"เบิร์ด วอลลุ่ม 1" มั่ว! หรือวาไรตี้?
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 สิงหาคม 2548 19:16 น.งานเพลงชุดใหม่ของนักร้องที่ได้ชื่อว่าเป็นระดับซูเปอร์สตาร์ของบ้านเรา
"เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์" กับอัลบั้มที่ชื่อว่า "วอลลุ่ม 1"
แทร็กแรก "โอ้ละหนอ...My Love" เพลงนี้เมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับ "แฟนจ๋า..." ซึ่งออกมาในก่อนหน้านี้ก็คงจะเหมือนกับภาพยนตร์เรื่อง "The Other" ที่ถูก "The Sixth Sense" ชิงเอาความฮือฮาไปก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกชิงเอาความตื่นเต้นไปบ้างแล้วแต่โอ้ละหนอฯ ที่ออกมาก็ไม่ช้ำมากนัก เนื้อหาน่ารัก แถมยังเก๋ไก๋เข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองด้วยการหยิบเอาสำเนียงการร้องและเครื่องของดนตรีปักษ์ใต้ขึ้นมาเป็นตัวชู
แทร็กที่สอง "ไม่แข่งยิ่งแพ้" นอกจากชื่อเพลงที่ฟังดูดีมีความหมาย เอาไปพูดเท่ห์ๆ ได้แล้ว นอกนั้นแทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่ต่างอะไรมากนักกับ "นานแล้ว" ในแทร็กถัดมาถ้าไม่เอาท่อนแร็พเข้ามาผสม การร้องแบบสำเนียงไทยเดิมล้วนๆ น่าจะไพเราะกว่า
ถัดมาเป็น "อยากถามก็ตอบ" เพลง(ช้า)โปรโมต ฝีมือการเขียนของ "นิติพงษ์ ห่อนาค" เพลงนี้น่าบ่งบอกถึงความเป็น "เบิร์ด ธงไชย" ในรูปแบบและสำเนียงที่หลายๆ คนคุ้นเคยมากที่สุดในอัลบั้มชุดนี้
จาก "อยากถามก็ตอบ" เป็นต้นไปต้องบอกว่าเข้าสู่เซ็ตความค่อนข้างจะมั่วอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นดิสโก้ "ไม่เคยยิ้ม...ไม่เคยเต้น" ก่อนจะปรับอารมณ์กันแทบไม่ทันใน "Hey พอแล้ว" สำเนียงเสียงกีต้าร์บลู เช่นเดียวกับ "พอก็ยังไม่พอ"
จาก 2 เพลงบลู มาปรับอารมณ์กันอีกครั้งกับดนตรีอาร์แอนด์บีในเพลงที่ชื่อ "Belive" แล้วมาเป็นบลูอีกครั้งใน "ยังจำได้ไหม" (น่าแปลกใจว่าทำไมไม่เอามาเรียงให้เป็นเซ็ตเดียวกันไปเลย) เพลงนี้เสียงเมาท์ออร์แกนให้อารมณ์ชนบทแบบคาวบอยดีแท้แม้เนื้อหาของเพลงที่ออกมาจะไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่
แทร็กที่สิบ "ให้ท่า" ฝีมือของหนุ่ม "ขันเงิน เนื้อนวล" อารมณ์คล้ายๆ กับโอ้ละหนอ...ของหนุ่มโจอี้ บอย มีความเป็นท้องถิ่นเข้ามาผสม มีทั้งเสียงที่คล้ายๆ กับพิณ - แคน ต่างกันตรงที่ของหนุ่มโจอี้ฯ จะเป็นโจ๊ะแบบเต้นรำมากกว่า ในขณะที่ของหนุ่มขันเงินนั้นยึดเอาฮิพฮอปตามแนวถนัดของตนเองเป็นแกนและไม่ใช่เพียงสำเนียงแบบพื้นบ้านของไทยเท่านั้น แต่ยังกว้างหลากหลายไปถึงระดับชาติ ระดับทวีป ตะวันตก อาหรับ เอเชีย ปนกันให้วุ่นไปหมด
จากความยาว 4 นาทีของเพลง แต่ความรู้สึกของการฟังอาจจะเหมือนกับ 7 - 8 นาที และน่าจะเป็นเพลงที่เอาไว้ฟังอย่างเดียวมากกว่าที่จะมาร้องตาม
แทร็กที่ 10 "ก่อนจะเช้า" เสียงกลองช่วงที่ส่งเข้าเนื้อร้องบวกกับซาวนด์ประกอบเหมือนกับเพลงทหารออกค่ายไปรบทัพจับศึก เพลงนี้ดนตรีกับเนื้อหาค่อนข้างจะต่างกันอย่างสุดขั้ว ประมาณว่ามีเนื้อหาแค่ 5 แค่ 6 แต่ความหลากหลายทางด้านดนตรี(ซึ่งปนกันเยอะไปหมด)รวมทั้งอารมณ์การร้องปาเข้าไป 9 - 10
ย้อนกลับไปถึงความสำเร็จและระดับของความเป็นซูเปอร์สตาร์ของชายคนนี้ที่ถูกสั่งสมขึ้นมาตั้งแต่เริ่มต้นในชุด หาดทราย สายลม สองเรา, สบาย สบาย, รับขวัญวันใหม่, พ.ศ.2501, ส.ค.ส, บูมเมอแรง, พริกขี้หนู, ธ.ธง, ขนนกและดอกไม้ กระทั่งถึง DREAM ในปี 2539 หลายเพลงจากอัลบั้มเหล่านี้ล้วนแล้วเรียกได้ว่าไพเราะระดับที่อยู่ในความทรงจำ
ในขณะที่งานของเขาถัดมาทั้ง ธงไชย เซอร์วิส (ธงไชย เซอร์วิส พิเศษ), ตู้เพลงสามัญประจำบ้าน, SMILE CLUB เหล่านี้แม้จะรูปแบบของการทำเพลงและความเป็น "เบิร์ด ธงไชย" เหมือนกับชุดที่ผ่านๆ มา แต่ถ้าถามถึงความประทับใจที่มีต่อบทเพลงที่พอจะเรียกว่าเข้าไปอยู่ในใจของคนฟังนั้นแทบจะไม่มีเอาซะเลย
เหล่านี้นี่เองที่ส่งผลให้สิ่งที่ยากที่สุดของการออกอัลบั้มของเขาในชุดต่อๆ มาจึงไม่ได้อยู่บนเงื่อนไขของความเป็นนักร้องของ "เบิร์ด ธงไชย" อย่างเดียวอีกต่อไป
โจทย์ที่ว่าถูกตีกระจุยกับงานในชุด "รับแขก" ด้วยการดึงเอานักร้องคนอื่นมาร่วมสร้างสีสัน ทั้งในส่วนของการทำเพลงอย่าง "โจอี้ บอย" รวมถึง นัท มีเรีย, จินตหรา พูนลาภ, แคท แคทรียา ซึ่งแม้จะคล้ายกับกับอัลบั้ม "ขนนกกับดอกไม้" ของเขาที่มี 5 นักร้องดังในช่วงนั้น อย่าง แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, คริสติน่า อากีล่าร์, ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์, มาช่า วัฒนพานิช และใหม่ เจริญปุระ แต่ต่างกันมากในเรื่องของอารมณ์เพลงที่มีกลิ่นอายแบบใหม่ขณะเดียวกันก็ยังไม่ได้ทิ้งความเป็นเบิร์ดแบบเก่าไปซะทั้งหมด ส่งผลให้งานเพลงชุดนี้ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
ถัดจากนั้นทั้ง อัลบั้มพิเศษ "แฟนจ๋า..สนิทกันแล้วจ้ะ" "เบิร์ด - เสก" ล้วนตั้งอยู่บนเงื่อนไขของสูตรที่ว่าทั้งสิ้นในขณะที่ "วอลลุ่ม 1" เองนอกจากจะเดินตามทางของความสำเร็จที่ค้นพบแล้วก็ยังมีความพยายามเพิ่มของใหม่ๆ เข้ามา อาทิดนตรีบลูที่นักร้องคนนี้ไม่เคยสัมผัสมาก่อน หรือจะเป็นฮิพฮอปของเด็กแนวจ๋าในแบบของหนุ่ม "ขันเงิน"
มองในแง่ของงานเพลงที่หลากหลายบวกกับรูปแบบของดนตรีผสมปนเปกันไปหมดแต่มีเพลงที่น่าประทับใจแค่ 3 - 4 เพลงเช่นนี้ต้องถือว่าวอลลุ่ม 1 เข้าขั้นอยู่ในระดับที่ออกแนวสับสนและเลอะเทอะพอสมควร แต่ถ้ามองว่านี่คืองานของคนที่ชื่อ "เบิร์ด ธงไชย" ซึ่ง ณ วันนี้ไม่ใช่นักร้องอีกต่อไปแล้วแต่เป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์มือฉมังคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นในความสับสันและในความเปรอะที่ว่าก็อาจจะตีความได้อีกอย่างหนึ่งก็คือความเป็น "วาไรตี้"
เป็นวาไรตี้ของความสนุกที่ต้องบอกว่ามีเขาคนเดียวคนนี้ที่จะทำได้
แต่ปัจจุบันก็คงจะไม่น่าสนใจเท่ากับอนาคต
อนาคตที่มาพร้อมกับคำถามที่ว่าซูเปอร์สตาร์คนนี้จะฝืนวัยของตัวเองได้สักเท่าไหร่? ภาพบางอย่างที่แกรมมี่ฯ ฉาบให้ตัวตนที่ชื่อ "เบิร์ด ธงไชย" หายไปเรื่อยๆ นี้จะเพิ่มความหนักให้เขาจนหาที่ลงไม่เจอหรือเปล่า?
ที่สำคัญหาก "หมดมุก" หากไม่มี "ทีม" แล้ว สิ่งที่เป็น "ตัวตน" ที่แท้จริงของ "เบิร์ด ธงไชย" จะ "ขาย" หรือจะ "สร้างศรัทธา" ให้กับคนฟังเพลง โดยเฉพาะรุ่นใหม่ๆ ได้ขนาดไหนกัน?
น่าสนใจไม่ใช่เล่นทีเดียว
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว
https://www.facebook.com/teeneedotcom