กอสสิปฯ ประจันหน้าโจทก์ ต่าย-เอ้ ไม่สนโดนฟ้องขอเล่นแรงเหมือนเดิม

กอสสิปฯ ประจันหน้าโจทก์ "ต่าย-เอ้" ไม่สนโดนฟ้องขอเล่นแรงเหมือนเดิม

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 กันยายน 2548 15:11 น.

"แก้ว พรีเมียร์" บก.หนังสือบันเทิง "กอสสิปสตาร์" เผชิญหน้าโจทก์ "ต่าย ชัชฎาภรณ์" - "เอ้ ชุติมา" สองสาวยันขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขณะที่บก.ชื่อดังบอกทุกอย่างทำตามหน้าที่ของสื่อฯ ไม่หวั่นถูกฟ้องขอเน้นคอนเซ็ปต์ขายข่าวแรงๆ เหมือนเดิม

จากกรณีที่ดาราสาว "ต่าย ชัชฎาภรณ์ ธนันทา" ฟ้องหมิ่นประมาทนิตยสารบันเทิง "กอสสิปสตาร์" เรื่องภาพฉาววีซีดี "ร่วมแก็งค์สวิงกิ้ง" เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท และ "เอ้ ชุติมา นัยนา" ก็ร่วมฟ้องในประเด็นที่ถูกเขียนพาดพิงถึงว่าเป็นแม่เล้านั้น ด้าน ศิริ เหลืองสวัสดิ์ หรือ แก้ว พรีเมียร์ บรรณาธิการนิตยสารเล่มดังกล่าวออกมายืนยันว่า ทางกอสสิปสตาร์จะยังเน้นคอนเซ็ปต์แรงเป็นที่ตั้งเหมือนเดิม และไม่ได้หนักใจเท่าไรที่ถูกฟ้องเพราะลงตามคำสัมภาษณ์จริงๆ

"วันนี้รู้สึกเฉยๆ ความจริงเดือนหน้าไม่ว่างต้องเดินทางไปนิวซีแลนด์ ก็เลยนัดต่ายมาวันนี้เลยพร้อมกันทั้ง 2 คดี ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่จะได้เจอกับเอ้ ด้วย ซึ่งไม่เคยเจอกันมาก่อน ซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร เพราะเราก็ไม่ได้มีเจตนาไปลงข่าวให้เค้าเสียหาย เค้าสัมภาษณ์มาอย่างไรก็ลงไปตามนั้น"

"สิ่งที่ผมลงในหนังสือก็เป็นบทสัมภาษณ์ของเค้าเอง เราไม่ได้เขียนข่าวขึ้นมา ส่วนเรื่องที่เค้าเรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน ก็คงต้องดูกันที่หลักฐานว่าเค้าเสียหายจริงหรือเปล่า เค้าจะเรียก 5 ล้าน 10 ล้านก็เป็นสิทธิ์ที่เค้าทำได้ ผมอยากจะบอกให้ประชาชนทราบว่า ผมได้ข่าวมาอย่างไรก็นำเสนอไปอย่างนั้น ไม่ได้อยากให้เสียชื่อเสียง การทำงานของเค้า เรื่องของสื่อมวลชนกับดารามันเป็นเรื่องที่ต้องกระทบกระเทือนกันบ้าง มันเป็นเรื่องธรรมดา ถึงอย่างไรหนังสือก็จะนำเสนอเหมือนเดิม เข้มข้น แล้วก็แรงเหมือนเดิม"

ด้านดาราสาวต่าย ชัชฎาภรณ์ หลังจากเดินทางมายื่นหลักฐานที่ห้อง 613 คดีเลขที่ 335/2548 ฟ้องหมิ่นประมาท นายศิริ เหลืองสวัสดิ์ และพวกอีก 6 คน ในนิตยสารกอสสิปสตาร์ แล้ว ออกมายืนยันกับสื่อมวลชนว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมแสดงความมั่นใจเพราะตนเองไม่ผิด

"วันนี้เป็นวันที่เอาหลักฐานมายื่น ส่วนคดีจะได้เริ่มพิจารณาคดีในวันที่ 1 ส.ค.49 วันนี้เหมือนกับว่าแค่มารับทราบ ตอนเจอหน้ากันก็ทักทายนะแต่ไม่ได้พูดคุยกับพี่เค้าค่ะ แต่ถ้ามีโอกาสก็คงจะได้คุยกัน สำหรับความมั่นใจในคดีนี้ โดยส่วนตัวต่ายมั่นใจในตัวเอง มั่นใจว่าเราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ตรงนี้เป็นการออกมาเรียกร้องเพื่อตัวเราและครอบครัว ส่วนเรื่องการเรียกเงิน 5 ล้านถามว่ามากไปหรือน้อยไปไหมอันนี้ก็แล้วแต่ศาล ศาลเห็นว่าอย่างไรก็คืออย่างนั้น"

ดาราสาวยอมรับว่ามีการพูดคุยถึงเรื่องภาพวีซีดีก่อนหน้านี้จริง แต่ขอว่าไม่ให้ลง ย้ำที่ฟ้องเพราะทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย ส่วนเรื่องที่ไม่ฟ้องสื่ออื่นเพราะมีการโทรถามตนแล้ว
"ต่ายมีการพูดคุยกับเค้าจริง แต่คุยกันแบบบังเอิญ ไม่ได้อัดเทป ไม่ได้มีไมค์ ไม่มีอะไรเลย ต่ายบอกว่าไม่ใช่ต่าย เรื่องนี้มันเสียหายอย่าเอามาลงนะ เพราะลงไปแล้วก็ไม่ได้เป็นผลดีกับต่าย ถ้าเค้าจะเขียนอะไรเค้าก็ควรเขียนให้ดูดีกว่านี้ ตรงนี้มันชัดเจนอยู่แล้ว"

"เล่มอื่นนักข่าวโทรไปถามก่อน ว่าภาพนั้นใช่ต่ายหรือเปล่า ต่ายก็บอกไม่ใช่ เค้าก็ไม่ลง ซึ่งก็ต้องขอบคุณพี่ๆทุกคนด้วย แต่ทุกวันนี้ต่ายก็ยังเคารพรักพี่เค้าเหมือนเดิม เลยอยากให้ใช้ภาษาในการเขียนที่ประชาชนรับได้ สละสลวย ประชาชนจะได้มีความรู้ แล้วก็สร้างสรรค์"

นอกจากเรื่องของ ต่าย ชัชฎาภรณ์ แล้ว ทางกอสสิปสตาร์ยังมีคดีความกับ ดาราสาวชื่อดัง "เอ้ ชุติมา นัยนา" กรณีเขียนข่าวพาดพิงในทำนองที่ว่าเธอเป็นแม่เล้า โดยในวันนี้เป็นการนัดมาสืบพยานวันแรกที่ศาลอาญาถนนรัชดา ซึ่งทางดาราสาวได้ออกมาเปิดใจภายหลังว่า เรื่องนี้ถึงลูกถึงคน ไม่มียอมความแน่นอน

"วันนี้ต้องเจอหน้ากันเฉยๆ ค่ะ เอ้ไม่รู้สึกอะไร เพราะว่าเอ้ไม่ผิด ไม่กลัวใครอยู่แล้ว เอ้ถึงลูกถึงคนนะ เจอก็ดีเหมือนกัน อยากจะถามเค้าว่าไปเอาข่าวมาจากไหน เอ้ไปทำแบบนั้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เค้าบอกว่าข่าวนั้นเป็นข่าวของเอ้ สัมภาษณ์เอ้มา เอ้อยู่วงการมา 22 ปี รู้จักหนังสือทุกเล่ม แต่ไม่รู้จักกอสสิปสตาร์เล่มเดียว วันนั้นมีนักข่าวที่เป็นกะเทย มาสัมภาษณ์เอ้ ว่าเปิดโมเดลลิ่งใหม่ ไม่กลัวคนมองว่าบังหน้าเหรอ เอ้ก็ถามว่าบังหน้าอะไร คิดได้ไง ถามแบบนี้ คิดมาจากบ้านเหรอ ถามแบบนี้ฟ้องหมิ่นประมาทซึ่งหน้าได้นะ แล้วเอ้ก็เลยถามกลับว่าทำไมต้องกลัวคนคิดแบบนั้น แล้วเค้าก็เฉไฉไปถามเรื่องอื่น ไม่มีดาราคนไหนให้ถามแบบนี้หรอก เค้าด่าตายเลย"

"สัมภาษณ์อย่าง ลงอย่างแบบนี้ไม่ได้ หลังจากที่บอกว่าจะฟ้อง ทางหนังสือก็ลงขอโทษ 7- 8 เล่ม ซึ่งมันไม่ใช่สิ ซึ่งคุณเขียนไปแล้ว เอ้ได้รับความเสียหายมากจากสิ่งที่เค้าเขียน คุณมีปากกาแต่คุณทำลายชื่อเสียงคนอื่น ทำให้เอ้เสียหาย คนทั้งประเทศมองเอ้ผิดไปแล้ว เค้าทำอะไรเค้าก็ต้องรับผิดชอบ จะไม่มีการตกลงข้างล่าง ไม่มีการยอมความแน่"

แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางนิตยสาร กอสสิปสตาร์จะมีการลงข้อความแก้ข่าวให้ไปแล้วบางส่วน แต่เอ้ยังยืนยันว่าที่ฟ้องเพราะอยากให้เป็นกรณีศึกษากับดาราคนอื่น ไม่ใช่อยากได้เงิน
"เอ้อยากให้เป็นกรณีศึกษากับดาราว่า เราคบกับสื่อมวลชนเราจะต้องสู้ ไม่ใช่เป็นดาราแล้วใส่หน้ากาก ทุกวันนี้ข่าวเสียหายของดารามันเยอะมากอยู่แล้ว อยากให้คนดูมองภาพดาราในทางที่ดี สื่อมวลชนดีๆมีเยอะมาก เอ้ไม่อยากให้สื่อมวลชนที่ดีๆ มาเสียเพราะสื่อฉบับเดียว ตอนนี้มีคนโทรมาให้กำลังใจเอ้เยอะมาก จริงๆเพื่อนๆจะมากันเยอะจะมาถือป้าย เอ้ก็บอกชั้นพูดเต็มที่อยู่แล้วไม่ต้องมาหรอก"

"ทางโน้นเค้าไม่ได้คุยกับเอ้ตรงๆ แต่เค้าพูดกับดาราให้มาคุยกับเอ้ เอ้ไม่ได้สร้างภาพออกมาร้องไห้ ถ้าร้องไห้นี่แปลว่าเรื่องใหญ่มาก ตอนนี้สถาบันโมเดลลิ่งที่เปิดก็ปิดตัวไปแล้วมันเสียหายมาก คนที่มาเช่าต่อเอาไปเปิดเป็นร้านตัดขนสุนัขแล้ว เอ้สู้ชีวิตมาตลอด ล้มเหลวเพราะตัวเองไม่เป็นไร แต่ล้มเหลวเพราะคนอื่นมันเสียใจ ยอมไม่ได้ อยากเรียกร้อง อยากให้คนอื่นเข้าใจว่าการฟ้องครั้งนี้เพื่อกู้ศักดิ์ศรีของเอ้ไม่ใช่เพื่อเงิน"

"จริงๆ มีการติดต่อเจรจาเจ้ามาตลอดแต่ทางเราไม่ได้ติดต่อกลับไป และเตรียมจะฟ้องแพ่งด้วย ไม่เกิน มกรานี้ แต่เราจะฟ้องนาทีสุดท้าย เพราะเอ้อยากจะบอกว่าไม่ได้หวังเงินทองเลย"

"คุณพ่อเอ้เป็นทหารต้องมานั่งตอบว่าลูกสาวไม่มีเงินแล้วเหรอ พ่อแม่ร้องไห้ เอ้เสียใจ นานแค่ไหนเอ้ก็จะสู้ สำหรับเรื่องคดีความก็คุยกับต่ายเหมือนกัน และดาราคนอื่นก็มีมาปรึกษาเอ้บ้าง เอ้ไม่ได้บอกให้ฟ้องนะ แต่เอ้ให้ดูว่าเราเสียหายมากแค่ไหน ถ้าเราทำถูกต้องก็ฟ้องไป"

ส่วนทางฝ่ายทนายของ เอ้ชุติมา ยืนยันว่าชนะแน่ พร้อมย้ำการเสียหายของเอ้ประเมินค่ามิได้
"ค่าเสียหายมันค่อนข้างเยอะมาก บอกเป็นตัวเลขไม่ได้ มั่นใจว่าต้องชนะ แต่จะทำให้ระมัดระวังมากขึ้น จริงๆฟ้องได้หลายคน แต่คุณเอ้เขาเลือกฟ้องผู้พิมพ์ผู้โฆษณาแค่คนเดียว ซึ่งก็สามารถฟ้องทางแพ่งได้อีก บอกเลยว่าค่าเสียหายทั้งหมดมันประเมินมิได้ เราไม่อยากบอกว่าจะฟ้องเท่าไหร่อะไรยังไง เพราะมันอยู่ที่ว่าคุณเอ้เองจะฟ้องยังไง บางทียังไม่ได้บอกด้วยซ้ำแต่สื่อก็เขียนไปแล้ว"

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดคดีความขึ้นมาทางฝ่ายนักแสดงสาวเคยบอกว่าทาง "กอสสิปสตาร์" ติดต่ออยากให้ยอมความ ในขณะที่ทางหนังสือบันเทิงเองก็ยืนยันว่าไม่ได้มีการติดต่อไปแต่อย่างใด...