เจ๊เบียบไล่ แม่ฟิล์มไปดูแลลูก


แอนนี่ตอกกลับฟิล์มอีกพูดไม่จริง บอกว่าโทร. มาหา 4-5 ครั้ง แต่ความจริงโทร.มาครั้งเดียว ที่ไม่รับสายเพราะมันเลยจุดที่จะต้องพูดกันแล้ว
 
ตอนนี้ต้องหนักแน่น จะออกทีวีครั้งสุดท้ายเพื่อยุติปัญหาทั้งหมด แต่ไม่ขอออกทีวีพร้อมฟิล์ม เพื่อนสนิทแฉฟิล์มไม่เคยส่งเสียเลย ทั้งที่รับปากว่าจะดูแลเอง ยันแอนนี่ดูแลตัวเองคนเดียว ไปฝากท้องเอง ไปคลอดเอง ฟิล์มจ่ายให้แสนห้าตอนที่ทำคลอดเท่านั้น ส่วนฟิล์มยังเก็บตัวเงียบ ผจก.ส่วนตัวโต้ข่าวถูกปลดจากพรีเซ็นเตอร์ เจ๊เบียบก็สวนกลับแม่ฟิล์ม ยันให้ความเห็นแบบตรงไปตรงมา ไม่ได้มีอคติกับใคร

'แอนนี่'ตอกกลับ'ฟิล์ม'อีก

หลังจาก "ฟิล์ม"รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ดาราและนักร้องชื่อดัง ออกมาแถลงเป็นครั้งที่ 2 ด้วยน้ำตา ขอโทษกรณี แอนนี่ บรู๊ค และลูกชาย โดยขอรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มีข้อแม้จะขอตรวจดีเอ็นเอ อ้างว่าเพื่อความสบายใจของพ่อแม่ และจะขอบวชหากเรื่องราวต่างๆ ยุติลงด้วยดี ขณะที่ แอนนี่ บรู๊ค ส่งข้อความระบายความในใจ ระบุพร้อมให้อภัยพระเอกฟิล์ม แต่ไม่ลืม ชี้สิ่งที่พระเอกคนดังพูดข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง วอนปล่อยให้อยู่ตามลำพังกับลูก ด้านอัยการระบุฝ่ายชายไม่สามารถบังคับให้ผู้หญิงตรวจดีเอ็นเอได้ เว้นแต่ศาลมีคำสั่งให้ตรวจ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สัมภาษณ์ แอนนี่ บรู๊ค โดยดาราสาวรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงอิดโรย ว่า ตอนนี้ไม่ค่อยได้นอน เพราะลูกชายตัวเล็กงอแงมาก

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฟิล์มแถลงว่าโทรศัพท์ติดต่อมาเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่แอนนี่ไม่มีการรับสาย ดาราสาวกล่าวว่า ในข่าวบอกว่าฟิล์มโทร.มา 4-5 ครั้ง จริงๆ แล้วเขาโทร.มาแค่ครั้งเดียวเอง หนูไม่ได้รับเพราะหนูไม่รู้จะยังไง มันเลยจุดนั้นมาแล้ว เราควรจะหนักแน่นในสิ่งที่เราตัดสินใจ เราโตแล้วเราควรมองให้ออก เรื่องแบบนี้ต้องใช้สติและสมาธิในการตัดสินใจ อย่าใช้อารมณ์ เรารู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร เราต้องตัดสินใจเอง อย่าให้สิ่งประกอบใดๆ คนอื่นที่เขาไม่รู้เรื่อง มาบีบให้เราตัดสินใจ เราต้องเข้มแข็งตัดสินใจเองให้ได้

ยันไม่ออกทีวีพร้อมนักร้องดัง

เมื่อถามอีกว่า จะไปออกรายการทีวีในเร็วๆ นี้ จะพูดเรื่องอะไรบ้าง แอนนี่กล่าวว่า เคลียร์ทุกอย่าง จริงๆ หนูไม่ได้พูดเรื่องเขา หนูพูดเรื่องของหนูนี่แหละ แต่มันตอบปัญหาด้วยตัวเอง คือหนูจะออกทีวีอีกครั้งต้องหยุดได้แล้ว หรือถ้าจะเกี่ยวข้องกับคนอื่นก็น่าโดยปริยายมากกว่า หนูจะตอบปัญหาให้ตัวเอง ตอบปัญหาให้คนที่สงสัย หลังจากนั้น หนูจะไม่พูดอีกแล้ว ถ้าจะพูดต้องเป็นเรื่องแม่กับลูกเท่านั้น มันจะต้องจบที่หนู

เมื่อถามว่า ถ้าทางรายการทีวีนัด'ฟิล์ม'มาออกรายการด้วยกันจะยอมหรือเปล่า แอนนี่กล่าวว่า ไม่ค่ะ เป็นแบบนี้ดีแล้ว ตอนที่ฟิล์มแถลงครั้งที่2 ความจริงน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่น่าจะออกด้วยกันด้วยซ้ำแล้วก็จบ มันไม่น่าจะออกกันแล้วโยนระเบิดเรื่อยๆ มันเหมือนเดิมเลย ถ้าคนที่เป็นกลางจริงๆ มองทุกอย่างตั้งแต่เรื่องเกิดจนถึงทุกวันนี้ จะเห็นเองว่าอะไรเป็นอะไรไม่ต้องอธิบายเยอะ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต่อจากนี้จะใช้ชีวิตอย่างไร แอนนี่กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า "เคยได้ยินเพลงนี้มั้ยค่ะ ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง ให้เธอคิดเอาเองว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร ชีวิตของเราเป็นของเรานะ เราอย่าให้คนอื่นมาทำร้ายเรา ถ้าเราทำร้ายตัวเองแล้วเราจะหวังให้คนอื่นไม่ทำร้ายเรามันเป็นไปไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างให้สัมภาษณ์นั้น จะมีเสียงร้องของลูกน้อยดังมาเป็นระยะ ดาราสาวจึงต้องขอตัวไปดูลูกก่อน

เพื่อนซี้แฉสัมพันธ์แอนนี่-ฟิล์ม

วันเดียวกัน นายยุคนธร หรือยุ (ขอสงวนนามสกุล) สาวประเภทสอง พนักงานฟรีแลนซ์ในกองถ่ายละคร "ปีศาจแสนกล" รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลนักแสดงในกองถ่ายในขณะนั้น และมีความสนิทสนมกับ แอนนี่ บรู๊ค และรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของ'แอนนี่'กับ'ฟิล์ม'รัฐภูมิ มาตั้งแต่ต้น เปิดเผยว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อไหร่จำไม่ได้แล้ว แต่ตอนนั้นยังแซวเลย จนเริ่มสนิทกัน แอนนี่ก็เล่าให้ฟัง จากนั้นแอนนี่มาบอกว่าเขาท้อง เราก็บอกว่ายังไงๆ ทำไมถึงพลาด ตนยังถามแอนนี่เลยว่าจะบอกเรื่องท้องกับฟิล์มหรือไม่ หรือจะให้ตนเป็นคนบอกแทน

นายยุคนธรเผยว่า วันนั้นกองถ่ายไปถ่ายที่คลองสามวา ช่วงนั้นก็ใกล้ปิดกล้องแล้วด้วย พอฟิล์มรู้เรื่องก็ตกใจมาก ซีเรียส ลนลาน ตนยังบอกฟิล์มให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ เดี๋ยวเราเป็นสื่อกลางให้ก็ได้ คอยดูแลให้ ฟิล์มยังบอกว่าเดี๋ยวจะคอยดูแลให้ทุกอย่าง และให้ตนช่วยดูอย่าให้แอนนี่ออกมาเปิดเผยเรื่องท้องกับสื่อ จากนั้นตน แอนนี่ และฟิล์มมานั่งจับมือกัน 3 คน บอกว่าเรารู้กัน 3 คนนะ ถ้าข่าวหลุดออกไป คือเรา 3 คนนะ กระทั่ง 9 เดือนไม่มีหลุดออกมาเลย

นายยุคนธรกล่าวว่า ตลอดเวลา 9 เดือน ไม่ได้ไปหาแอนนี่เลย เพราะติดงานที่กองละครเลิกดึกมาก แต่มีโทร.คุยให้กำลังใจตลอด แอนนี่ก็เข้าใจ ก่อนวันที่แอนนี่จะคลอดโทร.มาบอกว่ากำลังจะได้เห็นหน้าหลานแล้ว แต่ตนติดงานไม่ได้ไปหา วันนั้นแอนนี่ไปคลอดคนเดียว




ยันแอนนี่ไปฝากท้องคนเดียว

เมื่อถามว่า ฟิล์มดูแลอะไรบ้างช่วงที่แอนนี่ท้อง นายยุคนธรกล่าวว่า เท่าที่แอนนี่เล่าให้ฟังว่าฟิล์มไม่ได้มา เมื่อถามว่า เรื่องฝากท้องว่าแอนนี่จัดการเองหมดด้วยหรือเปล่า นายยุคนธรกล่าวว่า ใช่ ฝากท้องแอนนี่ไปคนเดียว จากที่ดูในข่าวบอกคุณแม่ฟิล์มพาไปฝากท้อง อยากให้ถามคุณแม่ฟิล์มเลยว่าฝากท้องที่โรงพยาบาลอะไร คลอดแล้วพักฟื้นที่ห้องเลขที่เท่าไหร่

เมื่อถามว่า ตอนที่ฟิล์มรู้ว่าแอนนี่ท้อง ให้สัญญาอะไรกับแอนนี่หรือไม่ นายยุคนธรกล่าวว่า ฟิล์มบอกถึงยังไงก็ไม่ทิ้งหรอก ยังไงก็ต้องดูแลแอนนี่ไปตลอดถึงแม้จะไม่ใช่ลูกของฟิล์ม ยอมรับว่ามีอะไรกันในช่วงเวลานั้น ฟิล์มยังฝากฝังให้ตนดูแลแอนนี่ด้วย คือเขาพูดดีมากแล้วก็เงียบไป ครั้งล่าสุดที่โปรโมตละคร ก็นั่งรถกลับมาพร้อมฟิล์มนะ ตนก็ไม่ถาม ฟิล์มก็ไม่ได้พูดอะไร ตนจึงตัดสินใจบอกว่าแอนนี่ท้องเริ่มโตแล้วต้องใช้ค่าใช้จ่าย และสงสารแอนนี่ไม่มีรายได้อะไร ต้องขายสมบัติเก่ามากิน เงินหมดไปทุกวันๆ แต่ฟิล์มก็ไม่พูดอะไร หลังจากนั้นตนไม่ได้คุยกับฟิล์มอีกเลย เงียบหายกันไป

ไม่เคยจ่ายค่าเลี้ยงดูให้เลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข่าวหลุดมาได้อย่างไร นายยุคนธรกล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ ตกใจมาก ไม่ออกจากบ้าน 2 วัน กลัวว่า 2 คนนั้นจะหาว่าตนเป็นคนปล่อย ที่ผ่านมาคุยกับแอนนี่ก็ถามตลอดว่าพ่อเด็กติดต่อมามั้ย แอนนี่ก็บอกว่าเขาโทร.มาคุยบ้างแต่ส่วนใหญ่แป๊บเดียว 5-10 นาที ตนถามตรงๆ ว่าฟิล์มให้เงินบ้างหรือเปล่า แอนนี่บอกไม่ได้ให้ แต่ฟิล์มจ่ายค่าคลอดให้แสนห้า แต่ตอนที่ท้อง 9 เดือนไม่เคยดูแลเลย แอนนี่ต้องไปซื้ออะไรมากินเอง ตุนไว้หมด เพราะออกไปไหนไม่ได้ แอนนี่รักและต้องการการยอมรับจากฟิล์ม

เมื่อถามว่า อะไรบ้างที่ฟิล์มพูดไม่ตรงกับแอนนี่ นายยุคนธรกล่าวว่า เรื่องค่าเลี้ยงดูทุกเดือนไม่มีแน่นอน เพราะแอนนี่โทร.มาบ่นตลอดเรื่องค่าใช้จ่าย ไปหาหมอคลอดลูกเอง เรื่องตรวจดีเอ็นเอ แอนนี่พูดกับเราตั้งแต่ตั้งท้อง ไปบอกให้ฟิล์มตรวจ แต่ฟิล์มก็กลัวอะไรไม่รู้ ไม่ยอมตรวจ และวันคลอดลูก แอนนี่เครียดมากว่าฟิล์มจะมาเซ็นเป็นพ่อหรือไม่ แต่ความรู้สึกแอนนี่ดูเสียใจมาก กังวลลูกเกิดมาแล้วพ่อไม่ยอมรับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้แอนนี่จะยอมตรวจดีเอ็นเอหรือไม่ นายยุคนธรกล่าวว่า ยืนยันไม่ตรวจดีเอ็นเอแน่ แต่ตอนนี้ด้วยอารมณ์แอนนี่ไม่แคร์แล้ว ขอแค่อยู่สงบกับลูก กังวลเรื่องลูกว่าโตขึ้นจะยังไงจะต้องมารับรู้เหตุการณ์ที่เลวร้าย พูดไปแอนนี่ก็ร้องไห้ไม่เคยเห็นเป็นแบบนี้มาก่อน ยังบอกให้อดทนนะ

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นอยู่ของแอนนี่เป็นอย่างไรบ้าง นายยุคนธรกล่าวว่า แอนนี่นั่งเงียบอยู่แต่ในคอนโดฯ ไปไหนก็ไม่ได้ ต้องสั่งข้าวมากิน กลัวไปหมด กังวลมาก




ส่วนฟิล์มเก็บตัวเงียบในบ้าน

วันเดียวกัน 'โน้ต' ผู้จัดการส่วนของนักร้องหนุ่ม ให้สัมภาษณ์ว่า ฟิล์มยังคงพักอยู่ภายในบ้านที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เดินทางออกไปไหนเลย และตอนนี้ก็รอการติดต่อมาจากแอนนี่มากกว่า เพราะต้องการทราบว่าแอนนี่จะเอาอย่างไรต่อไป ส่วนตนในฐานะเป็นผู้จัดการก็ได้เป็นคนโทร.หาแอนนี่เพื่อประสานถึงเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีใครรับสาย

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า 'ฟิล์ม' ทราบข่าวที่ว่า 'แอนนี่' จะไปให้สัมภาษณ์ในรายการตีสิบหรือไม่ ผจก.หนุ่มกล่าวว่า "ทราบข่าวมาเหมือนกัน แต่ก็แล้วแต่เขาว่าจะทำอย่างไรมากกว่า เพราะทางฟิล์มแถลงข่าวแล้วว่ายินดีรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว ขอแค่เพียงว่าแอนนี่ติดต่อเข้ามาพูดคุยกันเท่านั้น

ต่อข้อถามว่า ในวันจันทร์ที่ 27 ก.ย.นี้ 'ฟิล์ม' จะเข้าไปพบ'เฮียฮ้อ-สุรชัย' บิ๊กบอสอาร์เอส เพื่อหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวหรือไม่ ผจก.หนุ่มกล่าวว่า ฟิล์มคงเข้าไปคุยถึงผลกระทบเกี่ยวกับงานต่างๆ ที่ยังค้างกันอยู่กับทางอาร์เอสด้วย เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่แถลงข่าวครั้งแรกจนกระทั่งทราบข่าวว่าถูกระงับงานทั้งหมด ฟิล์มยังไม่ได้เข้าไปพูดคุยเรื่องนี้อย่างเป็นทางการเลย คิดว่าคงจะเข้าไปเคลียร์เรื่องงานมากกว่า ไม่น่าจะไปคุยเรื่องของแอนนี่ ส่วนแอนนี่จะให้ผู้ใหญ่ท่านไหนมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้ทุกอย่าง

โต้ปลดฟิล์มจากพรีเซ็นเตอร์

เมื่อถามถึงข่าวการปลดนักร้องหนุ่มออกจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ นั้น ผจก.นักร้องหนุ่ม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการปลดฟิล์มออกจากพรีเซ็นเตอร์ใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดอยู่ที่วิจารณญาณของเจ้าของสินค้าต่างๆ มากกว่า แต่เบื้องต้นยังไม่มีการสรุปใดๆ

เมื่อถามว่า ตอนนี้อาการของนางโคมมนต์ แม่ของฟิล์มเป็นอย่างไรบ้าง ผจก.ส่วนตัวนักร้องฟิล์มกล่าวว่า ด้านร่างกายตอนนี้โอเคแล้ว เหลือแต่สภาพจิตใจที่ยังไม่ค่อยดีอยู่ ทั้งฟิล์มและครอบครัวก็ยังคงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างว่าคนเป็นแม่เห็นลูกถูกทำร้ายก็ย่อมรู้สึกไม่ดีเป็นธรรมดา ยังมีอาการเหนื่อยใจอยู่ อย่างที่ฟิล์มเคยบอกไปแล้วว่ารู้ว่าทำผิดก็ยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง ตอนนี้รอการติดต่อกลับมาของแอนนี่เท่านั้น และฟิล์มไม่ต้องการพูดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว เพราะทุกอย่างได้พูดไปตอนแถลงข่าวหมดแล้ว

เจ๊เบียบสวนกลับแม่ฟิล์มอีก

วันเดียวกัน นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ให้สัมภาษณ์ทีวีถึงเรื่องที่แม่ฟิล์มออกมาตอบโต้ ว่า จากการสัมภาษณ์ครั้งที่ผ่านๆ มา มีการขยายผลไปเรื่อย แต่จะขอเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันว่า ในฐานะที่ตนสวมหมวกนายกสมาคม และเคยเป็นอดีตส.ว.ขอนแก่น ซึ่งเคยทำงานรับผิดชอบด้านสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ เป็นเพียงคนๆ หนึ่งที่ทำงานเพื่อสังคม หัวใจของพี่เป็นหัวใจของคนเป็นแม่ เข้าใจ และเป็นห่วงคุณแม่ของฟิล์มมากที่ไม่สบายจากความเครียด และความกดดันต่างๆ เพราะคนเป็นแม่รักลูกดุจแก้วตา ดวงใจ เมื่อลูกได้รับผลกระทบ คงไม่มีแม่คนไหนที่จะอยู่ได้อย่างมีความสุข

นางระเบียบรัตน์กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อทราบว่าคุณแม่น้องฟิล์มเขียนจดหมายได้แล้ว และเดินทางออกจากร.พ.แสดงว่าสุขภาพดีขึ้นแล้ว ก็คงจะมีความพร้อมทางร่างกาย และจิตใจเข้มแข็งเพียงพอมากขึ้น จนเขียนจดหมายได้ ก็ดีใจด้วย คิดว่าจากนี้แม่น้องฟิล์มจะได้ดูแลลูกชายอย่างเต็มที่ เพราะคาดว่าตอนนี้ความรู้สึกของลูกชายเขาคงจะแย่มาก เขาคงจะเคว้ง เมื่อแม่เข้มแข็งแล้วก็น่าจะเป็นที่พึ่งและช่วยเหลือลูก เป็นที่ปรึกษา เป็นเกราะกำบัง เป็นผู้ให้ความอบอุ่นลูกได้



แค่ให้ความเห็นตรงไปตรงมา

นางระเบียบรัตน์ กล่าวว่า การที่ตนออกมาให้สัมภาษณ์ไม่ใช่เป็นการยุ่ง ส่วนตัวไม่เคยคิดว่าจะมาสร้างข่าวโด่งดังให้คนเขามาเกลียด หรือหมั่นไส้ แต่พี่น้องสื่อมวลชนคงมองเห็นว่าอดีตตนเป็นส.ว.เป็นนายกสมาคม ก็คงอยากจะถามความคิดเห็นถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วบังเอิญว่าตนเป็นคนที่ให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีอคติต่อน้องฟิล์ม หรือใครทั้งสิ้น และไม่ได้บอกว่าใครผิดใครถูก เพราะเรื่องนี้ถ้าจะมองว่าใครผิดก็จะผิดด้วยกันทั้ง 2 คน เพราะเป็นเรื่องของเพศเสรีที่เป็นสังคมไทย จะมาบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว คนอื่นไม่เกี่ยว แต่พอเรื่องมันแดงถามว่ามันเกี่ยวคนอื่นหรือไม่ มันก็เกี่ยวหมดเลย ทั้งหน้าที่การงาน คุณพ่อแม่เสียใจจากการกระทำของลูก

"ไม่เฉพาะครอบครัวของฟิล์ม ครอบครัวของแอนนี่ ก็คงจะยิ่งเสียใจ เพราะเมื่อเกิดกรณีอย่างนี้ขึ้น ผู้หญิงเสียหาย 99% ผู้ชายเสียหาย 1% เท่านั้น เพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ถ้าไม่ถึงที่สุดแล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีข่าวแบบนี้ออกมาหรือไม่ เพราะถ้าเกิดกับคนธรรมดาก็คงไม่มีปัญหา สื่อก็คงไม่สนใจ ก็ขอให้เข้าใจตนในลักษณะอย่างนี้ คุณแม่ฟิล์มก็จะสบายใจขึ้น" นางระเบียบรัตน์ กล่าว

อยากให้แม่ฟิล์มดูแลลูกให้ดี

เมื่อถามว่าคำให้สัมภาษณ์รุนแรงไปหรือไม่ นายกสมาคม กล่าวว่า ตนเป็นคนพูดอะไรจะยึดหลักการ ตนไม่ได้ไปนอนกับเขาทั้งคู่ คนที่ออกมาพูดก็ล้วนเป็นบุคคลที่ 3 ทั้งนั้นที่ทำให้ป่วน ก็ขอให้พอได้แล้ว เรื่องนี้คนที่จะสนุกที่สุดคือกลุ่มที่อยากรู้อยากเห็น แล้วสื่อก็มีหน้าที่ มีความจำเป็นในการหาความจริงมีสะท้อนสังคม ส่วนตัวตนก็เป็นคนตรงไปตรงมา ถ้าน้อง 2 คนทำไม่ดี ตนก็ต้องออกมาพูดไม่ได้เห็นแก่หน้าใคร

นางระเบียบรัตน์ กล่าวยืนยันว่า การสัม ภาษณ์ครั้งที่ผ่านมาไม่ได้เป็นการกล่าวด่าใคร แค่เป็นการพูดให้รู้ ถ้าจะรับผิดชอบตรงนี้ มันเป็นเรื่องของคน 2 คนโดยแท้ ถ้าจะไปตรวจดีเอ็นเอ หากเกิดกับครอบครัวตน หรือคนที่ตนรู้จัก ก็จะแนะว่าไม่ให้ตรวจอยู่แล้ว เพราะมันยิ่งกว่าการตบหน้าผู้หญิง คือถ้ารู้ว่าเขารักสนุกแล้วคุณไปหลับนอนกับเขา คุณไม่ยิ่งเลวกว่าหรือ นี่คือสิ่งที่เป็นแนวคิดของตน ซึ่งถ้าเป็นครอบครัวพี่ก็จะไม่ขอรับความช่วยเหลือจากผู้ชายคนนี้ แต่สิ่งที่ฟิล์มออกมาแถลงบอกว่าช่วยเหลือในฐานะเพื่อนร่วมโลก คุณก็ช่วยเหลือกันไป ตนก็ให้สัมภาษณ์ไปในลักษณะนี้ จะมาบอกว่าตนให้สัมภาษณ์แรงก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่พูดตรงไปตรงมาเท่านั้น

"ตอนนี้มีความสบายใจที่เห็นคุณแม่น้องฟิล์มแข็งแรง พยายามฟื้นฟูจิตใจ และดูแลลูกให้ดี คนเราเป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนมันมีโอกาสพลาดได้ และก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรที่จะถึงขั้นประหารชีวิตจากสังคม เมื่อออกมายอมรับแล้ว เฮียฮ้อเขาก็พร้อมที่จะให้เข้าทำงานเหมือนเดิม และเมื่อแอนนี่เขาไม่ขอรับความช่วยเหลือ ก็จบกันไป อย่าไปขยายผลกันมาก" นายกสมาคม กล่าว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์