เป็นห่วงซินดี้ จะเกิดปัญหา เหมือนแองจี้
หลังจากที่ น.ส.สิรินดา เจนเซ่น หรือซินดี้ รองมิสไทยแลนด์เวิลด์ อันดับ 1 กลายเป็นนางงามส้มหล่น ได้รับมอบหมาย จากผู้จัดการประกวดคือ บริษัทบีอีซี-เทโร เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ให้ปฏิบัติหน้าที่มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 แทน น.ส.อัจฉรา แมคคาย หรือแองจี้ ที่อ้างจำใจสละตำแหน่ง เพราะตกลงเรื่องผลประโยชน์ กับบริษัทบีอีซี-เทโรฯไม่ลงตัว ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวานนี้ ( 30 ก.ย. ) ซินดี้ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ที่โรงแรมบันยันทรี ถนนสาทร โดยมีผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ บี.ที. หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ชื่อดังจากประเทศเดนมาร์ก มาร่วมฟังด้วย เนื่องจากเป็นห่วงว่าซินดี้ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก จะประสบปัญหาเช่นเดียวกับแองจี้โดยซินดี้เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารู้สึกสับสน ตกใจ และลำบากใจที่สุด โดยเฉพาะหลังจากที่แองจี้ต้องลาออกจากตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์อย่างกะทันหัน ทำให้ตนเองปรับตัวไม่ทัน เนื่องจากคิดว่าแองจี้เหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากกว่า แต่เมื่อต้องมาทำหน้าที่แทนแองจี้ ก็รู้สึกภูมิใจ แม้จะรู้สึกกดดันเล็กน้อย เนื่องจากภาระหน้าที่มากขึ้น ต้องทำงานทุกวันแทบไม่มีวันหยุด เหนื่อยมาก ตั้งแต่เดินสายขอบคุณผู้ให้การ สนับสนุนการประกวด ถ่ายโฆษณาพรีเซ็นต์ประเทศไทย เรียนหลักสูตรการแต่งหน้า เรียนภาษาจีน ฯลฯ แต่ยินดีที่จะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มความสามารถ กำลังใจจากแองจี้ที่โทร.คุยกันแทบทุกวัน ทำให้หายเหงาและมีกำลังใจที่จะทำหน้าที่ต่อไป
ซินดี้กล่าวอีกว่า การที่แองจี้เดินทางกลับไป ทำให้ รู้สึกเหงา และร้องไห้หลายครั้ง เนื่องจากแองจี้เป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุด เวลามีปัญหาอะไรก็จะปรึกษา คอยช่วยเหลือกันและกันตลอดเวลา ตอนที่แองจี้มีปัญหาเรื่องสัญญา ได้ มาปรึกษาเพราะสัญญาในส่วนของตนเป็นปัญหาเหมือนกัน แต่รายละเอียดการเจรจาระหว่างแองจี้กับบีอีซี-เทโรฯเป็นอย่างไรไม่ทราบ เพราะแยกเจรจาคนละรอบ โดยของตนนั้น คุณไบรอันได้ตกลงให้สิทธิหาบ้านเช่าได้เอง โดยบีอีซี-เทโรฯจะจ่ายค่าเช่าให้เดือนละ 27,000 บาท ส่วนรายได้เพื่อการดำรงชีพในแต่ละเดือนนั้น บีอีซี-เทโรฯจะหางานป้อนให้ทุกเดือนเพื่อที่จะได้มีรายได้พอใช้
รักษาการมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 ยังกล่าวถึงกรณีถูกสื่อบางฉบับเสนอข่าว ในทำนองเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างแองจี้กับบีอีซี-เทโรฯ ว่าทางผู้บริหารของบีอีซี-เทโรฯ ไม่ได้ต่อว่า หรือกดดันไม่ให้แสดงความคิดเห็น หรือให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เพราะตนเองไม่รู้ว่าปัญหาลึกๆของทั้ง 2 ฝ่าย แต่ก็มีหนังสือพิมพ์บางฉบับพยายามลากไปเกี่ยวข้อง โดยระบุว่าที่แองจี้เปิดแถลงข่าวตอบโต้บีอีซี-เทโรฯก็เพื่อต้องการตำแหน่งคืนจากตน ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย
ทุกวันนี้ซินดี้กับแองจี้ยังเป็นเพื่อนรักกัน พูดคุยกันเกือบทุกวัน ก่อนเดินทางกลับแองจี้ยังโทร.มาบอกให้สู้ อย่ายอมแพ้ และจะติดตามเชียร์ให้ชนะการประกวดมิสเวิลด์ ที่ประเทศจีน ทุกวันนี้ไม่กล้าอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ไทย และไม่กล้ารับสายโทรศัพท์เวลาที่คุณแม่โทร. มาหา เพราะข่าวที่ออกไปจากสื่อของไทยล้วนแต่ทำให้ คุณแม่ซึ่งอยู่ที่เดนมาร์กเครียดหนัก กลัวว่าซินดี้จะประสบปัญหาเช่นเดียวกับแองจี้ ซินดี้กล่าว
ด้านนายชูเกียรติ วงศ์เทพเตียน อาของซินดี้ กล่าวว่า ตอนนี้ซินดี้ค่อนข้างเหงามาก ถึงแม้จะทำงานให้กองประกวดหนักทุกวัน แต่ไม่ค่อยมีเพื่อนคุยมากนักไม่เหมือนตอนที่แองจี้อยู่ ทั้งซินดี้และแองจี้จะชวนกันแอบไปทานไอศกรีม เดินช็อปปิ้งที่สวนจตุจักร และห้างเอ็มโพเรียมกันบ่อยๆ ทำให้ตนเองจะบินกลับไปเดนมาร์กเพื่อไปถ่ายรูปเจ้าเล็กซี่และมินดี้ สุนัข 2 ตัวโปรดของซินดี้ แล้วอัดรูปมาติดในห้องนอนของซินดี้เพื่อเป็นเพื่อนแก้เหงา สำหรับการทำหน้าที่มิสไทยแลนด์เวิลด์นั้น แม้ ตอนนี้ซินดี้ทำหน้าที่แทนแองจี้ได้ไม่มีปัญหา แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ เนื่องจากบีอีซี-เทโรฯยังไม่เคลียร์เรื่องสถานภาพของซินดี้ให้ชัดเจนว่า จะให้ทำหน้าที่มิสไทยแลนด์เวิลด์ เต็มตัว หรือในฐานะรองอันดับ 1 ปฏิบัติหน้าที่แทนมิสไทยแลนด์เวิลด์
นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ก็มีข่าวสาวไทยไปคว้าตำแหน่งนางงามในต่างแดน โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงลิมา เมืองหลวงเปรู ว่า น.ส.อุมา ชุมศรี หญิงไทย วัย 25 ปี ที่ต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำหญิงซานตา โมนิกา สามารถคว้าตำแหน่ง มิส สปริง 2005 จากการประกวดนางงามเรือนจำ ของคุกดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 ก.ย. โดย น.ส.อุมาถูกจับในคดีค้ายาเสพติดเมื่อเดือน เม.ย.ปีกลาย และนักโทษหญิงที่ร่วมประกวดในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ต้องคดีค้ายาเสพติดเช่นกัน
https://www.facebook.com/teeneedotcom