เอ๋ เชิญยิ้ม เปิดใจทั้งน้ำตาสูญเสียลูกชาย เผยสิ่งติดค้างที่ยังทำไม่สำเร็จ
เอ๋ : มันมีเรื่อยๆ คือเพื่อนเขาเยอะแล้วลูกเพจที่เป็น FC เขาในรายการเยอะมากเวลาที่เราดูเฟซบุ๊กมันจะขึ้นฟีดเขามาเยอะมากบางทีเราไม่อยากเห็นคือไม่ดูโทรศัพท์เลยพอเห็นปุ๊บภาพเก่าๆมันจะขึ้นมาในสิ่งที่เราทำอะไรด้วยกันมันขึ้นมาหมดเลยบางทีเหมือนไบโพลาร์พอมีคนเยอะๆเราก็จะลืมคุยยิ้มเพื่อให้มันลืมแต่พอเราอยู่คนเดียวเหตุการณ์นั้นมันคิดย้อนขึ้นมาเมื่อวานอยู่ในงานศพของลูกเห็นคนเยอะๆเราก็มีความสุขนะเห็นคนมางานลูกเราเยอะเราก็ดีใจเราปลื้มว่าเราทำให้ลูกครั้งสุดท้ายให้มันดีที่สุดแต่พอมีคนเอารูปมาให้ดูบอกว่าไปค้นรูปเก่าๆตอนเราเล่นตลกแล้วเห็นเด็กตัวเล็กๆอยู่ข้างหลังนั่งหัวเราะก็ร้องไห้
วันก่อนเกิดเหตุเหมือนเป็นลางบอกเหตุ?
เอ๋ : ผมว่าน่าจะใช่เพราะแฟนผมคนนี้เขาจะเรียกว่าน้าเขาสนิทกันมากวันพุธแฟนผมทำความสะอาดอยู่วันนั้นผมหยุดงานนั่งอยู่หลังบ้านช่วงทุ่มกว่าๆ แฟนหยุดดูดฝุ่นแล้ววิ่งมาหาผม พ่อเห็นอาร์มตรงไหนหน้าประตูเลือดเต็มหน้าเลยตอนนั้นผมไม่ได้คิดว่าเขาเห็นภาพหลอนหรือว่าอะไรผมคิดลูกโดนตีมาเหรอหรือทะเลาะกับใครก็จะวิ่งไปดูลูกอยู่ตรงไหนหายไแแล้วเขาบอกหายไปแล้วเราก็งงคืออะไรเขาบอกว่าก้มดูดฝุ่นแล้วเหมือนมีใครอยู่หน้าประตูก็เลยหันไปมองเห็นลูกอยู่หน้าประตูแล้วเห็นเลือดลงมาเป็นเส้นๆเต็มหน้าเลยผมรีบโทรศัพท์หาลูกเลยเขาถามพ่อมีอะไรโล่งใจเลยลูกไม่เป็นไรนิก็เลยเล่าให้ฟังเมื่อกี้น้าเห็นอย่างนี้ๆขับรถรพวังหน่อยมันอาจจะเป็นลางที่ไม่ดีก็ได้เขาบอกพ่อก่อนที่พ่อจะโทรมา 1 นาทีผมขับรถตกแอ่งน้ำคือวิ่งมาด้วยความเร็วน้ำมันขังถนนคือเวลาเราขับมาเร็วๆพอเหยียบน้ำมันจะปัดถไหลแต่อันนั้นเป็นรถเก๋งพอตั้งลำได้ผมก็โทรไปเลยผมก็เลยอ่อแสดงว่าเคระห์เมื่อกี้มันข้ามไปแล้วพอวันพฤหัสบดีผมก็ไปถ่ายอีกที่หนึ่ง
เอ๋ : ใช่แต่จริงๆแล้วเขาไปถ่ายอีกที่นึงคนละจังหวัดเขาจะไปเมืองกาญจนบุรีแต่ผมอยู่ระแวกใกล้ๆปริมณฑลเสร็จแล้วลูกโทรมาบอกว่าอยากมาถ่ายกับพ่อวันนี้
ปกติ น้องอาร์ม ได้โทรมาแบบนี้ไหม?
เอ๋ : มันก็มีบ้างแต่มันไม่ได้บ่อยเพราะเขาจะเลือกโลเคชั่นที่น่ากลัวของเขาผมก็ถ่ายของผมทีนี้เขาบอกว่าผมอยากถ่ายกับพ่อพ่ออยู่ไหนผมบอกอยู่นี้ส่งโลให้เขาก็มาถ่ายก็มาคุยกัยปกติแต่ผมสังเกตเห็นลูกหน้าดำๆแต่ด้วยความที่ผมชอบคิดหลักวิทยาศาสตร์มาลบความงมงายถ้าผมบอกเชื่อเลยกลายเป็นว่าสังคมบอกงมงายไร้สาระก็เลยมีเหตุและผลอยู่ระหว่างกลางให้คนตัดสินเองมันน่าจะเป็นเพราะมันมืดจะ 4 ทุ่มแล้วแล้วมันเป็นที่มืดก็เป็นไปได้ว่าลูกเราจะหน้าดำก็ไม่คิดมากพอผมถ่ายเสร็จ 5 ทุ่มลูกผมถ่ายต่อตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนยันดี 1
วันนั้นถือเป็นการทำงานด้วยกันครั้งสุดท้าย?
เอ๋ : ครั้งสุดท้ายผมบอกว่าอาร์มพ่อกลับก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปแม่สอดไปถ่ายที่ป่าช้าพม่ากันก็ไปด้วยกันนี่แหละบอกเขาเลิกงานแล้วรีบกลับบ้านนะผมก็ขับออกมาช่วงเวลาผมถึงบ้านผมก็รีบนอนเพราะต้องเดินทางไกลประมาณช่วงตี3 ภรรยาเขาโทรมาเมียผมรับสายเขาลุกเลยพ่ออาร์มรถชนผมเพิ่งตื่นด้วยตกใจมือไม้สั่นแต่คิดว่าแค่รถชนจะแขนขาหักหรือสลบแต่งตัวไปที่เกิดไปที่เกิดเหตุออกจากบ้านมาไม่ถึง 5 นาทีภรรยาโทรมาอีกทีร้องไห้ลั่นเลยเชื่อไหมใจผลหล่นไปเลยผมเดาได้เลยว่าอะไรร้องไห้เหมือนคนที่จะขาดใจแล้วบอกว่าพ่อน้าอาร์มตายแล้วเมียผมร้องไห้โฮเลยผมแขนไม่มีแรงขาขับรถไม่ได้ต้องเบรกอยู่ข้างทางสั่นหัวใจเต้นแรงเหมือนใจจะขาดเหมือนจะช็อกผมเกร็งนั่งบีบตัวเองหูอื้อพูดกับตัวเองใช่เหรอวะลูกผมตายจริงเหรอพอสักพักตั้งสติได้ไปดูลูกกันก็ไปที่สะพานพระราม4
ตอนที่พี่เรียบเรียงข้อความในเฟซบุ๊กในใจคิดอะไรอยู่?
เอ๋ : ผมจำภาพวันที่เขาเกิดได้ครั้งแรกที่โรงพยาบาลโทรมาบอกว่าลูกคลอดแล้วนะเป็นผู้ชายประมาณช่วงเช้าผมรีบไปขับรถไปผมตั้งชื่อตลอดเลยพ่อชื่อวีรพลแปลว่าผู้กล้าลูกชื่อพีรพลพอคิดได้ปุ๊บผมอยากให้ลูกกล้าเหมือนผมอยากให้ลูกเป็นผู้นำเหมือนผมผมไปถึงที่โรงบาลห้องพักคลอดเด็กนอนเรียงกันเต็มเลยมีกระจกกั้นไว้กันเชื้อโรคเราไปยืนดูกระจกแล้วก็พีรพลพ่อมาหาลูกเขาก็จะแอ๊ะๆร้องมันทำให้เรานึกถึงภาพนั้นซึ่งมันเหมือนกันเลยแต่อันนั้นกระจกใสซึ่งดูสว่างข้างในน่าดูน่ารักแต่ที่ผมดูวันนั้นมันเป็นกระจกที่ทมึนแล้วรถคันนี้มันน่ากลัวซึ่งรถคันนั้นไม่รู้บรรทุกมากี่ร่างกี่ดวงวิญญาณแล้วหนึ่งในนั้นคือลูกผมที่กำลังนอนอยู่มันจึงเป็นความคิดนี้ขึ้นมาแค่ความรู้สึกวันนั้นผมดีใจมากแต่วันนี้ผมดิ่งลึกมาก
พี่เอ๋เคยคุยกับลูกเรื่องขับมอเตอร์ไซค์?
เอ๋ : เขาอยากได้บิ๊กไบค์เขาอยากได้มานานแล้วความฝันเขาเลยแต่เขาต้องมีรถเก๋งก่อนเพื่อขับไปทำมาหากินพอเขาได้รถเก๋งเขาก็พยายามเก็บเงินจนซื้อบิ๊กไบค์ได้เขาไม่บอกผมเลยว่าซื้อเขากลับมาเซอร์ไพรส์ผมกับลูกจะสนิทกันเป็นลูกคนเดียวที่สนิทกับผมที่สุดเขาอวดความภูมิใจผมก็อือ...มึงเก่งสวยๆผมจะให้กำลังใจลูกตลอดแม้กระทั่งลูกอัดเพลงลงติ๊กต๊อกหรืออะไรก็แล้วแต่ลูกผมไม่ติดยาอะไรทั้งสิ้นไม่เกเรทำแต่งานเมื่อก่อนตอนที่เขาไม่มีเพจเป็นตัวเป็นตนหรือยังไม่มีสปอนเซอร์ที่เยอะแบบนี้กลางวันเขาขับคิวมอเตอร์ไซค์กลางคืนเขาร้องเพลงรับจ้างตามงานวัดเขาหาด้วยตัวเอง
วันนั้นพี่เอ๋มีลางสังหรณ์อะไรที่เตือนเขา?
เอ๋ : ผมบอกลูกว่ารถพวกนี้มันขับช้าไม่ได้อยู้แล้วผมไม่เคยเห็นแล้วเครื่องแรงแค่ร้อยกว่าก็เร็วกว่ามอเตอร์ไซค์ธรรมดาหลายเท่าผมบอกขับเล่นได้นะเอาแค่ความสวยงามเอาแค่ความภูมิใจที่เราหาได้ตามที่เราตั้งใจแต่ว่ามันเหมือนขี่โลงนะลูกกำลังจะมีอนาคตนะถ้าคิดถึงครอบครัวคิดถึงอนาคตอยากมีลูกไม่ใช่เหรอเอาแค่ขี่แบบภูมิใจแต่อย่าไปคะนองเขาบอกไม่หรอกครับพ่ออาร์มแค่ซื้อเอาไว้ในสิ่งที่อาร์มอยากได้แค่นั้นเอง
ตอนเกิดพี่เรียกเขาว่าพีรพลแล้วคำสุดท้ายส่งน้องว่าอะไร?
เอ๋ : ก็พีรพลเหมือนคนบ้าเลยเดี๋ยวร้องไห้เดี๋ยวยิ้มอะไรก็ไม่รู้
เอ๋ : ผมพูดคำเดิมครับลูกผมไม่ได้ขับแข่งกับใคร ปกติลูกกลับจากงานเขาก็ทำนู้นนี่นอนเช้าทุกวัน แต่วันนั้นน้ามาจากเกาหลีแล้วเหมือนเขาจะเอาบิ๊กไบค์ไปอวดเด็กคนนี้เวลาเขาทำอะไรสำเร็จเขาจะอวดให้ภูมิใจในตัวเขาญาติคนนี้ชื่อเทียนเขาบอกพี่เทียนเดี๋ยวไปหานะคิดถึงมากเลยเดี๋ยวจะเอารถไปให้ดูประมาณตี 3 กว่าเขาขับไปกับลูกน้องในทีมเขาซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์อีกคัน แต่มันเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ธรรมดามากๆ มันไม่ได้ขับแข่งกันอยู่แล้วพอขึ้นสะพานพระราม 4 มันระยะทางไกลแต่มันโล่งน้องคนที่ชื่อคิวบอกว่าเห็นอาร์มหันมายิ้มให้แล้วก็ไปเลย เหมือนจะลองความเร็วของรถแล้วก็ไปตึงตรงกลางสะพานไฟลุกท่วมเลยซึ่งคิวก็ขับตามไปพอเห็นปุ๊บ 18 ล้อก็ยังวิ่งไหลไปอยู่ยังไม่ยอมหยุดซึ่งผมไม่รู้เจตนาเขา เขาอาจจะไม่รู้จริงๆ ก็ได้เขาให้ข่าวบอกว่ารถสะเทือนเลยแต่คิดว่ายางระเบิดแล้วเขาจอดเพราะเห็นไฟข้างหลังมันลุกมอเตอร์ไซค์บีบแตรเรียกเจ้าคิวบอกว่าบีบแตรเรียกให้รู้ว่ามีคนชนท้ายอยู่ข้างหลังแต่เขาไม่สนใจแล้วเห็นอาร์มนอนอยู่ในกองเพลิงเขาก็วกกลับ แล้วเขาก็ตะโกนในคลิปจะมีอยู่คลิปหนึ่งที่ชาวบ้านใต้สะพานถ่ายไว้ว่าบนสะพานมีไฟลูกโตแล้วมีเสียงตะโกนร้อง
คนขับรถให้การกับตำรวจว่าเด็กขับรถแข่งมอเตอร์ไซค์กันแสดงว่าที่เขาบีบคือเขาบีบเรียกคุณนั่นแหละ?
เอ๋ : ใช่ครับเขาก็โทรมาหาผมนะ
เห็นว่าจะเข้ามาขอขมาขอดูศพ?
เอ๋ : ยังครับตอนแรกให้ลูกสาวโทรมาเขาบอกจะเข้ามาหาศพน้องอาร์มได้ไหมได้ครับยินดีผมไม่ติดใจบอกคุณพ่อด้วยผมเข้าใจคนทำมาหากินไม่มีใครอยากให้เกิดแต่ผมไม่รู้ไม่เห็นมนเหตุการณ์เป็นยังไงแต่สำหรับผมผมให้อภัยเขาก็บอกว่าขอโทษแทนคุณพ่อด้วยคุณพ่อเข้าใจว่าแข่งกันมาเพราะเสียงบิ๊กไบค์มันดังผมบอกว่าลูกผมไม่ได้แข่งเขาบอกเข้าใจแล้วค่ะขออนุญาตไปกราบศพผมบอกได้สุดท้ายแล้วลูกสาวมาคนเดียวก่อนผมก็ถามแล้วพ่อล่ะเขาบอกว่าคุณพ่อไม่ว่างทำนู้นทำนี่ปวดหัวเครียดมากผมบอกไม่เป็นไรครับไหว้ศพแล้วกันบอกคุณพ่อนะไม่ต้องเครียดไม่ต้องซีเรียส ผมรู้เขาต้องทำมาหากินผมไม่ได้ว่าอะไรทั้งสิ้น แต่ควรจะโทรหาผมบ้างไม่ใช่ให้ลูกโทรมาผมต้องการคนที่กระทำถ้าเป็นผมนะถึงจะผิดจะถูกก็แล้วแต่ แต่ถ้าทำให้คนอื่นสูญเสียผมก็จะโทรไปให้กำลังใจหรือแสดงความรับผิดชอบสักนิดหน่อย ผมจะได้รู้สึกดีบ้างพออีกวันนึงเขาถึงโทรมาหาผมขอโทษไม่ได้มาเพราะเขาปวดหัวตั้งแต่วันนั้นเขาเครียดมากเลยผมบอกไม่เป็นไรครับแค่โทรมาผมก็รู้สึกว่าคุณสนใจกับชีวิตของลูกผมแล้ว
เอ๋ : ลูกผมชอบร้องเพลงมากเขาได้แต่งเพลงไว้เพลงนึงเขาบอกพ่อต้นปีผมจะปล่อยเพลงนี้พ่อช่วยดันหน่อยนะผมบอกได้ไหนส่งให้ดูหน่อยเขาก็ส่งประมาณนี้แต่งยังไม่จบด้วยนะ
อยากบอกอะไรลูกชายคนนี้?
เอ๋ : พ่อไม่ได้ทำอะไรให้แต่อยากบอกว่ามึงหล่อมากทุกครั้งที่มาบ้านเขาชอบชมว่าเขาหล่อผมหล่อไหมแต่ผมไม่เคยพูดเลยนะเพิ่งพูดตอนที่เขาตายเนี่ยแล้วก็เสียงดีมากพ่อรักมึงแต่ไม่เคยแสดงออกเขาเคยเห็นผมกอดน้องคนเล็กแล้วก็หอมเขาจะมองผมเห็นเขามองแล้วเดินนิ่งๆ ซึ่งผมไม่รู้เลยว่าลูกต้องการอะไรแต่ถ้าจะให้จับมาหอมมากอด26 แล้วพ่อคงทำไม่ได้แต่พ่อคอยดูและคอยช่วยเหลือทั้งทางตรงและทางอ้อมพ่อทำทุกอย่างแม้กระทั่งวันนี้ที่มึงตายพ่อทำให้มึงทุกอย่างที่พ่อจะทำได้
https://www.facebook.com/teeneedotcom