อดีตนางเอกแหกกฎบริษัทคบสามีพันล้าน ซ้ำแม่ไม่ปลื้มสั่งเลิกฟ้าผ่าทันที!
อ้อน : จริง ๆ คือเค้าเป็นคนนอกวงการ ไม่ค่อยมีคนถามถึง ก็ไม่รู้จะไปพูดยังไง
สาเหตุที่ไม่โชว์หน้าโชว์ตัวกับภรรยาเพราะอะไร ?
คม : ผมไม่ใช่คนในวงการ ก็ไม่รู้จะออกไปทำไม
คบกันมาเท่าไร ?
อ้อน : เป็นพี่เป็นน้อง สวัสดีไป ๆ มา ๆ 5 ปี แทบจะไม่ได้คุยกันเลย
คม : ตอนทำงานอ้อนเค้าเหมือนดุ ผู้ชายก็จะไม่กล้าเข้าไปจีบ ก็ทักทายปกติ
อ้อน : ช่วงนั้นอ้อนก็มีของอ้อน เค้าก็มีของเค้า มีอยู่จังหวะนึง อ้อนเริ่มไม่มีแล้วโสดอยู่ประมาณปีครึ่งเกือบสองปี เดิมที่พี่คมมีลูกอยู่แล้ว มีแฟนอยู่แล้ว ไม่ได้แต่งงาน ตอนนั้นยังวัยรุ่น แม่ของน้องอิคคิวก็ไม่ได้ดูน้องตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว แค่ไป ๆ มา ๆ เฉย ๆ จนกระทั่งรู้ว่าพี่คมก็ว่างเหมือนกัน อยู่ในบริษัทก็ไม่เคยนั่งพูดคุยเป็นเรื่องเป็นราว ยุคนั้นยังไม่มีไลน์ มันเป็นยุคปลาย ๆ ของแบล็กเบอร์รี่ มีโอกาสได้เจออยู่ครึ่งนึงคือสปาร์กเลย แล้วมีโอกาสได้พูดคุยเป็นเรื่องเป็นราวผ่านแชต
ใครเมสเสจหาใครก่อน ?
อ้อน : ตอนนั้นอ้อนไปเจอเค้าที่ฟู้ดแลนด์ เค้านั่งกินอยู่แล้วเราไปกับแม่ แล้วก็เข้าไปนั่งคุย นั่นเป็นครั้งแรกที่คุยกับเค้านานเกินกว่า 5 นาที คุยไปคุยมาเค้าแนะนำหนังสือให้ 1 เล่ม เราก็รู้สึกว่าหนังสือมันดีขนาดนั้นเลยหรอ อ้อนก็เลยขอพินเค้า อ้อนคิดแค่เรื่องเดียวเลยว่าอ้อนอยากได้หนังสือเล่มนั้น
สาวสวยมาขอพินอย่างนี้รู้สึกยังไง ?
คม : ผมขับรถออกมากับน้องสาว น้องสาวบอกว่า พี่คมพี่อ้อนชอบพี่แน่เลย เราก็บอก บ้าไม่ใช่หรอก ผมมาเอ๊ะตรงที่ว่าผมให้เค้าไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่าน เค้าก็ไปหามาจริง แล้วเค้าถ่ายรูปมาให้ดูแต่ถ่ายหน้าเค้ามาด้วย
อ้อน : หลังจากนั้นพี่คมคุยกับอ้อนไม่เลิก
ที่ถ่ายหนังสือกับหน้าเราตกลงเราจะจีบเค้าหรือเปล่า ?
อ้อน : ไม่ ๆ อ้อนแค่มีความรู้สึกว่าเราจะถ่ายส่งให้ผู้ชายเราก็อยากสวย แต่ไม่ได้คิดที่จะเกินชู้สาวเลย แต่ตอนนั้นรู้สึกนิด ๆ ว่าพี่คมน่ารักดี คุยแล้วดี แต่เราไม่ได้คิดข้าม มันกลายเป็นสัญลักษณ์พี่คนนึงไปแล้ว มันนานเกินไป
คม : มีช่วงนึงพอคุยไปแล้วเรารู้สึกว่ามันจะไม่ถูกนะ น่าจะเกินเส้นแล้ว ผมเลยไม่เอาดีกว่า
อ้อน : เค้าหายไป คุยติด ๆ กันซัก 4-5 วัน อยู่ ๆ เค้าก็หายไป 2 วัน มีอยู่วันนึงน่าจะวันที่ 3 อ้อนนั่งกินข้าวอยู่แล้วเหงา ๆ เราอยากหาใครคุยซักคนนึงเลยตัดสินใจส่งสติ๊กเกอร์กินก๋วยเตี๋ยวไป ไม่ถึงหนึ่งนาทีเค้าส่งรูปสติ๊กเกอร์ชูนิ้วแล้วน้ำตาไหลพราก
คม : ดีใจ คิดว่าคงไม่ได้คุยกันแล้วแหละ มันเลยเส้นแล้วไม่เอาดีกว่า เรารู้สึกใจเราก็ฟู เค้าชอบเราแน่เลย
อ้อน : หลังจากส่งสติ๊กเกอร์มาอ้อนจำได้ว่าตั้งแต่ 6 โมงเย็น จนถึงตี 5 เลย แล้วเร่งเราให้วีดีโอคอลเดี๋ยวนี้เลย เราก็คอลไม่ได้เพราะอยู่กับแม่ เค้าบอกเค้าคิดถึงเค้าอยากเห็นหน้า พอซักตี 4 - ตี 5 เค้าบอกว่าพี่ว่าพี่ชอบอ้อน
จริงมั้ยที่บริษัทนี้มีกฎเหล็กว่าห้ามคบกัน ?
คม : จริงเลย
อ้อน : เค้าจะมีอยู่ 3 ข้อ ที่อยู่ในระดับของผู้บริหาร มันเป็นวัฒนธรรมที่จะต้องทำ แล้วอ้อนกับพี่คมอยู่ตรงจุดที่ผู้บริหารระดับสูงแล้ว ซึ่งเราต้องรู้อยู่แล้วก็จะมี ยืมเงิน, ไม่ข้ามสายงาน สุดท้ายคือชู้สาว
แล้วทำยังไง ?
คม : สมมติไปทานข้าวที่เชียงใหม่ผมต้องลงไปดูก่อนมีใครที่รู้จักอยู่บ้าง ชีวิตมันใช้ยากมากเลย
อ้อน : ตอนนั้นอ้อนก็แทบจะไม่มีงานในวงการบันเทิงเยอะ แต่รู้สึกว่าปาปารัซซี่หนักกว่าตอนเล่นละครอีก
คม : พอบริษัทใหญ่คนมันเยอะอยู่ทุกจังหวัด ไปจังหวัดต้องลงไปดูก่อนว่ามีคนอยู่ในร้านมั้ย เราไม่อยากให้เรื่องมันแดง
อ้อน : ที่อุดรฯ เราอยู่ในรถ เค้าแอบถ่ายรูป
คุณคมสมัยก่อนฮอตขนาดไหน ?
คม : มีแฟนเยอะ ก็เจ้าชู้ ในบริษัทก็มีหลายเคส เหมือนผมเป็นสัญลักษณ์นั้นไปแล้ว ห้ามยุ่งกับผมเพราะเดี๋ยวจะมีประเด็นเรื่องชู้สาว ก็เคยมีคนพูดว่ามันเป็นเรื่องของความรักนะ ทำไมห้ามมีกฎจังเลย จริง ๆ มันเป็นวัฒนธรรม เวลาการปกครองเวลาสอนงานการจะไม่ค่อยฟังกัน
พอบริษัทรู้ใครโทรหาแม่อ้อน?
อ้อน : มีผู้บริหารระดับสูงเบอร์ 1 เลย เป็นพี่สาวที่นับถือของพี่นิคมและเป็นคนจังหวัดเดียวกัน พี่นิคมทำธุรกิจได้เพราะเค้า เค้า โทร. ไปหาแม่อ้อน แล้วแม่อ้อนก็ โทร. หาพี่นิคม เค้า โทร. หาแม่ว่าไอ้นิคมอย่าให้มันเข้าใกล้ลูกสาวแม่เลยนะ แล้วพี่เค้าก็ โทร. มาหาอ้อนอีก ถ้าอ้อนอยากจะมีชีวิตที่ดีและอนาคตที่ดีนะ ใครก็ได้ที่ไม่ใช่ผู้ชายคนนี้ อยากจะเห็นกี่เคสกี่รายพี่จะให้มายืนเรียงหน้ากระดานเลย แม่ก็มาคุยกับอ้อนแล้วก็ร้องไห้ แล้วเค้าก็ โทร. หาพี่คม
คม : ขอร้องอย่ามายุ่งกับลูกสาวแม่เลย เราก็บอกว่าได้หมดเอาที่แม่สบายใจ แม่คุยกับลูกสาวแม่หรือยัง แม่คุยกับลูกสาวแม่ก่อนแล้วค่อย โทร. หาผมนะ ซักพักมีข้อความในกลุ่มผู้บริหารถอดผมออกจากส่วนกลาง โดนประกาศแบน ผมก็ออกไปจากตรงนั้นเลย แล้วก็ไปบวชอยู่เดือนนึง สึกออกมาผมก็ยังเข้างานไม่ได้อยู่อีกเป็นปี ผมก็ทำงานต่างจังหวัด
แล้วเค้าล่ะ ?
คม : พอเกิดเรื่องพี่สาวผม โทร. มาว่าถ้าจะแบน ผมเป็นคนผิดเอง เพราะผมเป็นคนไปยุ่งกับน้องเค้า พี่อย่าทำอะไรอ้อนเลยเพราะสงสารน้อง เค้าต้องดูแลแม่ดูแลน้องอยู่ ส่วนผมไม่เป็นไรหรอก พี่ให้น้องทำงานเถอะ เดี๋ยวผมรับผิดเอง เดี๋ยวผมออกเอง ผมก็ออกจากจุดนั้นไปเลยเป็นปี ยังอยู่ในบริษัทนั้นแต่อยู่ต่างจังหวัดอย่างเดียวเลย
อ้อน : จะบอกว่าในชีวิตไม่เคยมีแฟนเป็นพระ ตอนที่โลกมันสวยมันสวยอยู่ได้แค่ 3 เดือน อ้อนเจอกับพี่คมได้เต็มที่เลยเดือนนึง 5 ครั้ง พอคนอื่นเค้ารู้ พี่คมต้องไปบวช แล้วเค้าเคร่งมากเพราะไม่ยุ่งกับมือถือเลย มีอยู่วันนึงเค้าตัดสินใจ โทร. มาแล้วร้องไห้อย่างเดียว เหมือนเรายังไม่ได้ลา มันอัดอั้น เราไม่พูดอะไรเลย แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะพูดกับพระยังไง เค้าก็บอกว่าโยมอย่าร้องไห้เลย
แล้วกลับมาสานต่อกันได้ยังไง ?
อ้อน : เหมือนผู้ใหญ่ก็เริ่มลืม ๆ เหตุผลจริง ๆ ที่ต้องมีกฎพวกนี้เพราะว่าเคยมีเคสก่อน ๆ คือไม่รับผิดชอบ เดตกันแล้วไม่ช่วยกันทำงาน อ้อนกับพี่นิคมเลยพิสูจน์ซึ่งมันยากมาก เลื่อนตำแหน่งที 2 Rank 2 ตำแหน่ง คืออ้อนกับพี่นิคมไม่ได้มีอะไรเสื่อมเสีย เราทำให้เค้าเห็นว่าทีมเราโตขึ้น ยอดใหญ่ขึ้น วันที่อ้อนประดับเข็มคือวันที่อ้อนกับพี่นิคมขึ้นคู่กันเลย เหมือนทุกอย่างมันดีขึ้น ปีนึงสองปี เราเลยตัดสินใจแต่งงานกัน
เห็นว่าวันงานแต่งก็ชวนคนมาได้ไม่เยอะ ในบริษัทแทบไม่มีใครมาเลย ?
คม : ผมขอรถเพื่อนไว้ 10 กว่าคัน ไว้ตั้งขบวนรถตรงนี้เพื่อจะไปโรงแรม แจกบัตรเชิญพันใบ ใกล้วันงานเลขาของพี่สาว โทร. มาว่า เค้าไม่ให้มางานแต่ง ไม่มีใครไป เค้าไม่กล้าไป สุดท้ายรถเพื่อนก็บอกว่าเดี๋ยวเค้าขึ้นรถสไลด์มาให้ ไปไม่ได้ พิธีกรก็ไม่ได้เพราะอยู่บริษัทเดียวกัน ตั้งขบวนหน้าออฟฟิศก็ไม่ได้ ผมต้องไปต่อ ผมติดปัญหานี้ไม่ได้ แล้วไปคุยกับโรงแรมจากหนึ่งพันลดเหลือ 500
https://www.facebook.com/teeneedotcom