สิ่งที่จ๋าเขียน
ไม่ได้อิงบทความทางวิชาการ
แต่บอกเล่าจากเรื่องที่เกิด
และสิ่งที่เคยอ่าน
คนที่เป็นโรคซึมเศร้า
เราอาจเคยมองว่า
เฮ้ย มันจะอะไรขนาดนั้น
เว่อร์ไปไหม ที่จะมาเศร้าดิ่งอะไรกับเรื่องเล็กๆ
ทำไมถึงลุกขึ้นมาใหม่ไม่ได้วะ
ชีวิตแกก็ดีอยู่แล้ว
ไร้สาระว่ะ
คนอื่นทุกข์กว่าตั้งเยอะเค้ายังผ่านไปได้
บางคน คงเคยเจอเพื่อนมาปรับทุกข์
มาดาวน์ใส่
มาร้องไห้
มาบ่นว่าอยากตาย
บางคน อาจคิดว่า เค้าแค่เรียกร้องความสนใจ
เพราะสิ่งที่เราเห็น
ปัญหาเค้ามันไม่ได้ใหญ่อะไรสักหน่อย
เราอาจแค่พูดว่า...
สู้ๆนะแก
เอาน่าเดี๋ยวก็ดี
ช่างแม่งเหอะ
เดี๋ยวก็ผ่านไป
คิดเรื่องอื่นดิวะ
หรือร้ายไปกว่านั้น... มึงบ้ารึเปล่า?
จ๋าเอง
เป็นคนหนึ่งซึ่งทุกข์ทรมานกับการโทษตัวเองหลังจากที่เราแก้ไขอะไรไม่ได้
จ๋าเคยเป็นคนหนึ่งซึ่งเคย เอาแต่ให้กำลังใจ
และช่วยหาทางแก้
นำเสนอมุมมองในแง่บวก
อาสาช่วยเหลือในสิ่งที่คิดว่าจะทำให้เค้าดีขึ้น
ซึ่งมันไม่พอ.....
หาหมอค่ะ
รักษา ใช้ยา
บำบัด
กำลังใจ
เล่นกีฬา
ทำทุกอย่าง ทำให้สม่ำเสมอ
อย่าปล่อย
อย่าตามใจ ว่าเออ ไม่ต้องกินยาก็ได้
อย่าไปตามใจเค้าถ้าเค้าบอกไม่อยากหาหมอ เดี๋ยวก็ดีขึ้น อย่าไปเชื่อ อย่าใจอ่อน
อย่าไปให้เค้าทนให้อะไรๆมันผ่านไปเอง
มันไม่ดีขึ้นค่ะ
บทเรียนมีให้เห็นมากมาย
และมากขึ้นเรื่อยๆจริงๆ
ทุกวันนี้ เราเศร้ากันง่ายขึ้น สังเกตไหม
เราดาวน์กันง่ายมาก
จากทั้งสารเคมีในสมอง
จากทั้งจิตใจตัวเองที่อ่อนแอ
จากการเปรียบเทียบ
รู้มั้ย การเล่นโซเชียลมากๆ ก็ทำให้เราจิตตกได้ง่าย
หลายต่อหลายครั้ง ที่เราเห็นภาพความสุขของคนอื่นผ่าน facebook IG แล้วคิดว่า ทำไมชีวิตเราไม่ดีเหมือนเขา
เห็นคนสวยคนหล่อเต็มโลกโซเชียล แล้วเห็นว่าตัวเองด้อย
เห็นคนประสบความสำเร็จ มีเงินร่ำรวย แล้วเห็นตัวเองเป็นคนขี้แพ้
ชีวิตไม่มีค่า...
อะไรที่เราอยากทำ คนอื่นก็ทำไปหมดแล้ว
อะไรที่เป็นความฝัน ก็มีคนที่ทำได้ดีกว่า
โลกโซเชียลมันดึงให้เราดาวน์ได้ง่ายมากจริงๆ
หรือแม้แต่อีกด้าน เราเสพข่าวความโหดร้าย ความหดหู่ของสังคม เราก็จิตตก ทุกอย่างมันถาโถมประดังเข้ามาไม่หยุดในยุคนี้
เราต้องรู้ให้ทันมัน
อย่าให้ตัวเองเป็นเหยื่อของการไหลของตัวเราเอง
กรณีน้องสาวของจ๋า
สาเหตุของน้อง เกิดจากความเจ็บป่วยทางกายที่รุมเร้ามาหลายๆโรค ซึ่งเรามองว่า มันรักษาได้
https://www.facebook.com/teeneedotcom