คดีพลิก! โด่ง เอเอฟ เดือด คู่กรณีกรีดรถหายเข้ากลีบเมฆ เข้าข่ายแจ้งความเท็จ

วันนั้นอยู่ด้วยกันในเหตุการณ์ทั้งสองคน?

โด่ง : "อยู่ครับ วันนั้นลงมาเจอสภาพรถที่ถูกกรีดเละไปครึ่งคัน พอเราเห็นปั๊บเราก็ตกใจ และคิดว่าวันนั้นเราเอารถไปจอดไว้ที่ไหน ซึ่งเราไม่ได้เอารถไปจอดที่ไหนเลย เราจอดไว้ที่คอนโด วันนั้น 10 ม.ค. ที่จอดรถมีลักษณะจอดรถขวางได้ เป็นที่จอดรถของคอนโด ซึ่งเป็นที่จอดปกติ จอดไว้ที่ชั้น 2A พอเรารู้ว่ารถเป็นรอย เราเลยมาขอให้ทางนิติมาดูกล้องวงจรปิดให้หน่อย ว่าทำไมรถถึงเละไปครึ่งคันแบบนี้ ซึ่งตอนนั้นผมจอดขวางรถเขา
เข้าเกียร์ไว้มั้ย?

โด่ง :"ไม่ครับ เกียร์ว่างปกติ ถ้าดูจากกล้องวงจรปิด ผู้หญิงคนนี้เหมือนเข็นรถผมมาได้แล้วเข็นจนมาติดรถคันหน้า เขาก็ยังขับออกไม่ได้ เขาเลยเหมือนกับเดินไปด้านหลัง เริ่มกรีดตั้งแต่ท้ายรถ ลากยาวมา จนมากรีดประตูคนขับด้วย ในคลิปเหมือนมีผู้ชายคนหนึ่งมาช่วยเขาเข็น ก็เข็นได้ปกติ"

ออม : "แล้วเขาก็ออกได้"

โด่ง : "แล้วเขาก็ขับเนียนออกไปทำงาน"

ทีนี้คุณไปเช็กกล้องวงจรปิดจนเจอคลิปนี้?

ออม : "จริงๆ เราดูภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่ 10 ม.ค. แต่กว่าเราจะได้ภาพก็เป็นวันที่ 12 เราได้เช็กกับทางนิติแล้วว่ารถคันนี้ที่เข้าซองตรงนี้ เป็นรถทะเบียนอะไร ที่นี่เขาทำงานรัดกุมมาก มีรปภ. เดินตรวจ คอยเช็กตลอด พอทราบว่าเป็นรถคันนี้ เขาเห็นเขาก็เหมือนทราบอยู่แล้วว่าเป็นใคร"

กรีดยับเลยนะ?

ออม : "ใช่ค่ะ ครึ่งคันเป็นตัวแอล"

โด่ง : "วันนั้นเขาบอกว่าเขามีนัดประชุมตอนเก้าโมง"

ออม : "นี่เป็นข้อมูลจากคุณแม่นะคะ"

โด่ง : "ถ้าดูในกล้องวงจรปิด 09.05 ยังเข็นรถผมอยู่เลย"

พอเสร็จแล้วคุณเองเห็นว่ามีคนกรีดรถคุณ คุณทำยังไงต่อ?

ออม : "ทางนิติก็ติดต่อไปยังข้อมูลที่ได้ไว้ว่าใครเป็นเจ้าของห้อง ปรากฏว่าเขาเป็นแค่ผู้เช่า เขาฝากเบอร์เอาไว้ เป็นเบอร์ของคุณแม่ ก็เลยติดต่อไปเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นนิติก็ส่งมาให้ออมคุย พอออมคุยก็บอกว่าคุณแม่ขาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ลูกสาวคุณแม่มากรีดรถออมแบบนี้นะคะ เดี๋ยวออมต้องไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน แล้วเรามาคุยกันนะคะเรื่องค่าเสียหาย ว่าจะชดใช้หรือมาขอโทษอย่างไร คุณแม่ตอนช่วงแรกๆ ยังคุยดีๆ อยู่ แต่พอได้ยินว่าออมจะไปลงบันทึกประจำวัน ท่านก็เหมือนโกรธแล้วพูดว่าทำไมเรื่องต้องถึงตำรวจ ทำไมไม่มาเคลียร์กันที่ห้องที่คอนโด เขาอยากมาเคลียร์ที่ห้องออม ออมก็บอกว่าไม่ได้ เพราะแบบนี้คือเราเสียทรัพย์ใช่มั้ยคะ ต้องไปลงเป็นหลักฐานเพื่อที่จะได้รู้ว่าเรามีการชดใช้กันแน่นอน ไม่ใช่เป็นคำพูดลอยๆ คุณแม่ก็ไมยอม แล้วเหมือนโมโห ก็เลยต่อว่าออมอย่างรุนแรง"

เขาว่ายังไง?

ออม :"คำพูดประมาณว่าแค่ขูดรถแค่นี้เอง ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำไมต้องทำให้เรื่องถึงตำรวจ แล้วลูกชั้นไม่ได้ฆ่าคนตาย ทำไมต้องให้เป็นเรื่องใหญ่ คุยกันดีๆ ไม่ได้เหรอ นี่พูดดีๆ ด้วยแล้วนะ หนูใจเย็นมาก เขาพูดเยอะมาก จนไม่ได้ศัพท์ จนหนูพูดต่อไม่ได้เลยส่งโทรศัพท์ให้นิติ"

หลังจากนั้นได้แจ้งความ?

ออม : "ก็ไปลงบันทึกประจำวัน ซึ่งพอมีข่าวออกไปว่าเราโดนกรีดรถ ก็ติดต่อกลับมา"

เขารู้มั้ยว่าคุณคือใคร?

ออม : "เขาไม่ทราบค่ะในตอนแรก เขาไม่ทราบว่าลูกมากรีดรถ เขายังไม่เห็นรอยแผลหรืออะไรใดๆ ก็เลยอาจจะคิดว่าเล็กน้อย เขาก็เลยพูดว่าคุณมีประกันหรือเปล่า ถ้ามีประกันเดี๋ยวมาคุยกัน หรือถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร แม่มีประกันรถ หนูก็บอกว่าประกันรถใช้ไม่ได้ในกรณีนี้ เพราะมันไม่ใช่รถกับรถเกิดอุบัติเหตุชนกัน มันคือเจ้าของรถมาขูด"

คุณได้ติดต่อไปทางคนขูดมั้ย?

ออม : "เขาไม่ให้เบอร์ค่ะ มีแต่เบอร์คุณแม่"

โด่ง : "คือให้แม่กับน้าสาวมาคุยด้วยตลอด"

ออม : "คุณแม่เขาโทร.มา พอเขาเห็นข่าวแล้วก็โทร.กลับมา พูดจาดีขึ้น และโทร.มาขอโทษอย่างนั้นอย่างนี้ เท่าไหร่จะชดใช้ให้ ตอนแรกบอกว่าเรียกมาเลย เป็นล้านแม่ก็จ่าย เท่าไหร่ก็เรียกมา เขาโมโหค่ะ คุณบอกมาเลยเท่าไหร่ เอาบิลมา"

คุณโด่งบอกว่าเขาพยายามออกไปไหนตอนเช้า?

โด่ง เอเอฟ เดือด

โด่ง : "คุณแม่เขาบอกว่าลูกเขารีบไปประชุมกับผู้ใหญ่ตอนประมาณ 09.00 แต่ถ้าดูจากกล้องวงจรปิด 9.05 นาที น้องคนนี้ยังเข็นรถอยู่เลย เพิ่งจะลงมา"

ออม : "เห็นคุณแม่เขาว่าเขาตื่นสาย"

โด่ง : "แม่ก็เลยบอกว่าน้องอาจจะโกรธ หงุดหงิด อารมณ์ชั่ววูบ ขอกรีดรถซะเลย"

ทำแบบนี้กับใครก็ได้เหรอ?

โด่ง : "ไม่ทราบว่าคนที่ทำงานใหญ่ๆ ในกระทรวงดีๆ เขาทำกันแบบนี้เหรอครับ"

หลังจากไปแจ้งความ?

ออม : "ไปลงบันทึกประจำวันไว้เฉยๆ ว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเรา เดี๋ยวเราต้องมีการพูดคุยกับคนที่มาทำ"

ได้เจอตัวที่ไหน?

โด่ง เอเอฟ เดือด

โด่ง : "เจอที่สน. วันที่เรานัดเจอกันที่สน. คุณแม่กับน้าสาวเขามาแทนน้องคนที่กรีดรถ ให้เหตุผลว่าน้องติดสอบปริญญาโท"

ออม :"หนูก็งง วันนั้นเป็นวันเด็ก เป็นวันเสาร์"

โด่ง : "วันนั้นไม่ได้เจอตัวคนกรีดรถเลย"

ออม : "เขาบอกว่าเขาพามาแล้วนะ แต่เห็นนักข่าว เขาเลยให้ลูกเขากลับ"

โด่ง : "เขาไม่อยากให้ลูกเขามาเจอสื่อ ถ้าอยากให้ลูกเขามาที่สน. ให้ผมไล่นักข่าวกลับให้หมด ไล่สื่อ ไล่นักข่าวกลับ"

ออม : "จริงๆ เขาเลื่อนเวลาเราหลายครั้งนะคะ ตอนแรกนัดกันห้าโมงเย็น เสร็จปุ๊บเขาโทร.มาขอเป็น 11 โมง แต่พอถึงเวลาไม่มา เลื่อนเป็นเที่ยง จากเที่ยงเป็นบ่ายสอง ระหว่างนั้นคุณน้าโทรศัพท์มาพูดคุยกับคุณตำรวจ ตอนแรกเขาพูดก่อนว่าให้ไล่นักข่าวกลับไปให้หมด"

โด่ง :"เขาต่อรองว่าทำยังไงก็ได้ให้นักข่าวกลับ ถ้ามีรูปคุณน้าออกสื่อ หรือมีช่องไหนเอาหน้าเขาไปออก เขาจะฟ้องสื่อ เพราะทำให้เขาเสียหาย เขาขายของอยู่ เขากลัวจะขายไม่ได้ คุณจะรับผิดชอบค่าเสียหายที่หนูจะขายของไม่ได้ จะเอาหนูไปเลี้ยงได้มั้ยคุณ อะไรแบบนี้"

แล้วได้มาเจอกันหรือตกลงอะไรยังไง?

โด่ง : "สุดท้าย คุณตร.ก็บอกว่างั้นมานัดให้ไปคุยกันในห้องข้างบน"

ออม :"เขาก็มา แต่คนกรีดรถไม่มา มาแค่คุณแม่กับคุณน้า พอขึ้นไปเจอกัน เปิดประตูปุ๊บเจอหน้าหนู ยกมือไหว้ แล้วก็ร้องไห้ขอโทษเลย เขาบอกว่าเขาขอโทษนะ เขาเรียกตัวเองว่าหนู แล้วเรียกหนูว่าพี่"

โด่ง : "แม่เขามาเป็นอาม่าเลย"

ออม : "เขาบอกว่าขอโทษนะคุณออม ที่หนูพูดจาไม่ดีกับพี่ วันนั้นหนูโมโห ยังไม่ทราบเรื่องว่าลูกสาวทำอะไรไว้ ก็เลยพูดไปด้วยอารมณ์ ขอโทษด้วยนะ"

โด่ง : "แล้วก็ขอโอกาสจากเราว่าน้องเขาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย น้องเขาเป็นเด็กดีมาตลอด เรียนดี วันๆ หาแต่ที่สมัครเรียน เขาเพิ่งได้งานในกระทรวง"

ออม : "เขาก็พูดว่าลูกเขากลับมาจากทำงานก็อยู่แต่หน้าคอมพิวเตอ์ตลอดเลย ไม่เคยไปไหน"

โด่ง : "ไม่ใช่คนเลวร้าย ให้โอกาสน้องเขาด้วย วันนั้นพวกเราก็เห็นใจคุณแม่เขา"

ออม : "วันนั้นคุณแม่ก็ไม่สบาย เป็นโรคไต"

ตกลงราคาประเมินซ่อมรถเท่าไหร่?

ออม : "จริงๆ น่าจะประมาณ 6 หมื่น เท่าที่อู่ได้มีการตีราคาคร่าวๆ"

ได้บอกคุณแม่เขาไปมั้ย?

ออม : "บอกค่ะ ก็บอกว่าคุณแม่ขา ถ้าซ่อมรอบคันมัน 6 หมื่นนะคะ ถ้าคุณแม่บอกว่าจ่ายไม่ไหว ขอที่ 35000 ตามแผลเท่าที่น้องทำ เราก็เลยถามคุณแม่ว่าใครเขาจะซ่อมสีให้ครึ่งคัน มันก็จะเป็นทูโทน(หวเราะ) มันไม่ได้หรือเปล่า แล้วมันใช่เรื่องมั้ยในการที่หนูจะต้องเป็นคนมาจ่ายส่วนต่าง ทั้งที่หนูไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ รถหนูจอดอยู่ดีๆ คุณแม่ก็เหมือนขอร้องว่ารายได้ก็ไม่มี อยู่บ้านเฉยๆ เป็นโรคไต ต้องมีเงินไปรักษาทุกเดือน"

แต่ลูกทำงานกระทรวง?

โด่ง : "แต่บอกว่าลูกได้เงินเดือนแค่หมื่นห้า"

ออม : "เงินไม่พอหรอก แล้วคุณน้าก็บอกว่าคุณน้ามีรายได้รายวันไม่แน่นอน"

ก่อนหน้านี้ไหนบอกเป็นล้านก็จ่ายได้?

ออม : "เขาบอกว่าเขาพูดด้วยอารมณ์โมโหไงคะ"

โด่ง : "อารมณ์เหมือนตอนที่ลูกเขากรีดรถเราแหละครับ(หัวเราะ)"

สุดท้ายยอมมั้ย?

ออม : "สุดท้ายก็ยอม 35000 ที่เหลือก็ออกเอง"

ก็เหมือนจะจบ?

ออม : "ก็เหมือนจะจบเพราะตอนนั้นเรารับปากต่อหน้าตำรวจ ว่าคุณจะยอมชดใช้ค่าเสียหายเราตามจริง ซึ่งคุณชดใช้ไม่ได้ เราก็ยอม เอา 35000 ก็ได้ ถ้าคุณไหวเท่านี้ กับสองคุณต้องพาตัวจริง คือลูกสาวที่กรีดรถเรา มาขอโทษเราต่อหน้า เราตกลงกันต่อหน้าตำรวจแบบนี้ เขาก็โอเคทั้งสองข้อ"

โด่ง : "เขาบอกว่าเขาจะพาลูกเขามาขอโทษเราอย่างจริงใจ แล้วมีการนัดกันว่าจะเจอกันในสัปดาห์นี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เจอคนกรีดรถตัวจริงเลยครับ"

ยังไม่พามา?

โด่ง : "ยังไม่เห็นครับ"

ออม : "หลังจากนั้นที่ไปยอมความกันวันเสาร์ วันอาทิตย์ก็ยังไม่มา จนวันจันทร์-อังคาร ออมบอกว่าออมจะไม่อยู่แล้ว ออมจะไปต่างจังหวัด งั้นคุณแม่จะมาวันไหน คุณแม่ก็บอกว่าให้มาวันพุธได้มั้ย ออมเป็นคนเสนอเองด้วยซ้ำว่าลูกสาวคุณแม่ว่างวันไหน วันพุธมั้ยจะได้ไม่นานเกินไป เอาตอนเช้าก็ได้ก่อนลูกสาวคุณแม่ไปทำงาน เพราะวันจันทร์ก็ติดก็ติดงานศพ วันอังคารก็ติดงานศพ ไม่ว่างเลย ต้องไปกับปลัดโน่นนี่นั่น งานยุ่งมากทั้งวัน งั้นเอาก่อนไปทำงานล่ะกัน"

เขาไปทำงานกับปลัด เขาบอกอย่างนั้นเหรอ?

ออม : "ใช่ (หัวเราะ) ต้องไปงานศพกับปลัด เราก็บอกว่างั้นไปเจอกันก่อนทำงาน ที่นิติ เขาบอกว่าไม่ขอที่นิติได้มั้ย ขอขึ้นไปเจอที่ห้องคุณ เขาบอกว่าจะได้เป็นส่วนตัว เพราะนิติมีคนเข้าคนออก ออมก็บอกว่าไม่ได้สิคุณแม่ มันต้องมีพยานให้ชัดเจนว่ามาจริงๆ แล้วจะได้มีคนยืนยันด้วยว่านี่ลูกสาวคุณแม่ตัวจริงเพราะหนูไม่เคยเห็นหน้า แล้วนิติเขาก็จะได้ยืนยันให้ได้ว่าเป็นคนนี้ที่เป็นคนกรีดจริงๆ ขอที่ห้องสมุดได้มั้ยเพราะคนน้อยกว่า อ๊ะ ก็ได้ (หัวเราะ) เสร็จปุ๊บ อยู่ดีๆ เขาก็โผล่มาในวันที่เขารู้อู่แล้วว่าเราไม่ว่าง"

โด่ง : "เป็นวันจันทร์ วันที่ผมกับออมไปต่างจังหวัด แล้วโทร.มาหาผมเลย บอกว่ามาถึงแล้วลงมาได้มั้ย ผมก็บอกว่าผมกับออมไม่ว่าง บอกไปแล้วว่าอยู่ต่างจังหวัด ผมบอกว่านัดวันพุธ เขาก็บอกว่าลูกสาวเขามาแล้วนะ ภายใน 10 นาทีได้มั้ย"

ออม : "เขาก็เหมือนพยายามพูดว่าตกลงเรานัดกันแล้วนะ แต่คุณไม่มานะ"

เขาอัดเสียงไว้หรือเปล่า?

ออม : "หนูไม่ทราบ ทีนี้เสร็จปุ๊บพี่โด่งก็บอกว่าไม่ เราต้องเจอกันวันที่เรานัดกันไว้ คือวันพุธเช้าเท่านั้น เพราะเราไม่ว่างจริงๆ วางสายกันไป เสร็จปุ๊บพอเราลงมา เราก็ได้ข้อมูลใหม่ว่ามีคนหวังดี เพื่อนๆ เขาโกรธว่าเช็กแล้วนะ ไม่ได้ชื่อเล่นตามที่บอกนะ"

โด่ง :"ตอนคุยกับผมใช้ชื่อว่าออย แต่จริงๆ พอภรรยาผมมารู้ข้อมูล คนนี้ไม่ได้ชื่อออย เขาใช้ชื่อกลอย ทั้งบอกกับผมว่าชื่อออย ไปคุยกับตำรวจก็เรียกชื่อลูกว่าออยด้วย"

ออม : "แต่ชื่อเล่น ก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่"

แล้วชื่อจริงนามสกุลจริงของแท้หรือเปล่า?

ออม : "อันนี้มันตามมาทีหลังที่เรารู้ว่ามันไม่ใช่ พอเรารู้ว่าเขาหลอกชื่อเล่นเรา มันมีข้อมูลอย่างอื่นที่เขาไปพูดบิดเบือนกับคนอื่น ว่าเขานัดเราแล้ว แต่เราไม่มาเอง เราก็รู้สึกวาทำไมไปโกหกแบบนั้นล่ะ เสร็จปุ๊บเราก็มีความกังวลใจแล้ว ว่าเขาจะพูดไม่จริงด้วยหรือเปล่า เพราะว่าวันนั้นรูปก็ไม่มี ขอดูหน้าน้องในวันที่สน. เขาก็บอกว่าแม่เพิ่งซื้อโทรศัพท์มาใหม่ ไม่มีรูปซักใบ"

โด่ง : "สรุปชื่อจริงที่เรารู้ นามสกุลก็ไม่ตรงด้วยครับ นามสกุลคนที่กรีดรถไม่ตรงครับผม"

ออม : "พอเราเริ่มกังวลใจว่า มันมีหลายๆ เรื่องที่มันไม่จริง เราก็คุยกับตำรวจ เพื่อความสบายใจ เรามาเช็กล่ะกันว่าชื่อนามสกุลที่วันนั้นคุณแม่ให้มามันถูกต้องมั้ยเพราะคุณไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง"

เราเลยขอคุยกับตำรวจ?

ออม : "เราไม่สบายใจ"

โด่ง : "ชื่ออะไรกันแน่"

ออม : "วันนั้นคุณตำรวจขอชื่อลูกก่อน คุณแม่บอกว่าเอาชื่อแม่แทนได้มั้ย คุณตำรวจก็บอกว่าไม่ได้ เพราะคุณแม่ไม่ได้เป็นคนทำผิด ต้องเอาชื่อลูก เขาก็บอกว่างั้นนี่บัตรประชาชนแม่นะ มารับหน้าแทนนะ ลูกชื่อนี้ค่ะ นามสกุลเหมือนคุณแม่ในบัตรประชาชน นี่คือสิ่งที่เขาบอก"

โด่ง : "ซึ่งเป็นบุคคลที่ไร้ตัวตนครับ"

ออม : "พอคุณตำรวจไปเช็กตามที่คุณแม่เขาแจ้งมาไม่เจอ คุณตำรวจก็เอ๊ะ ทำไมไม่มี ก็ไปไล่เช็กกับคุณแม่แทนว่ามีลูกกี่คน แล้วก็เจอชื่อนี้ แต่นามสกุลไม่ใช่ เป็นนามสกุลอื่น คุณแม่ก็แบบเอ๊ะ หรือเขาเคยใช้นามสกลุคุณแม่แล้วเปลี่ยนมาใช้นามสกุลนี้หรือเปล่า มันก็อาจเป็นคนเดียวกันได้ พอเช็กแล้วไม่ใช่ คุณลูกใช้นามสกุลนี้มาตั้งแต่เกิด งั้นชื่อและนามสกุลที่คุณแม่แจ้งมา ไม่มีในทะเบียนราษฎร์ ไม่มีตัวตน"

โด่ง : "เป็นใครก็ไม่รู้ที่เราเซ็นยอมความ"

คุณอาจต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพราะคุณไปเซ็นสัญญากับผี ไม่มีตัวตน?

โด่ง : "ใช่"

ออม : "นั่นหมายความว่าเขาเจตนาที่จะปกปิดเพราะรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเข้าใจผิดว่าเคยใช้นามสกลุนี้แล้วเปลี่ยนมาใช้นามสกุลนี้"

รับเงินมาแล้วหรือยัง?

ออม : ณ วันนั้นรับเงินมาแล้วค่ะ"

โด่ง : "ผมเป็นคนเซ็นเอง"

ออม : "เราเซ็นตามข้อมูลที่เราได้ ณ วันนั้น"

โด่ง : "ตร.บอกว่าเป็นการให้การเท็จ"

ทนายโต้งฟังแล้ว เรื่องนี้เป็นยังไง?

ทนายโต้ง : "เรื่องนี้จริงๆ เป็นเรื่องที่ตกลงกันและจบลงได้ด้วยดีนะ แต่เรื่องไม่จบเพราะสุดท้ายที่ฟังเหมือนคุณแม่ไปให้ข้อความกับเจ้าพนักงานตอนที่สอบถามว่าคนกรีดรถคือใคร เพราะคนที่ทำความผิดคือลูกของเขา แต่การที่เขาบอกข้อความที่ไม่ใช่ คนรับคือคนข้อความไม่ใช่เรานะ เป็นเจ้าพนักงาน พอเป็นเจ้าพนักงานปั๊บ มันเป็นคดีอาญานะ แจ้งความเท็จ"

อย่างนี้แม่คุกมั้ย?

ทนายโต้ง : "คุกไม่คุกต้องขึ้นศาลพิจารณาและพิพากษา แต่ก่อนขึ้นศาล ตร.ต้องดูก่อนว่าสิ่งที่แม่ทำผิดมั้ย แจ้งข้อความเป็นเท็จมั้ย ได้รับความเสียหายต่อคนอื่น ประชาชนเสียหายมั้ย ถ้าเข้าองค์ประกอบ"

แล้วคิดว่าเข้ามั้ย?

ทนายโต้ง : "คือคนชนเป็นใคร แม่เขาก็รู้อยู่แล้ว การปฏิเสธว่าไม่รู้ คุณจะปกปิดหรือไม่ปกปิดเป็นเรื่องของคุณ แต่การที่คุณให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง"

เหมือนพยายามพูดให้ทางนี้ลดค่าใช้จ่าย?

ทนายโต้ง : "คือการให้แม่ให้น้ามาคุยผมไม่ว่า แต่คนกระทำความผิดตัวจริงน่าจะต้องมา มาเพื่ออะไรรู้มั้ย มาเพื่อตกลงยอมความกัน เรื่องทำให้เสียทรัพย์มันสามารถยอมความได้ ทำบันทึกยอมความ อย่างกรณีที่พี่โด่งกับพี่ออมทำคือยอมความเลยนะตัดสิทธิ์ตัวเอง ไม่สามารถไปฟ้องเขาคดีอาญาได้ สามารถตกลงกันได้โดยไม่ต้องฟ้องร้อง เป็นคดียอมความได้ แต่คดีนี้เขายอมความกับใครในเมื่อคนนี้ไม่มีตัวตน เราไม่มีเจตนายอมความกับแม่นะ เรายอมความกับคนกระทำความผิด แต่คนกระทำความผิดไม่มี มารู้ภายหลังต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่"

เงิน 35,000 ต้องคืนมั้ย?

ออม : "ต้องคืนค่ะ ตำรวจแจ้งแล้วว่าต้องคืน"

ทนายโต้ง : "เขาต้องคืน เอกสารที่ทำมาขึ้นอยู่กับเขาแล้ว ถ้าเขารับได้ก็ถือว่าจบ แต่ถ้าบอกว่าวันก่อนรับได้ แต่วันนี้รับไม่ได้แล้วเหมือนโดนหลอก แล้วจะเรียก 6 หมื่นก็เป็นสิทธิ์เขาแล้ว ซึ่ง 6 หมื่นก็ไม่ได้หนักเกินไป เพราะรถคันนี้ถ้าไปประเมินเกี่ยวกับการซ่อมสี ก็น่าจะประมาณนี้"

ออม : "นี่ยังไม่ได้รวมอะไรอย่างอื่นเลยนะคะ"

ทนายโต้ง : "พอเอาเข้าอู่ คุณโด่งจะทำยังไง"

โด่ง : "เพราะอู่บอกว่าต้องซ่อมประมาณ 2 อาทิตย์"

ทนายโต้ง : "เพราะฉะนั้นเรื่องตกลง ทำให้เสียทรัพย์ สามารถตกลงกันได้ ถ้าหากว่าคุณออมคุณโด่งรู้ว่าไม่อยากตกลงแล้วเพราะที่ตกลงไม่ใช่คนกระทำความผิด เพราะฉะนั้นสามารถตกลงใหม่ได้ 35000 ต้องคืน แต่เรื่องนี้มีเรื่องยากกว่าคือแม่เขาไปบอกข้อความเท็จกับตำรวจ มันอาจไม่เท็จก็ได้นะ แต่มันไม่ตรงกับความจริง ถ้าสิ่งที่เขาบอกไม่ตรงกับความจริงแล้วตร.มองว่าเป็นสิ่งที่เสียหาย ก็เป็นสิทธิของตำรวจแล้ว จะดำเนินคดีหรือเปล่า ถ้าไม่ดำเนินคดี ผมกลัวว่าต่อไปไม่รู้จะเป็นตัวอย่างมั้ย แต่ถ้าคุณแม่มาบอกแล้วตรงกับความจริง มีเอกสารซัปพอร์ตมีการแก้ไข ก็พอรับได้ แต่นี่มันไม่ใช่เลย"

จะเอายังไงกับเรื่องนี้ ?

ออม : "ณ ปัจจุบันนี้รอตำรวจเรียก เขาไม่ต้องติดต่อกับเราแล้ว เพราะทุกครั้งที่โทร.มาเขาโกหกตลอด ที่นัดล่าสุดก็หายไปเลย และไม่ติดต่อเราอีก คุณตำรวจเลยบอกว่าเขาจะต้องเรียกมาคุยใหม่ รอตำรวจนัดมาคุยทางเขากับทางเรา เหมือนเริ่มใหม่จะเอายังไง หนูไม่คิดเลยนะว่ามันจะมายาวขนาดนี้"

รับไม่ได้เหมือนโกหกเรา?

ออม : "ใช่"

โด่ง :"เอาคนที่ทำผิดจริงๆ มารับผิดก็เท่านั้นเอง"

ทนายโต้ง : "ผมมองว่าคุณแม่พยายามปกป้องลูกในทางที่ไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ ที่สำคัญมันยอมความได้ ไม่ต้องกลัวประวัติลูกเขาจะเสีย"

ออม : "วันนั้นคุณตร. พูดออมยังตกใจเลยว่านี่เท่ากับหลอกทั้งสน.เลยนะ เพราะวันนั้นนั่งอยู่ด้วยกันหมดเลย ผู้กำกับ สารวัตร หลายคน ก็นั่งอยู่ด้วยกันหมดเลย"

โด่ง : "ทั้งสน.เข้าใจว่าเขาชื่อออยอยู่เลย"

ทนายโต้ง : "อาจไม่โกหกก็ได้ แต่อาจพูดไม่ตรงความจริง ซึ่งเขาต้องมาแสดง"


คดีพลิก! โด่ง เอเอฟ เดือด คู่กรณีกรีดรถหายเข้ากลีบเมฆ เข้าข่ายแจ้งความเท็จ


คดีพลิก! โด่ง เอเอฟ เดือด คู่กรณีกรีดรถหายเข้ากลีบเมฆ เข้าข่ายแจ้งความเท็จ


คดีพลิก! โด่ง เอเอฟ เดือด คู่กรณีกรีดรถหายเข้ากลีบเมฆ เข้าข่ายแจ้งความเท็จ


คดีพลิก! โด่ง เอเอฟ เดือด คู่กรณีกรีดรถหายเข้ากลีบเมฆ เข้าข่ายแจ้งความเท็จ


คดีพลิก! โด่ง เอเอฟ เดือด คู่กรณีกรีดรถหายเข้ากลีบเมฆ เข้าข่ายแจ้งความเท็จ


คดีพลิก! โด่ง เอเอฟ เดือด คู่กรณีกรีดรถหายเข้ากลีบเมฆ เข้าข่ายแจ้งความเท็จ


คดีพลิก! โด่ง เอเอฟ เดือด คู่กรณีกรีดรถหายเข้ากลีบเมฆ เข้าข่ายแจ้งความเท็จ

ที่มา - รายการโหนกระแส


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : u799261711
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 103.58.148.23

103.58.148.23,,host23.148.thvps.com ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล


[ วันพุธ ที่ 15 มีนาคม 2566 เวลา 09:03 น. ]
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์