คำวิจารณ์เพลง ใน อัลบั้ม e=mc^2

ทาง แอลเอ รีดแห่ง เดฟแจม ได้เชิญนักข่าวนิดหน่อยมาที่ออฟฟิสเพื่อจัด special preview
กับอัลบัมใหม่ล่าสุดของ มารายห์ ที่ชื่อว่า E=MC2 ซึ่งในงานมีการเปิดเพลง ทั้งหมด 12 เพลงซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่ง
ในอัลบัม 
ในรายละเอียดนั้น อัลบัมนี้มีทั้งดราม่า  มีความสูญเสีย (ความตาย) มีความสนุกสนาน รื่นเริง เต็มไปหมด และต่อไปนี้ คือ
รายละเอียดแต่ละเพลงเป็น track-by-track ที่เราประทับใจมากๆกับอัลบัมนี้
อย่างไรก็ตาม รายชื่อเพลงนี้ยังไม่ใช่ track list ที่แน่นอน อาจมีการปรับเปลี่ยน

ข้อสังเกต --อัลบัมนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า มาราหย์ใช้เสียง chest tone เป็นส่วนมาก 
ในขณะที่ยังพอมีการโหนเสียง และ การหวีด อยู่เหมือนเดิม (ก็มารายห์นี่นา) แต่ก็
จะเป็นการโหนเสียงและหวีดเพื่อเป็นส่วนประกอบมากกว่า  หลีกทางให้กับเสียงเต็มๆ ที่ใส
ทรงพลัง ของมารายห์มากกว่า (ชิงหราาา)  และ มารายห์ดูจะทำได้ดีเสียด้วยกับการร้องแบบนี้
 มีมี่กลับมาแล้นนนน

1. Migrate แทรกที่เริ่มต้นด้วยเสียงหวีด ประจำตัวของมารายห์ เก๋ไก๋ด้วยทำนองที่เป้นเพลง
เต้นในคลับ โดยมารายห์ ร้องสาธยายถึงปาร์ตี้ราตรีของเธอว่า เธอจะย้ายจากนู่นไปนั่นไปนี่ จาก รถ เข้าไป
ในคลับ จากคลับต่อที่ปาร์ตี้ แล้วก็ต่อที่โรงแรม ...เพลงนี้มีการปรับแต่งเสียงมารายห์ในท้ายคำว่า migrate
นิดหน่ิอยเพื่อให้เข้ากับ T-pain ที่มาฟีตด้วย

2.Touch My Body คงไม่ต้องพูดไรมากกับเพลงแสนจะผู้หญิ๊งผู้หญิงอย่างเพลงนี้ แน่นอน
เพิ่งจะเปิดตัวไปเมือ่สัปดาห์ก่อนแต่ ตอนนี้ ก็ฮิตติดแทบทุกคลื่นไปแล้ว  ถือว่า เป้นความสำเร็จอย่างมากๆ (แอลเอกล่าว)

3.Last Kiss เป็นบทแห่งตัวแทนความรักอันนิรันดร์ นี่แหละ คือเพลง We Belong Together
Part 35 (ทำไมต้อง 35)อย่างนึงที่เหมอืนกัน คือ เพลง last kiss มีการเปลี่ยนช่วงเสียง
สูงต่ำรวดเร็วเหมอืน we belong (ซึ่งเปลี่ยนเร็วมากกว่าที่คนเขียนนับได้) และดูเหมือนจะโหนเสียงได้มากกว่าเพลงอื่นๆ
นับสิบปีที่ผ่านมานี้(เว่อร์ไปปะ รอฟังอย่างเดียว จุดนี้) และตอนท้ายมี การประสานเสียงของมารายห์เอง ระหว่างเสียงเชสเต็มเสียง
กับเสียง high notes แน่นอน ถ้าไม่มีอะไรแบบนี นี่ก็ไม่ใช่เพลงของมารายห์อยู่แล้ว

4. Loving You Long Time ใส บริสุทธิ์ คือ เพลงนีเลย ฟังแล้วรู้สึกว่า คล้ายๆกับเพลงที่โดน
ตัดไปจากอัลบัมก่อน นั่นคือ When I Feel It เพียงแต่ว่าเพลง lovin you long time
นั้นดีกว่า 10เท่า! มีการใช้ reference มากมาย (อย่างที่ตั้มเคยโพสต์ในกระทู้ก่อนๆ ไปอ่านเองนะครับ)
แน่นอน เพลงนี้คือ เพลงที่เด่นมากในอัลบัมและ ทำให้ผู้เขียนได้ตระหนักเลยว่า นี่แหละคือผลงานที่มาจาก pop genious ที่เอาไปหยุดฉุดไม่อยู๋อีกแล้ว

5. Thanx For Nothin เป็นเพลงบัลลาดจังหวะ mid tempo แต่มีบีท ที่แข็งกว่าเพลงก่อน พร้อมเสียงกีรต้าร์
จะว่าไปก็ไม่ต่างจาก So lonely จากอัลบัมที่แล้ว เพียงแต่ Thanx for nothing ฟังดูแจ่มกว่า
ในเชิงของ เนือ้เพลง เพลงนี้เป็นลูกผสมระหว่าง ความพลาดในความรักที่ดันไม่รู้อะไรในตอนแรก (เหมอืนเพลง mine again พอมารู้
ทีหลัง ก็มาโหยหวนอยากให้กลับมาอีก) กับ  การยั่วยวนเล็กๆแบบใน Get Your Number  เนือ้เพลงโดยรวมเยอะมาก ร้องทันได้ไงเนี่ย

6. That Chick เปรี้ยว! เพลงนี้คือพลงดิสโก้ที่วิเศษมาก มีการเสียงมารายห์ในแบบที่เซ็กซี่พอดิบพอดี ไม่มากเกินไป
เพลงฟังได้ง่าย โดยมี reference จาก 2Pac และ Biggie  และ ก็คล้ายๆกับเพลง Touch The Sky จาก Charm ด้วย
เพลงนี้เก๋จนถึงขั้นที่คนเขียน นับวันรอที่จะฟังอีกรอบเลยทีเดียว ต้องตัดเป็นซิงเกิลเท่านั้นนนน และ มารายห์คงต้องไปปัดฝุ่นรองเท้า
สเก็ตที่เคยใส่ใน Heartbreaker Remix เพื่อมาเต้นในเพลงนี้ ด่วน!

7. Cruise Control เป็นอีกแทรคที่ JD มาช่วย แต่เพลงนี้ต่างจากเพลงอื่นเพราะมีกลิ่นอาย แรกเก้เบาๆ
และยังมีการใช้ภาษา และ สำเนียงในแบบ จาไมกัน อีกด้วย

8. Side Effects เป็นอีกบทเพลงที่ใช้การแรพในทางใต้ เพื่อสาธยายถึง ความอัดอั้นตันใจ
ในสมัยที่มารายห์เคยอยู่ใน sing sing ใต้บังเหียนของทอมมี่ ในสมัยก่อน มี แรพเพอร์ อย่าง Jeezy ด้วย

9. Love Story จะว่าเพลงนี้ต่อจาก Endless love ก็ได้ เป็นบัลลาด ที่มีกลิ่นอายของ The Beautiful ones
ของ Prince แต่ว่าในเรื่องของ melody นั้น คล้ายๆกับ Joyride จากอัลบัมก่อนอยู่ แน่นอน คงรู้แล้วอะสิ ว่าเพลงนี้จะหวานขนาดไหน
(เอ้าาา And our love goes round and round...way up high... a joy ride)

10. O.O.C. เพลงนี้แอบแรงอยู่ น่าแปลกใจงานนี้ไม่ใช่ของ stargate หรือ Tricky  O.O.C. ย่อมาจาก Out of control
ซึ่งในแทรคนี้ดันมีคำหยาบปนอยู่ด้วย อย่างคำว่า Motherfxxxers  แรงงงงงงง!

11. Bye Bye อ่าาาา แทรคนี้ที่หลายๆคนรอคอย ตอนแรกๆที่มารายห์โปรแกรมอัลบัมมีมี่ นั้น มารายห์
เปรยไว้ว่า   We Belong นี่แหละ คือ เพลงที่เป็นการผสมผสานระหว่าง Breakdown กับ One Sweet day
แต่จะบอกว่า เพลง Bye Bye นี่แหละ คือ การผสมผสานสองเพลงนั้น อย่างแท้จริงยิ่งกว่า We Belong เสียอีก
(ม่ายย แอบลุ้นให้เพลงนี้ เลิศกว่า วีบีลอง)  เป็นเพลงที่ร้องให้กับความสูญเสีย เป้นการจากลาอะไรตามแต่ (น่าสังเกตว่า
เพลงนี้ มารายห์น่าจะร้องให้คุณพ่อ Alfred Roy ด้วย)จะว่าไป เพลงนี้นั้น อาจจะฟังดูเบสิก เพราะก็ไม่ต่างจาก วีบีลองเสียทีเดียว
แต่ว่า เพลงนี้เป็นอะไรที่ดัง ชัวร์ คือ ประมาณว่า ถ้าอัลบัมนี้แป๊ก เพลงนี้ต้องไม่แป๊ก  (แต่แน่นอน อัลบัมนี้ ดีเกินกว่าที่จะรู้จักคำว่า แป๊ก)

12. I Wish You Well เพลงนี้เพิ่งถูกเอาออกมาให้ฟังกัน และ ไม่ใช่เวอรชั่นที่สมบูรณ์นัก แต่แม่จะยังไม่สมบูรณ์ แต่บอกได้เลย
ว่าเลิศมากกก เพลงบัลลาด เคล้าเสียงเปียโนอย่างเพลงนี้ ทำให้นึกถึง Vanishing เมื่อปี 90 ในอัลบัมแรกของมารายห์เลยทีเดียว
เป็นอะไรที่เกี่ยวกับศาสนาอีกแล้ว(คล้าย Fly like a bird)  เป็นงานเพลงบัลลาดที่แฟนๆต้องชอบๆแน่ๆ ไม่หวือหวา แต่ลงตัว จริงๆมารายห์น่าจะ
ทำเพลงแนวนี้ออกมามากๆนะ(แฟนๆมารายห์พันทิช๊อบชอบบบบ)

เพลงเด่นๆในอัลบั้มนี้คือ Lovin You Long Time  That Chick  Side Effects และ I Wish You Well
โดยที่เมื่อพิจารณาทั้งอัลบัมแล้ว ขอบอกว่า น่าจะไปได้ดี แม้ไม่หวือหวา  เป็นอะไรที่ play safe แต่ก็แสดงถึงการพัฒนาการในการร้องเพลงของมารายห์ด้วย
มารายห์ดูเหมอืนจะพยายามสร้างผลงานใหม่ๆที่อาจจะดูไม่เหมอืนกับยุคก่อนๆ (ประมาณว่า ยุค Music Box Daydream) แต่นี่คือ ความกล้าหาญของมาราหย์
เพราะตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว พูดได้เลยว่า ตอนนี้แหละ คือ ตอนนี้มารายห์มีอิสระ ได้ทำเพลงที่ตัวเองชอบเสียที (นั่นคือ spread your wings)
ซึ่งงานดนตรีแบบนี้แหละ เป็นเสมือนปีก ที่ทำให้มารายห์ได้โบยบินไปในที่ที่อยากจะไป

คำถามคือ ปีกคู่นี้จะทำให้มารายห์บินสูงได้แค่ไหน
.....ก็ต้องลองฟังแล้วก็ตัดสินกันเอาเองเด้ออออ

อ้างอิงจาก mariahcareythailand


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์