พระเอกดังเปิดจุดเปลี่ยนกลับมาคบแฟนเก่าอีกครั้ง หลังเลิกกันนาน2ปี
เตรียมตัวเป็นคุณพ่อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สำหรับพระเอก นิว ชัยพล ล่าสุดได้ควงภรรยาสาวนอกวงการ เมษา กิตติมา มาเปิดใจในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 พร้อมย้อนเล่าเส้นทางความรักกว่า 10 ปี เริ่มจากการเป็นเพื่อนจนเลื่อนขั้นมาเป็นคนรู้ใจ ก่อนเผยสาเหตุการเลิกราร่วม 2 ปี และเพราะเหตุใดจึงกลับมาลงเอยกันได้อีกครั้ง จนมีเบบี๋เป็นโซ่ทองคล้องใจ
นิว : ถ้าตั้งแต่วันแรกที่เป็นแฟน ตุลาปีนี้ 10 ปี
ตอนแรกเจอกันเห็นว่าเป็นเด็กฝึกงานกับนักแสดง ?
เมษา : เป็นเด็กฝึกงานที่ Acts channel เรียนอยู่ปี 3 ที่อเมริกา เราจะกลับบ้านแค่ปีละ 1 ครั้งตอนปิดเทอมใหญ่ๆ 3 เดือน เราเลือกมาฝึกงานที่ไทย ไม่งั้นไม่ได้กลับบ้าน แล้วก็ได้ที่ Acts Channel ก็เข้าไปฝึกงานตามปกติ เจอเค้าเพราะเราถูกส่งไปตามกองเพื่อสัมภาษณ์สกู๊ป เจอเค้าครั้งแรกคืองาน Grammy Wonderland
นิว : แล้วเค้าก็มาสัมภาษณ์ผม แล้วก็เหมือนกันว่าผมเป็นเพื่อนกับเพื่อนสนิทเค้า เค้าก็เลยมาทักทายว่าเป็นเพื่อนคนเดียวกันนะ แล้วก็แยกย้าย เค้าก็กลับไปเรียนต่อที่อเมริกา ผ่านไปไม่กี่เดือนปี 2012 มีรายการส่งผมไปอเมริกางานออสการ์ ก็ติดต่อกับเพื่อนเค้าว่าผมจะไปแอลเอกับซานฟราน ให้เพื่อนเค้าพาเที่ยว ปรากฏว่าเพื่อนเค้าติดเรียนเลยส่งคนนี้มาแทน เค้าก็พาเราไปเที่ยวนู่นนี่ แต่ไม่รู้สึกอะไรเลยนะ จนกลับมาก็ปรึกษากับเค้าตลอด ผมมีแฟนเลิกกับแฟน
เมษา : ต่างคนต่างมีแฟน อันนี้คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีคอนแทคกันและกัน เป็นเพื่อนกันต่ออีกเป็นปีๆ เลย
นิว : ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ผมมีแฟนเลิกกับแฟน ก็ปรึกษาเค้าเพราะเค้าเป็นเพื่อนผู้หญิง พอตอนเค้ากลับมาไทยมีปัญหากับแฟน เลิกกับแฟน แฟนเค้ายังอยู่อเมริกา เป็นรักระยะไกล ก็มีปรึกษากัน มีนัดกินข้าวกัน สนิทกันไปเรื่อยๆ
ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนเมื่อไหร่ ?
นิว : ไม่รู้ จนกระทั่งผมอยากไปจีบผู้หญิงคนนึง เลยคุยกับเค้าน้อยลง พอไปจับผู้หญิงคนนึง ผ่านไปอาทิตย์เดียวผมรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างในชีวิตหายไป ความสบายใจมันหายไป คิดถึงการคุยกับคนคนนี้ ถ้างั้นเราก็หยุดไม่จีบต่อแล้ว มาคุยกับคนนี้
เมษา : อยู่ดีๆ เค้าก็หายไปเลย ก่อนหน้านี้เลิกกับแฟน มีปัญหาก็ปรึกษาเรา แต่อันนี้หายไปเลย แล้วก็ไม่บอกด้วยนะว่าจะไปจีบอีกคนนึง แต่เรามารู้เองจากอย่างอื่นจากโซเชี่ยล ก็เลยอ๋อว่าที่หายไปเพราะไปจีบคนอื่นอยู่ ก็เลยโกรธ งอน แล้วก็ไปบอกเพื่อน เพื่อนก็เลยบอกว่ามึงชอบเค้าแหละ
นิว : เพื่อนเราทั้งคู่บอกว่ามึงสองคนชอบกันนะ มีความรู้สึกดีต่อกันแต่ไม่รู้ตัว ก็มาง้อเค้าพยายามคุยเหมือนเดิม ก็มีไปกินข้าวกัน ดูหนังกันเลยบอกเค้าวันนั้นว่าลองคบกันดูป่ะ แต่พูดเบาๆ กลัวเค้าได้ยินเพราะยังสองจิตสองใจ ไม่ใช่ไม่แน่ใจ แต่กลัวเสียเพื่อนดีๆไป ถ้าเกิดว่าแฟนไม่เวิร์ค เราถอยกลับมาไม่ได้แล้ว เราก็เลยสองใจว่าจะเป็นแฟนดีมั้ย เลยใช้ศาสตร์มูเตลูเข้ามา ตอนนั้นตี 2 ยี่สิบกว่า ผมเกิดวันที่ 27 เดือนกุมภา ถ้าเกิดผมยกนาฬิกาขึ้นมาเป็น 227 ผมจะพูดอีกครั้ง "ลองคบกันดูป่ะ" เค้าก็เงียบ กลัวเหมือนกัน
เมษา : จริงๆ คือความคิดเหมือนกัน พอตอนเค้าพูดเราเลยยังไม่ได้ตอบทันที แต่เรามาคุยกันก่อนว่าทำไมถึงอยากคบกับเรา ถ้าเกิดมันไม่เวิร์คขึ้นมามันจะเป็นยังไง
แต่มีอยู่ช่วงนึงเลิกกันเหรอ เกิดอะไรขึ้น ?
เมษา : ใช่ 2 ปี
นิว : ตอนนั้นคบกันได้ 5-6 ปี แล้วเค้าไปเรียนต่อเมืองนอก พอเค้ากลับมาบางสิ่งบางอย่างหายไปปีนึงต้องมาจูนกันใหม่ คือเราอยากแต่งงานแล้ว แต่ว่าเค้ายังไม่อยากแต่งอยากใช้ชีวิตก่อน มันก็เลยมีปัญหาเกิดขึ้น พอมันไม่ตรงกันเราเลิกกันดีกว่า ห่างกันไป 2 ปี ระว่าง 2 ปีนั้นก็เสียใจ ทำใจไม่ได้ เป็นเพื่อนไม่ได้
ถ้าเกิดไม่มีเราแบบนี้ ขอไม่มีในชีวิตเลยแล้วกัน เลยบล็อกทุกทาง ทุกอย่าง ทุกการติดต่อ แล้วเมษาบล็อกเค้ามั้ย ?
เมษา : ไม่ได้บล็อก อยากเข้าไปดูมากเลย แต่เข้าไม่ได้
เมษาบอกว่าจริงๆ อยากมีเค้าอยู่นะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ?
เมษา : เหมือนเค้าไม่ใช่สำหรับปัจจุบันเหมือนอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข ณ ตอนนั้น รู้สึกว่าเป็นคนที่ใช่สำหรับอนาคตในการที่จะแต่งงาน เห็นภาพนะ แต่ว่าตอนนั้นอยู่ด้วยไม่มีความสุข
นิว : ก็ทำรายการทางบริษัทของคุณแม่เมษาทำแคมเปญอยากแจกโชคให้กับผู้โชคดี แล้วเค้าหาพิธีกรใหม่มาทำ บริษัทที่ติดต่อมาเค้าก็บอกว่ารายการนี้เป็นของคาราบาวแดงแล้วทำคู่กับเมษา นิวจะทำมั้ยมีเวลา 15 นาที เพราะโปรเจ็คมันเริ่มแล้ว ถ้าไม่ทำเค้าจะหาคนอื่นทำ
เมษาเป็นแผนที่เราวางไว้มั้ย ?
เมษา : ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกับเราเลย เราไม่ได้เลือกเค้า เราแค่ถูกวางตัวว่าจะเป็นพิธีกร ให้เป็นตัวแทนของแบรนด์แล้วอยากปรับลุคด้วย ส่วนในแง่ของรายการเป็นในส่วนของการตลาดบริษัทเค้าจัดการ เราไม่ได้รู้เรื่องเลย เรารู้ว่าเค้าเลือกนิว เรารู้ในที่ประชุม
เจอครั้งแรกเมื่อไหร่ ?
เมษา : วันโปรโมทเลย
นิว : เราอยากทำเพราะเราอยากทำพิธีกรที่เป็นเกมส์โชว์ แล้วเราอยากทำรายการสด พี่ที่ทำรายการนี้เค้าเก่งมากเรื่องทำพิธีกร ถ้าเราได้ประสบการณ์นี้จะดีมาก นั่นคือในเรื่องของการทำงาน แต่ในชีวิตจริงถ้าเราก้าวข้ามผ่านที่จะเจอเค้าได้ เราก็จะก้าวได้แล้ว พร้อมเริ่มต้นใหม่
เจอครั้งแรกเป็นไง ?
นิว : เงียบ หันหลัง ไม่คุยกันเลย
เมษา : พอเราจะทัก เค้ามองเราเป็นอากาศ ทำเป็นมองไม่เห็น
จากวันนั้นมามีเบบี๋ได้ยังไง อะไรมันเปลี่ยน ?
นิว : กำแพงของเราก็ทลายลงไป เพราะเราตั้งกำแพงว่าเราจะไม่เป็นเพื่อน แต่เราเจอกันทุกอาทิตย์ มันก็ต้องเริ่มคุยกันมากขึ้น ต้องยอมรับว่า 2 ปีที่หายไป ไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงเค้า ย้อนไปตั้งแต่วันแรกเมื่อย้อนกลับไป 2013 ไม่มีวันไหนที่ผมไม่รักเค้า ตอนเลิกกันผมก็รักเค้าตลอด 2 ปี มีใครเข้ามาใหม่ผมก็พยายามเปิดใจแล้ว แต่พอรู้สึกว่ายังคิดถึงเค้าอยู่ก็จะบอกว่าขอโทษนะ เรายังคิดถึงเมษาอยู่ ไม่อยากเริ่มต้นใหม่กับใคร พอไปถึงช่วงนึงเราคุยกับเค้าไปเรื่อยๆ กำแพงเริ่มทลาย ความรู้สึกดีๆมันเริ่มกลับมา เราก็บอกเค้าว่าถ้าจะกลับมาเป็นแฟนกัน กลับมาคบกัน คือคบแล้วแต่งงานนะถ้าคบแบบลองดูอีกทีนึง แบบนี้ไม่คบแล้ว เสียเวลาชีวิต
นิว : พอคบกันก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันดีขึ้น เราก็ไม่รอช้า คบกันไม่กี่เดือนขอแต่งงานเลย
เมษา : เซย์เยสเลย ตอนที่ขอเหมือนทุกอย่างมันใช่แล้ว เหมือนแยกย้ายกันไปเพื่อที่จะเติบโต เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น อะไรที่ดีอยู่แล้วก็ดี อะไรที่ไม่ดีก็เหมือนไปปรับกันมา จนมันลงตัวมากๆ จนเป็นโมเม้นท์ที่ใช่ ก็เลยเซย์เยสไปเลย
รักมากมั้ย ?
นิว : รักมากครับ รักมากที่สุดในชีวิต เราให้ทุกอย่างกับเค้าได้ ตั้งแต่วันที่แต่งงานเราก็บอกเค้าอย่างนั้น เราเป็นคนสองคนที่มาอยู่ด้วยกัน บางสิ่งบางอย่างคิดไม่เหมือนกัน เราก็ขอโทษในบางอย่างที่เราทะเลาะกันในบางเรื่อง แต่ในสิ่งที่เราทะเลาะกันเรารู้กันอยู่แล้วว่าเราอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่กัน
https://www.facebook.com/teeneedotcom