หนิง ปณิตา เปิดชีวิตต้องกลายแม่เลี้ยงเดี่ยว ฝ่าฟันมรสุมใหญ่
มรสุมชีวิตผ่านไปแล้ว?
หนิง : จะว่าผ่านไปมั้ยก็ไม่เชิงเพราะชีวิตคนเรามันจะมีเรื่องใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลาอยู่ที่ว่าเรามองเรื่องนั้นเป็นเรื่องเล็กหรือว่าเป็นเรื่องใหญ่
ตอนนี้พี่หนิงรับบทเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว 100% เลย ?
หนิง : จะว่าอย่างนั้นก็ใช่ก็เรียกได้ว่าปัญหาที่เราจะต้องเคลียร์แต่ละปัญหาในเรื่องส่วนตัวและแน่นอนที่สุดเรื่องส่วนตัวของคนที่เป็นครอบครัวมันก็เป็นเรื่องของครอบครัวด้วย แล้วส่วนสำคัญที่สุดก็คือดันว่าปัญหาเกิดขึ้นในช่วงณิรินเองกำลังเข้าสู่วัยรุ่น ถ้าตอยที่เราเกิดปัญหาในช่วงณิรินเด็กๆมันอาจจะง่ายแต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นช่วงที่เขาเข้าสู่วัยรุ่น เขาก็จะมีความเป็นวัยรุ่นของเขา เรื่องราวของเขา ฮอร์โมนแปรปรวนของเขาอะไรหลายๆอย่างด้วยกันเลยรู้สึกว่ามันหนักจังเลยสำหรับเรา
หนิง : ใช้วิธีปิดเรื่องทุกเรื่องไม่ให้เขารู้เรื่อง แล้วเวลาเกิดเรื่องอะไรก็จะพยายามอธิบายให้เขาฟัง ทำอะไรก็ได้ที่ให้รู้สึกว่าเขาสบายใจที่สุดแล้วเขาอยากได้ยินอะไร ปกป้องรอบด้านเลย แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าตัวหนิงเองล้ม เหนื่อย เหมือนพังเอง ก็มีการคุยกับจิตแพทย์สุดท้ายคำตอบที่ดีที่สุดสอนให้เขาเรียนรู้จากความจริงที่เกิดขึ้นในมุมที่เบาที่สุด
พอรับรู้เรื่องแล้วณิรินจัดการกับตัวเองยังไง ?
ณิริน : พอหนูรู้เรื่องตอนแรก็เสียใจก็คือนั่งคุยกัน 3 คน เหตุผลอะไรที่จะทำให้เขาแยกเพราะหนูไม่เข้าใจ ณ ตอนนั้น แต่ว่าหม่ามี๊ก็อธิบายให้ฟังว่าการที่พ่อแม่แยกทางกันมันไม่ใช่เรื่องอะไรที่มันแย่มันคือเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเกือบทุกครอบครัวในโลก มันก็คือเรื่องปกติเพราะยังไงเขาก็รักเราเหมือนเดิม เขาแค่เปลี่ยนสถานะกลายเป็นเพื่อนกันหนูก็ยังได้เจอคุณปู่ คุณย่า ยังได้ทำอะไรเหมือนเดิม แค่พ่อกับแม่เป็นเพื่อนกัน หนูก็มานั่งคิดกับตัวเองว่าถ้าเขาแยกกันปัญหามันจะไม่เยอะกว่าเดิม เขาจะไม่มานั่งทะเลาะกันทุกวัน
หนิง : แต่ว่าในมุมของเด็กเขาไม่ได้สามารถจะเข้าใจได้ในแค่วันเดียวนะ สมมติว่า 1 เดือนในคำพูดคำเดิมเขาจะเข้าใจแบบนี้ ผ่านมาอีก 2 เดือนเขาจะเข้าใจดีขึ้น ผ่านมาอีก 3 เดือนเขาจะค่อยๆเข้าใจ เหมือนเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา แล้วต้องทำให้เรื่องใหม่ต้องกลายเป็นเรื่องที่ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับเขา แล้วเขาจะได้เรียนรู้ต่อไปในอนาคตว่าเวลาเรามีเรื่องอะไรเข้ามาต่อให้ไม่ใช่เรื่องนี้ทุกอย่างคือเรื่องใหม่และมันจะดีขึ้นตามสเต็ป ดังนั้นอย่ากังวลถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด อันนี้ต้องพยายามใจเย็นและพูดกับเขาในทุกๆวัน มันไม่ใช่แค่เราพูดนะ คำพูดไม่มีประโยชน์เลย การกระทำมีประโยชน์ที่สุด มันเลยทำให้เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเราเองเยอะ ใช้คำว่าเยอะมาก โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
เราต้องโฟกัสลูกเรามากขึ้นกว่าเดิมมั้ย ?
หนิง : มากขึ้นกว่าเดิม ใช้คำว่าหลายๆเท่าตัวได้เลย
ลูกเราเข้าใจเราทุกอย่างคนเป็นแม่รู้สึกยังไงบ้าง ?
หนิง : คำพูดเขา เขาเข้าใจเพราะเขาไม่อยากทำให้เราต้องมีห่วง ต้องกังวล เด็กคือเด็กเขาไม่ได้เข้าใจทั้งหมดหรอก แต่ความโชคดีที่สุดของหนิง หนิงมีคนรอบๆข้างที่ทำงานกันเป็นทีมอันนี้เป็นความโชคดีที่สุดไม่รู้จะขอบคุณยังไง แต่ในช่วงกระบวนการ 2 ปีที่ผ่านมาที่มีปัญหาทุกคนจะรู้ว่าเขาจะมีเวย์หลุดๆที่บางทีเขาไม่เข้าใจตัวเขาเองแล้วเขาก็จะแสดงพฤติกรรมหรือแสดงอะไรบางอย่างออกไปให้ดูว่าสิ่งนี้มันไม่น่ารักแต่ทุกคนก็เข้าใจเขา แต่หนิงกลับมาก็ต้องพยายามอธิบายให้เขาฟังว่าทุกคนพร้อมจะเป็นเบาะให้หนูฉะนั้นหนูต้องน่ารักด้วย ความรักของหนูไม่ได้หายไปเลยแถมเพิ่มเยอะมากขึ้นด้วยจากที่ทุกคนชื่นชมเขา อยากจะเห็นการเจริญเติบโต ลิตเติ้ลณิรินของพวกเรา
https://www.facebook.com/teeneedotcom