอะเพราะรู้ว่าคุณแม่คงไม่ฟื้นขึ้นมาแล้วจะได้ขั้นตอนต่อไปได้ อาการก็คือหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน มันจะเกิดขึ้นตอนเช้า อย่างที่คุณหมออธิบายคือตอนที่เราหลับอยู่เลือดเราเดินช้ามาก ถ้าเรามีปัญหาเรื่องหลอดเลือดหรืออะไรอยู่แล้ว และไฟต์เช้าพอคนปลุกปุ๊บแล้วรีบลุกขึ้นมาจับเสื้อผ้าทำนั่นทำนี่ นี่แหละที่จะทำให้หัวใจวาย"
คุณแม่อายุเท่าไหร่ ?
วิลลี่ : "86 ครับ ตอนนั้นเราอยู่ที่ห้อง 501 ท่านเสียตอน 7.48 นาที"
ก่อนหน้านี้ท่านมีอาการอะไรมั้ย?
วิลลี่ : "ไม่มีแค่อ้วนหน่อยหนึ่ง และก็เหนื่อยง่ายขึ้นบันไดลงบันได ที่เหลือก็ไม่มีอะไรผมก็มีรถเข็นให้แก คุณแม่ก็ยังแข็งแรงอยู่"

เสนาหอย : "รู้ข่าวก็ตกใจมาก น้องที่ออฟฟิศ (เลขา) โทรมาบอกว่าแม่เสียแล้วนะคะ ตอนแรกเราก็นึกว่าแม่ของเราก็ตกใจหมด เพราะแม่อยู่ข้างล่าง เมื่อกี้เพิ่งเจอกันข้างล่าง เขาก็บอกว่าแม่พี่วิลลี่ คือจะบอกก่อนเลยว่าก่อนที่แม่เขาจะเสียเราเจอกันแม่ยังแข็งแรงสดชื่นทุกอย่าง"
วิลลี่ : "เขาสนิทกับแม่ผมมาก เรียกกันว่าน้องสาวกับพี่หอย"
เสนาหอย : "จริงๆ เราค่อนข้างที่จะสนิทกัน ไปที่บ้านทีไรก็จะคุยกัน พอทราบข่าวก็ตกใจว่าที่อังกฤษ เราก็เลยโทรกลับไปหาวิลลี่เลยตอนนั้น เขาก็บอกว่าแม่เสียแล้ว เราก็ถามว่าจะเอากลับมายังไง เขาก็ถามว่ามึงมีเครื่องบินส่วนตัวมั้ยเราก็ตอบว่าส่วนตัวเราไม่มีเดี๋ยวหาให้ คือจริงๆ แล้ววิลลี่ค่อนข้างเข้มแข็ง"
วิลลี่ : "จริงๆ วันแรกๆ งงเป็นไก่ตาแตกเลย คือถ้าอยู่เมืองไทยเรายังควบคุมอะไรได้ พอเสียที่อังกฤษก็งง ไม่รู้ขั้นตอนมันเป็นยังไง อะไรก่อนอะไรหลัง วันที่ตำรวจมาและไม่พบหลักฐานฆาตกรรม คือการตายด้วยธรรมชาติ ก็ส่งต่อไปห้องเย็น และคนที่มารับคุณแม่ไปก็บอกเราว่านี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายนะ ที่ได้เห็นใบหน้าคุณแม่ตามระบบที่อังกฤษ เพราะฉะนั้นคุณจะถ่ายรูปหรืออะไรก็ต้องทำเลย เพราะถ้าหลุดจากตรงนี้ไปแล้วไม่เหมือนเมืองไทยที่มีพิธีกรรมนะ คนอังกฤษไม่ได้มีที่จัดการเยอะเหมือนเมืองไทยต้องต่อคิว"
ทำใจยังไง เพราะมันคือวุ่นวายหมดเลย?
วิลลี่ : "ผมก็ถ่ายรูปคุณแม่เก็บไว้ตอนที่คุณแม่นอนอยู่ แล้วแหม่มก็มาผมก็คุยกับแม่ ผมก็แฮปปี้ที่คุณแม่ไม่ทรมาน ถ้าปั้มหัวใจขึ้นมาแล้วแม่อยู่ในสภาพติดเตียง นั่นเป็นสิ่งที่คนแก่เขาไม่อยากได้ที่สุด ไปแบบนี้พี่ว่ามีบุญมากเลยไม่ทรมาน
เอาความเข้มแข็งมาจากไหน?
วิลลี่ : "คือผมเป็นพี่ชายแหม่มด้วยไง แล้วกลายว่าเราก็ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว คือผมอ่านเกมและผมเป็นเหมือนแม่ด้วยคือหัวเราะ ตลก สนุก แต่เวลาจัดการอะไรก็ต้องเคาะจัดการให้เสร็จ แล้วก็มีหน้าที่ต้องทำ ใครจะอ่อนแอยังไงก็ว่ากันอีกที แต่เราก็ต้องเป็นแกนหลักเสาที่คนสามารถพิงเราได้ แหม่มก็เป๋าานมาก ถ้าคุณได้เห็นเขาล่าสุดเขาจะผอมมาก นอกจากจะลองโควิดแล้วยังมีเรื่องคุณแม่อีก"

เสนาหอย : "ผมรู้ว่าวิลลี่เขาแข็งแกร่งมาก เขาต้องกลับมาก่อนแล้วคุณแม่ต้องอยู่ที่นู้นแล้วน้องแหม่มก็ต้องทำอะไรให้เรียบร้อย วิลลี่เขาต้องกลับมาทำงาน งานแรกก็เจอกันเลยเราก็ตบหลังแล้วก็มอง คือไม่ต้องพูดเลย ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่โทรหากันด้วย เขาก็เดินหน้าต่อ เขาก็ไปได้"
เห็นว่างานศพคุณแม่พี่วิลลี่ พี่หอยมีแหกกฎตัวเองด้วยมันยังไง?
เสนาหอย : "สินแสที่ดูแลพวกเราอยู่ เขาบอกผมว่าไม่ควรไปงานศพ เพราะผมดวงจะไม่ไอนั่น ปกติผมจะไม่ไปงานศพอยู่แล้ว แต่งานเพื่อนงานน้องก็เลยแหกกฎครั้งเดียว"
ตั้งแต่เกิดเรื่อง เคยมีเสียน้ำตามั้ย?
วิลลี่ : "2-3 วันแรก ร้องไห้ทุกคนก็เห็นเลย เราอยู่ที่พักต่างประเทศ พอคุณแม่เสียทุกคนก็ร้อง นั่งร้องไห้กันหมด 2-3 วันแรกคือมันเร็ว และไม่อยากจะเชื่อ คือถ้าคุณแม่เราไม่สบายเห็นคุณแม่ทรมานอยู่โรงพยาบาล สัก 3-4 เดือนเราจะรู้ว่าท่านเสียเลยดีกว่าทรมาน แต่นี่ยังคุยกันอยู่และไปเลย ยังงง เราจะเอาของแม่ไปไว้ไหน อะไรยังไง คือจัดการกันวุ่นวายไปหมด เพราะเราไม่คุ้นเคยเป็นนักท่องเที่ยวและเสียต่างประเทศ เรื่องนี้บอกเลยถ้าอั้นได้ให้อั้มมาเสียเมืองไทยจะไม่วุ่นวาย เพราะว่าสถานฑูตที่ไทยช่องเต็มที่ยังใช้เวลา 50 วัน กว่าจะพาคุณแม่กลับมาได้ และกลับมาแค่อัฐิ ถ้าเอาร่างกลับมาก็จะนานกว่า 50 วันอีก"
ในฐานะที่คุณแม่ไปไวมาก ยังมีอะไรค้างในใจมั้ย
วิลลี่ : "ไม่มีนะ ผมว่าผมทำหน้าที่ของผมได้ดีที่สุด เพราะแม่ผมค่อนข้างจะแฮปปี้มากกลับทริปนี้ คือแม่เก็บของประมานเดือนครึ่งก่อนไป แพคกระเป๋าใบใหญ่แต่ไม่มีอะไรเลย นอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เส้นหมี่ เครื่องแกง และของที่จะไปแจกญาติ ซองแดงแจกหลานอังเปา เราก็รู้สึกว่า เออเหมือนเขาก็รู้เหมือนกันว่าเป็นการรวมตัวกันของญาติครั้งสุดท้ายท่านก็ได้ให้อังเปาแจกทุกคน"

2 คนนี้อยู่ด้วยกันจะมีแต่เสียงหัวเราะรอยยิ้มตลอด แต่พี่หอยก็เคยทำให้พี่วิลลี่ร้องไห้ด้วย?
เสนาหอย : "เคยเห็นสองครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งผมถือว่าผมเป็นเพื่อนเลวเลยนะ คือตอนนั้นเราร่วมกันทำบริษัทแล้ว แล้วผมก็อยากรู้นะว่าเขาห่วงเราขนาดไหน อยากรู้ว่าเป็นเพื่อนหรือแค่หุ้นส่วน ก็ไปออกรายการๆ หนึ่ง เราทำรายการเกี่ยวกับคาเมร่าอยู่แล้ว ตอนนั้นใช้ชีวิตด้วยการขี่มอเตอร์ไซต์ตลอด เลยบอกให้เขาโทรกลับไปที่ออฟฟิศบอกว่าผมมอเตอร์ไซต์คว่ำ ก็มาทั้งออฟฟิศ ผมนอนอยู่ที่ไอซียูเฉยๆ เอาทีมอาร์ตมาช่วย มีปาดดินมีเลอะเทอะ คนที่เข้าไปคนแรกคือวิลลี่คือผมพูดคำเดียวว่ากูยังเตะบอลได้ปะวะ แล้ววิลลี่ก็น้ำตาไหล เหมือนละครไทยเลย ผมบอกเลยว่าเอาจิตใจเพื่อนมาเล่น"
วิลลี่ : "ผมคิดว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก เพราะใส่หมวกกันน็อก และพอเขาทักว่าเขาจะเตะบอลได้มั้ย ตอนนั้นผมคือเส้นประสาทขาดแน่เลยเพราะเขาไม่รู้สึกที่ขาเราก็คิดเลยว่าเขาเดินไม่ได้แล้ว เราร้องไห้เพราะคิดว่าเขาพิการ"
พอเฉลยแล้วว่าไม่เป็นไรพี่วิลลี่โกรธมั้ย?
วิลลี่ : "คือโกรธตรงนั้น แต่เราก็ไม่ได้โกรธเพราะแกล้งคนไว้เยอะมันก็บาปกรรมกลับมาที่เรา แล้วดีใจที่เขาไม่เป็นอะไรจริงๆ ถ้าเป็นขึ้นมาก็ภาระเลยเพราะเขาเป็นหัวหน้าครอบครัว"
มีสิ่งหนึ่งที่พี่หอยแอบเคืองพี่วิลลี่เลยคืออ่านไลน์แล้วไม่ตอบ?
เสนาหอย : "คือมันเป็นธรรมชาติก่อน เขาเป็นคนแบบนี้เลย คือทุกคนทักไม่ว่าจะใคร ไลน์ไปไม่เคยตอบ ขึ้นว่าอ่านแล้วแต่ไม่ตอบไม่เคย"
วิลลี่ : "พี่อยากตอบ แต่จังหวะในบางครั้ง เวลาเราอัดรายการ ขับรถ ไม่มีคนขับพี่ขับเอง ย้ายกอง ก็ทำของพี่คนเดียวพอมาเปิดดูหลังจากละครจบ 580 เราก็จะกลับบ้านละก็เลยกดอ่านทั้งหมด คุณก็เห็นว่าเราอ่านแล้วแสดงว่ารับรู้ แต่หลังๆ เริ่มมีส่งสติกเกอร์ให้ ถ้าพิมพ์ไลน์หาใครแสดงว่าต้องสำคัญมาก ผมพิมพ์แค่ว่างแล้วโทรหาด้วย"




Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday
https://www.facebook.com/teeneedotcom