อดีตนางแบบชื่อดัง เพ็ญพร ไพรฑูรย์ ป่วยหนัก - ดูไพ่ยิปซีหาเงินรักษาตัว

 มีข่าวลือออกมาหนาหูว่าอดีตนางแบบชื่อดัง ‘ติ๋ม’เพ็ญพร ไพรฑูรย์ วัย 61 ปี ป่วยหนักจนทำให้ร่างกายซูบผอมจนน่ากลัว ล่าสุดอดีตนางแบบชื่อดัง ‘ติ๋ม-เพ็ญพร’ ได้เดินทางมาอัดรายการ “ปากโป้ง” ที่ สตูดิโอปากโป้ง ลาดพร้าวซ.15 ซึ่งออกอากาศทางช่อง 8 ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 10.30 น. และ 21.00 น

“เมื่อประมาณ 4 เดือนก่อน พี่ติ๋มไปงานวันเกิดเพื่อน แล้วพอกลับมาบ้านก็เกิดถ่ายท้อง 3 วัน 3 คืนติด จนวันที่ 4 ทนไม่ไหวต้องให้เพื่อนข้างห้องเรียกแท็กซี่พาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด พอไปถึงทางโรงพยาบาลก็ตรวจความดัน ตอนนั้นความดันต่ำมากเหลือแค่ 40 ตรวจความดันเสร็จทางโรงพยาบาลก็บอกให้เอาเงินมา 7,000 บาท พอให้ไป เขาก็ตรวจอีกรอบบอกว่าต้องเข้าห้องไอซียู ต้องจ่ายอีก 50,000 บาท เราก็เลยบอกงั้นของย้าย เพราะคิดว่าถ้าอยู่ต่อคงรักษาเป็นล้าน”

 “พี่ติ๋มเข้ารักษาโรงพยาบาลทั้งหมด 11 แห่ง 10 แห่งตรวจไม่พบสาเหตุว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร ขนาดตัดชิ้นเนื้อในลำไส้ใหญ่ไปตรวจแล้วหมอก็บอกว่าไม่พบมะเร็ง คุณหมอขอตัดชิ้นเนื้อไปตรวจอีกครั้ง แต่พี่ไม่เอาแล้วเพราะตอนที่ตัดชิ้นเนื้อมันเจ็บมาก จนมารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช คุณหมอส่องกล้องเขาไปดูในลำไส้ใหญ่พบจุดขาวๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งคุณหมอยังระบุไม่ได้ว่าเป็นเชื้อไวรัสชนิดไหน จะรู้ผลวันที่ 3 มิ.ย.นี้”

“ไม่กลัว เพราะใช้ธรรมะเข้าข่ม ถ้าต้องตายก็ดีใจ เราจะได้พักผ่อนเร็วขึ้น”

 ถามต่อถึงค่ารักษาตอนนี้หมดไปเท่าไร ติ๋ม-เพ็ญพร เผยว่า “ตอนนี้หมดไปเป็นแสน ซึ่งเป็นเงินที่เก็บหอมไว้ โดยไม่ได้มีใครช่วยเหลือ เพราะตั้งแต่ป่วยก็ไม่เคยบอกหรือขอความช่วยเหลือจากใคร จนพอมีข่าวลือออกมาว่าเราป่วย ก็มีตุ้ย-นวลปรางค์, ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี และคนอื่นเข้ามาช่วยเหลือเรื่องค่ารักษา 

 หลังจากออกจากวงการก็มาทำเสื้อผ้าแฮนด์เมด ทำสร้อยคอ งานจิตรกรรม ซึ่งตอนแรกก็ขายได้ แต่พอมีตึกใบหยกเกิดขึ้นคนก็แห่ไปซื้อของที่นั่น เราก็เลยต้องเปลี่ยนอาชีพใหม่ อย่างตอนนี้ก็รับดูไพ่ยิปซี”

 ตอนนี้อยู่ตัวคนเดียว แม่อยู่วัด ส่วนพี่น้องคนอื่นๆ เสียชีวิตหมดแล้ว ส่วนลูกชายเขาก็มีครอบครัวของเขา เราไม่ได้เข้าไปเรียกร้อง เพราะตัวเขาเองก็มีครอบครัวของเขาต้องดูแล และเขารู้ว่าแม่ของเขาเป็นคนเก่ง”

“ใช่ค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็ต้องกินยารักษาอยู่ คิดว่าสาเหตุของการเป็นโรคซึมเศร้าน่าจะมาจากเราโดนโกงบ่อย ไปถ่ายแบบขึ้นปกหนังสือก็ไม่ได้เงิน ไปรับจ้างวาดภาพตกแต่งร้าน ก็ไม่ได้เงินเพราะเป็นการพูดคุยปากเปล่าไม่มีการทำสัญญา แล้วเราก็ไม่เคยเรียกร้องอะไร มันสะสมมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นโรคซึมเศร้า”