ว่าด้วยกระบวนการทำลาย ?ฟิล์ม?

จากดาราเดลี่ หนังสือพิมพ์บันเทิงส่งดาราตรงถึงคุณทุกเช้า



* ที่สุด ไม่ใช่คนเดียว ที่ออกมาประจาน
* ปมธุรกิจค่ายเทปโยงเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

ปลายเดือนมีนาคม...วันครบรอบ 36 ปีช่อง 3 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน มีน้องนักข่าวหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่ง โทร.นัดผมให้ไปงานช่อง 3 ด้วยกัน ผมมีโปรแกรมจะไปอยู่แล้วก็เลยนัดให้ไปเจอกันในงาน

พอเจอกันผมก็พาไปนั่งที่อัฒจันทร์วีไอพี. ที่มี คุณประวิทย์ มาลีนนท์, ไบรอัน มาร์คาร์, เฮียฮ้อ - สุรชัย, ประสาน มาลีนนท์ และบรรดาผู้บริหารทั้งหลายของช่อง 3
คำถามแรกที่น้องนักข่าวท่านนั้นถามผมคือ จะเล่นข่าว ฟิล์ม มั้ย ตอนนี้มีคนจะเปิดโปงอดีต ฟิล์ม...มีภาพพร้อม ผมก็บอกไปว่าคงไม่เล่น เพราะเด็กกำลังมีชื่อเสียง ลงข่าวแบบนั้นไปก็ทำลายเด็กเปล่าๆ ข่าวในเชิงแบล็คเมล์อย่างนี้ ในวงการบันเทิงมีให้เห็นอยู่เสมอๆ สงสารเด็ก

น้องนักข่าวบอกผมว่า ที่มาสนามกีฬาเพราะอยากจะสัมภาษณ์เฮียฮ้อ อาร์เอส ในเรื่องนี้ ผมก็บอกว่าตามสบาย เรื่องภายในอาร์เอสกับผมไม่ได้เกี่ยวข้องกัน สรุปว่าวันนั้นผมเห็นน้องนักข่าววิ่งวุ่นตาม เฮียฮ้อ ตอนเข้าห้องน้ำ ไม่รู้ว่ารายละเอียดได้สัมภาษณ์หรือไม่

รุ่งขึ้นในหนังสือพิมพ์ไม่มีข่าว ฟิล์ม มีก็เพียงข่าวสังคมซุบซิบบ้างเท่านั้น...นั่นผมถือว่าเป็นสปิริตของน้องนักข่าว ถึงจะมีภาพเป็นหลักฐาน แต่ไม่มีคู่กรณีออกมายืนยัน ซึ่งจะเป็นการทำลายอนาคตเด็กเปล่าๆ
เพราะสื่อหนังสือพิมพ์ไม่เล่นข่าวนี้ ผู้ประสงค์จะเล่นเรื่องนี้ก็นำไปประจานในรายการ แฉแต่เช้า ของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่ง แกรมมี่ เป็นผู้เช่าต่อ เมื่อเป็นนักร้องฝ่ายคู่แข่งธุรกิจ ทางรายการก็ไฟเขียวเต็มที่

ตรงนี้แหละที่ ดาราเดลี่ ออกมาโต้กรมประชาสัมพันธ์ เน้นจุดยืนว่าด้วยวิชาชีพสื่อ วิทยุ - โทรทัศน์ หรือ หนังสือพิมพ์ ถือเป็นสื่อมวลชนเหมือนกัน มีกรอบ มีจรรยาปฏิบัติเหมือนกัน...หนังสือพิมพ์มี บรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณา รับผิดชอบในทางกฎหมาย วิทยุ - โทรทัศน์ เจ้าของคลื่น มีหน้าที่รับผิดชอบเช่นกัน
โต้กรมประชาฯ เพื่อถามว่า ควร - ไม่ควร ก็การที่บุคคลหนึ่งถูกอีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งเป็นใครไม่รู้ (ในทางข่าว) มาด่าออกอากาศข้างเดียว ซึ่งถือว่าเป็นการผิดจรรยาปฏิบัติของการเป็นสื่อมวลชน

ดาราเดลี่ ถือเป็นสื่อของวงการบันเทิง นักข่าวในสำนักงานมีความรู้ทางสื่อมวลชน อย่างต่ำก็จบปริญญาตรี วุฒิภาวะในการข่าวก็เพียงพอต่อการแยกแยะผิดถูก หรือแยกแยะการตกเป็น เครื่องมือ ของบุคคลใดๆ ได้ว่า ฝ่ายคิดทำลาย หรือ ฝ่ายถูกทำลาย แยกเรื่องราว และที่มาที่ไปเป็น 4 อิสชู่ หรือ 4 ประเด็นดังนี้




ประเด็นที่ 1 คู่กรณีของฟิล์ม

มีการวางแผนดิสเครดิต ฟิล์ม มาก่อน โดยเฉพาะภาพถ่ายที่จงใจถ่ายเพื่อการนี้โดยตรง ภาพถ่ายเหล่านี้ถูกส่งไปยังหนังสือพิมพ์ต่างๆ ก่อนหน้านี้


ประเด็นที่ 2 เขาทำเพื่ออะไร...

ก็พูดอยู่ตลอดว่าสนิทสนมรักใคร่กัน ช่วยเหลือกัน เมื่อช่วยเหลือแล้ว เขาดูแลตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องมารบกวนอีกก็ถือว่าดีแล้ว การช่วยเหลือ - บุญคุณ เป็นความรู้สึกมิใช่หรือ ตอน ฟิล์ม ยังไม่ดัง เป็นอันดับ 1 อย่างทุกวันนี้ ทำไมไม่ประจาน ประจานแล้วได้อะไรขึ้นมา เรียกร้องเพื่อต้องการให้ ฟิล์มมาปรนนิบัติ หรือเรียกร้องให้พาไปนั่งรถไฟเหาะอีกรอบ!?


เสี่ยอู๊ด

ประเด็นที่ 3 กรมประชาสัมพันธ์ ทำไมต้องตกเป็นอำนาจของ ผู้เช่าบ้าน

ทำไมกฎ กติกา และระเบียบออกอากาศของวิทยุ รวมทั้งการเซ็นเซอร์รายการที่กรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้ออก แต่ ผู้เช่า ไม่ปฏิบัติตาม แต่ไม่กล้าตักเตือน ซึ่งผิดระเบียบอย่างร้ายแรงของกรมประชาสัมพันธ์ ืที่แหกกฎสำนักนายกฯ มาตั้งแต่ สมบัติประชาชน ไปให้เอกชนเช่าทำการค้า
วิทยุแห่งประเทศไทย คือวิทยุรัฐบาล ซึ่งต้องผลิตรายการเพื่อสาระความรู้โดยไม่มีโฆษณาใดๆ (ยกเว้นหน่วยงานของรัฐ) และก็ดำเนินเช่นนี้มาตลอดหลายสิบปี เพิ่งมา ให้เช่ายกสถานี ไม่กี่ปีนี้เอง อย่างนี้ถือว่า กรมประชาสัมพันธ์ ทำผิดกฎของ สำนักนายกฯ อย่างแรง


ประเด็นที่ 4 ที่คนในวงการแปลกใจมากที่สุดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร?

คือ เรื่องความดังของ ฟิล์ม แถมยังได้รางวัลเกือบทุกสถาบัน...การทำลายชื่อเสียง ฟิล์ม ในครั้งนี้ ลำพัง คู่กรณีของฟิล์ม คนเดียวก่อประกายไม่ขึ้นแน่ๆ ทั้งๆ ที่แจกรูปไปก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว สื่อก็ไม่สนใจ แกรมมี่ โดยคลื่นวิทยุ 93.5 โดดเข้าจับมือ จุดประกายขึ้นมา ต่างคนต่างได้ อีกคนสะใจ ประจานซูเปอร์สตาร์เพราะเก็บกดหรือเหตุผลส่วนตัวใดๆ อีกฝ่ายได้ กระแสการตลาดนิยม ที่ค่ายเพลงคู่แข่งศิลปินดังถูกทำลาย ได้กำไรทางภาพพจน์

ถ้าวิทยุไม่เปิดโอกาสให้ประจานออกอากาศ สื่อต่างๆ ก็ไม่ให้ความสนใจ เรียกว่า จงใจ แต่ ไม่ได้ตั้งใจ

คนบันเทิงมองว่า เป็น เกมการค้า ของ 2 ค่ายเพลงยักษ์ ที่ชิงไหวชิงพริบกัน โดยเฉพาะความฮอตของศิลปิน ถ้าฝ่ายไหนเพลี่ยงพล้ำ ขย้ำได้ก็ต้องขย้ำ คนพวกนี้ไม่เคยคิดว่าศิลปินทุกๆ คนคือสมบัติของวงการ คิดเพียงว่าถ้าต่างค่ายก็คือศัตรู
ปรากฏการณ์ฟิล์ม จะไม่ใช่ คนสุดท้าย ที่ถูกแฉ


เด็กดัชชี่ อย่าง บิ๊ก - ภุชิสสะ, น้ำ - รพีภัทร, ไผ่ - พาทิศ, ไม้ - บวรพจน์ หรือแม้แต่ โบกี้ - จักรินทร์ ก็อยู่ในลิสต์ที่จะถูกประจาน...


การอ้าแขนรับความปรารถนาดีจากใครๆ ในวันที่เราไม่รู้อนาคต เป็นความผิดหรือไม่ - ไม่มีใครรู้ กะเทยคือมนุษย์ 2 ร่าง 2 จิตใจ ป้วนเปี้ยนในวงการบันเทิงเยอะเหลือเกิน แรกๆ พูดเหมือนกันหมดว่าช่วยด้วยใจ...วันหนึ่งผีดิบคืนชีพ...อยากนั่งรถไฟเหาะรอบ 2 จะทำอย่างไร!?


ฟิล์ม รัฐภูมิ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์