แอฟกระหึ่ม! โศรยาขาวีน

"เริ่มค้นพบว่างานแสดงมีเสน่ห์ ตรงที่เมื่อทำแล้วก็อยากทำให้พัฒนามากขึ้นไปอีก"

ฮอตตั้งแต่ต้นปี สำหรับดาราสาวหน้าสวย "แอฟ" ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ที่ตอนนี้ใครๆ ต่างโจษขานเธอในฉายา "โศรยาขาวีน" ตัวละครในละครเรื่อง "จำเลยรัก" ทางช่อง 3 ที่เธอเล่น ขี้วีนด้วยมีเหตุผล แต่นอกจอน่ะ เธอไม่เคยวีนใคร ส่วนจะเป็นผู้หญิงเพรียบพร้อม เรียบร้อยเหมือนนางในฝันของใครหลายคนหรือเปล่านั้น

วันนี้มารู้จักตัวตนของเธอกัน!!!


ฟีดแบ็กละคร "จำเลยรัก" เวอร์ชั่น 2008 เป็นอย่างไร?

แอฟ -
"(ยิ้มภูมิใจ) ดีมากเลยค่ะ ไปไหนมีแต่คนเรียกโศรยาขาวีน โศรยาสู้โว้ย ช่วงแรกๆ คนดูค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมบทโศรยาเป็นแบบนี้ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่โศรยาจะเจ้าน้ำตา ไม่สู้พระเอก แต่พอนำกลับมาทำใหม่เป็นการตีความใหม่เพื่อให้ใกล้เคียงกับความรู้สึกของผู้หญิงปัจจุบัน ในความเป็นจริงถ้าผู้หญิงถูกจับตัวไปโดยใครก็ไม่รู้ เราต้องต่อสู้ดิ้นรนจนสุดชีวิต"

แล้วที่ตะโกนซะสุดเสียงล่ะ?

แอฟ - "คือผู้หญิงเราถ้าสู้ด้วยกำลังไม่ได้ก็ต้องสู้ด้วยเสียง เรียกว่าสู้สุดหลอดเสียง ทั้งต่อว่า เถียง ขู่สารพัด เพื่อให้เขาอย่าทำอะไรเรา แต่สุดท้ายเมื่อโดนกระทำย่ำยี จะสังเกตได้ว่าโศรยาเลิกวีนเลย เหมือนชีวิตทั้งชีวิตหมดแล้ว หมดแรงต่อสู้"

รู้สึกยังไงกับคำว่าโศรยาขาวีน?

แอฟ - "เป็นฟีดแบ็กที่เกินคาด ขำมากตอนแรกที่ถูกเรียก ตอนที่ถ่ายทำแอฟซีเรียสกับการเล่นบทที่แตกต่างไปจากเดิม จนกระทั่งละครออนแอร์มีคนพูดกันเยอะ เริ่มตื่นเต้นกับเสียงตอบรับ กว่าจะเล่นเป็นโศรยาขาวีนอย่างนี้ได้ยากนะคะ ขนาดคุณแม่ยังถามเลยว่าลูกไปฝึกกรี๊ดตอนไหน เกิดมาไม่เคยเห็นลูกเสียงแหลมเสียงดังอย่างในละคร เพื่อนๆ ก็งง ปกติที่ตกใจแอฟก็ไม่กรี๊ด แต่จะนิ่ง เมื่อต้องมาเล่นบทนี้แอฟเลยต้องเล่นให้มากกว่าคนอื่น ต้องใช้พลังเยอะ แรกๆ เหนื่อยมาก ทั้งเหนื่อยทั้งเครียด กังวลว่ากลัวจะเล่นได้ไม่ดีอย่างที่ผู้กำกับฯ ต้องการ กว่าจะปรับให้ลงตัวได้ยากมาก"


จริงๆ แล้วไปฝึกกรี๊ดมาด้วยหรือเปล่า?

แอฟ -
"ไม่ได้ฝึกกรี๊ดค่ะ แต่พยายามเปิดตัวเองออกไปเยอะ พยายามเป็นโศรยาตัวละครในเรื่องเพื่อที่เวลาเล่นจะได้ไม่รู้สึกอาย ไม่งั้นเราจะไม่กล้าแสดง และก็บอกกับคนรอบข้างว่าตอนที่เล่นเป็นโศรยา ไม่ได้เล่นเป็นตัวเอง เพราะถ้าเป็น "ทักษอร" เจอเข้าอย่างนี้คงนั่งร้องไห้"

ยังมีแฟนละครอยากให้แอฟคงภาพเดิมเป็นนางเอกสวยหวาน?

แอฟ - "ก็มีค่ะและขอบคุณค่ะ แต่ก็อยากให้เข้าใจว่าการเป็นนักแสดง ถ้าเราอยากก้าวไปเป็นนักแสดงอาชีพเราต้องเล่นให้ได้ทุกบทบาท เปิดตัวเองให้เล่นได้หลายๆ มุม ถ้ารับแต่บทเดิมๆ ด้านเดียว เราก็ไม่มีการพัฒนาด้านการแสดง และแอฟว่าถ้าเราเล่นอะไรที่ชีวิตจริงเราไม่ใช่ เป็นบทที่ยาก นั่นแหละคือวิธีที่เราจะพัฒนาตัวเองจากอาชีพนักแสดงสู่การเป็นนักแสดงอาชีพ"

แรกที่เข้าวงการ เคยบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะมาทำอาชีพนักแสดง?

แอฟ - "วันนี้แอฟถือว่างานแสดงเป็นอาชีพแล้วค่ะ ช่วงที่เข้าวงการเราคิดแค่ว่าเป็นโอกาสที่ดี และโอกาสนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน เราก็ควรคว้าโอกาสนั้นไว้เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต และพอทำงานเรื่อยๆ มาแอฟเริ่มค้นพบว่างานแสดงมีเสน่ห์ ตรงที่เมื่อทำแล้วก็อยากทำให้พัฒนามากขึ้นไปอีก เวลาที่เราเริ่มต้นกับละครเรื่องใหม่ๆ เราจะเจออุปสรรคใหม่ๆ การบ้านใหม่ๆ เป็นงานที่ไม่ได้หยุดอยู่กับที่ ละครทุกเรื่องถือเป็นบทเรียนที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้แอฟ ครูสอนแอ๊กติ้งทุกคนตั้งแต่แอฟเล่นละครเรื่องแรกจนถึงเรื่องปัจจุบัน ค่อยๆ เติมเต็มแอฟ ในวันนี้แอฟถือว่างานแสดงเป็นอาชีพของแอฟ"


มีคนทักว่าปีนี้ดวงการแสดงแอฟจะรุ่ง?

แอฟ -
"โอ...ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะดีใจมากค่ะ เพราะตอนนี้แอฟฟิตอยากทำงานเยอะๆ ช่วงนี้ที่แน่ๆ แอฟมีละครที่จะเปิดกล้องอีก 2 เรื่อง "ใจร้าว" กับ "โบตั๋นกลีบสุดท้าย" และมีหนัง "นเรศวรฯ ภาค 3" ซึ่งแต่ละบทเริ่มเปลี่ยนไป อย่างโบตั๋นฯ แอฟต้องไปเรียนการเล่นงิ้ว ซึ่งแอฟดีใจที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจและไม่เห็นว่าเรามีเพียงด้านเดียว บางทีบุคลิกอย่างแอฟอาจจะถูกปิดกั้นอะไรบางอย่าง อย่างการถ่ายแบบ ละครบางบท กับงานตรงนี้แอฟอยากบอกว่าแอฟมีความตั้งใจ และพร้อมปรับเปลี่ยนเพื่อเล่นให้ได้กับทุกบทบาท"

แต่รู้มาว่ามีบางอย่างที่ไม่ยอมปรับ?

แอฟ - "?????"

ก็ลิมิตเลิฟซีนที่ไม่ยอมจูบจริง ส่วนการถ่ายแบบก็ไม่ใส่ชุดที่หวือหวาเกินงามไง?

แอฟ - "(หัวเราะ) เลิฟซีนแอฟเล่นได้ทุกมุมกล้อง อย่างเรื่อง "จำเลยรัก" มีบทที่ต้องจูบก็จูบได้เลยแต่ใช้มุมกล้องนะ แอฟว่าสมัยนี้มีเทคนิคก็ใช้ไปเถอะค่ะ ส่วนลิมิตการถ่ายแบบคือชุดต้องไม่โป๊ เพราะบางเล่มที่ถ่ายมีแฟนๆ และที่บ้านบอกว่าไม่ชอบ ดูไม่ใช่ลูก เราเลยต้องทำความเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกงานจะต้องดูว่าเราเป็นเรา แฟชั่นแต่ละเซ็ตต้องการภาพยังไงเราก็ต้องเป็นอย่างนั้นให้เขา แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่เรายอมรับได้ อย่างชุดที่ใส่อาจจะดูไม่โป๊ แต่ถ้าอยากให้ดูเซ็กซี่แอฟทำให้ จะให้โพสหน้ายังไงก็ได้เท่าที่หน้าแอฟจะทำไหว(หัวเราะ) คือแอฟอยากทำงานด้วยความสบายใจทั้งสองฝ่าย"


ลิมิตนี้เพราะคุณพ่อคุณแม่ขอ หรือพี่อ๋อขอ?

แอฟ -
"ถ้าคนที่รู้จักแอฟจริงๆ โดยส่วนตัว เขาจะรู้ว่าเขาไม่ต้องมาขอแอฟหรอกค่ะ ถึงเขาจะเป็นคนขอให้แอฟทำแอฟก็ไม่ทำ คือพวกเขารู้ว่าแอฟเป็นคนยังไง ต่อให้เล่นบทจูบจริงแล้วกระแสละครดี ก็ไม่เป็นไร แอฟขอทำเท่าที่แอฟทำได้แล้วสบายใจดีกว่า"

ดูตอนนี้แอฟให้เวลางานมากกว่าให้เวลาครอบ ครัวรวมถึงพี่อ๋อ?

แอฟ -
"ใช่ค่ะ แอฟโชคดีที่ไม่มีใครบ่น ครอบครัวเข้าใจและรู้ว่าเขาเป็นห่วง คุณแม่เคยถามว่าต้องทำ งานหนักขนาดนี้เลยเหรอลูก บางวันกลับบ้านดึก เช้าตรู่ต้องออกไปอีกแล้ว เวลานอนมีน้อย ส่วนพี่เขาก็ห่วง แต่คงไม่ห่วงอะไรมากเพราะรู้ว่าที่บ้านดูแลดีอยู่แล้ว"

แพลนเรียนต่อล่ะ เห็นว่าจะลงเรียนต่อโทหลายรอบแล้ว?

แอฟ -
"ใช่ค่ะ ฟังคุณแม่บ่นอยู่ทุกวัน รู้สึกกดดันเหมือนกัน จนน้องสาวแอฟมีแพลนจะไปเรียนต่อแล้ว ใจจริงก็อยากเรียนต่อนะ แต่ด้วยเวลางานยังจัดสรรไม่ลงตัวเลย ยังไงเรื่องเรียนไม่ทิ้งแน่ ทั้งนี้เพื่อตัวเองและครอบครัว แต่ถ้าให้แอฟหยุดงานเพื่อที่จะไปเรียนต่อคงเป็นเรื่องที่แอฟยังไม่อยากทำในตอนนี้ เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีได้ตลอดเวลาค่ะ"

โอกาสที่หลายคนอยากคว้า แต่ไม่มีมาให้คว้า


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์