คู่รักลูก2ใช้นามสกุลไม่เหมือนกัน เตรียมส่งเรียนค่าเทอมเป็นล้าน

ใหม่ : (หัวเราะ) อันนี้จริง ๆ

ต้น : คืออย่างนี้ครับ วันนั้นผมอยากได้ความรู้สึกเหมือนที่เค้าบอกแม่เค้าบ้าง แต่กลับไปผมน้ำตาไหล พ่อไปอยู่วัดเลย พ่อไปอยู่กับเปรตวัดสุทัศน์ เพราะพ่อชอบนอนกรน และชอบดุผม

ที่บ้านมีศึกแย่งคุณแม่กัน ทุกคนอยากได้ความรักจากคุณแม่หมด ?

ใหม่ : คือใหม่ก็ให้ความรักเท่ากัน เวลาจะนอนใหม่ก็ต้องนอนกลาง ใหม่แคร์ในเรื่องของการรักลูกไม่เท่ากันมาก ๆ เพราะเราเคยมีอารมณ์แบบเป็นพี่น้องก็จะต้องแบบซ้ายคนขวาคน คนนี้ก็จะแย่งแม่ คนนั้นก็จะแย่งแม่ ความรู้สึกเหมือนกับเราเป็นนางสาวไทยสวยที่สุดในโลก เราก็ต้องอุ้มคู่เพื่อไม่ให้เขารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ให้เขารู้สึกว่าทุกคนต้องเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคนนี้จะเกิดก่อนหรือเกิดหลัง

ไม่ใช่แค่ลูกที่อยากได้แม่ แต่พ่อก็อยากได้แม่เหมือนกัน ?

ต้น : คือลูกไม่อยากให้ผมเข้าใกล้แม่เขา อันนี้ไม่ได้ครับแม่ของผม คือถ้าตราบใดที่เค้าจะนอนแล้ว เค้าจะไล่ผมและไปอยู่กับแม่ทันที

เตรียมคำตอบไว้อยู่แล้ว หากโตขึ้นเค้าจะถามว่าทำไมถึงนามสกุลคนละนามสกุล ?

ใหม่ : ใช่ค่ะ ช่วงแรกบางคนมีดราม่าว่าทำไมต้องจับฉลากนามสกุลด้วย มันจะดูเป็นการแบ่งนามสกุล แบ่งพ่อแบ่งแม่ แต่จริง ๆ แล้วก็คือลูกไม่ว่านามสกุลไหนก็คือลูกเราสองคน เราก็ไม่ได้อยากจะทำให้มันเป็นดราม่า ใครคิดยังไงก็แล้วแต่ เราสะดวกแบบนี้

ล่าสุดน้องกำลังจะเข้าโรงเรียนค่าเทอมเป็นล้าน ?

ต้น : คือเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมร้องไห้เหมือนกัน คือเปิดประตูอธิการบดีพูดมาคำเดียวคุณต้องจ่ายเลย คือแบ่งจ่ายนะ ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราอยากเติมเต็มให้ลูกเพราะเราเองเป็นคนต่างจังหวัดได้เรียนภาษาอังกฤษตอน ป. 5 เราก็เลยอยากให้ลูกเรียนอินเตอร์ มันเป็นความฝันเรา แล้วพอดีโรงเรียนนั้นอยู่ใกล้บ้าน แล้วเราก็ไม่รู้ค่าเทอมแต่ก็เห็นพี่ ๆ ดาราไปเรียนกัน มีพี่เพชรจ้าพี่เบนซ์เขาส่งลูกไป พอไปถึงเค้าก็บอกว่าเสียใจด้วยเพราะว่าไม่ได้มีส่วนลดดารานักแสดง ก็คือจ่ายเต็มที่แต่ก็คือปรึกษากันแล้ว

ใหม่ : ตอนแรกใหม่ไม่ได้อยากให้เรียนที่นี่ ใหม่อยากให้เรียนโรงเรียนวัดเพราะใหม่เรียนโรงเรียนวัดมาก่อน เราเลยรู้สึกว่าศักยภาพเราที่เรียนโรงเรียนวัดมาเป็นคนดีมีศักยภาพเรียนได้เกียรตินิยม เข้ากับสังคมได้ เราเลยรู้สึกว่าเปลืองเงินเขาด้วย ไม่อยากให้เค้าทำงานเหนื่อยทุกวันและเอาเงินมาจ่ายค่าเทอม และลูกอาจจะไม่ได้ต้องการหรอกให้ค่าเทอมมันแพง แต่อยู่ที่พ่อแม่ต่างหากที่จะสอนว่าให้เค้าดีได้แค่ไหน แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนจ่ายเราก็พูดไม่ได้ ก็แล้วแต่เขาแล้วกัน

ต้น : ถามผมว่าราคาสูงไหมถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้ก็ประมาณนึง สมเหตุและผล ก็ให้เค้าเรียนโรงเรียนเดียวกันเลย ทั้ง 2 คน

ตั้งวงเงินไว้เท่าไหร่หนึ่งคนต่อการศึกษาเรียนจนจบ ?

ต้น : คือตอนนี้ผมไม่กล้าใช้เงินเลย เพราะว่าผมมานั่งเขียนค่าใช้จ่ายลูกแต่ละคน เฉลี่ยแล้วเด็กแต่ละคนจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 18 ถึง 20 อันนี้ก็คูณสองเข้าไปยังไม่รวมเรื่องเรียนซัมเมอร์ ค่าเสื้อผ้า ค่าภาษา เราเลยเข้าใจคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น

ใหม่ : ใช่ค่ะ ถ้าใครดูแบ็คกราวด์ใหม่ ใหม่จะไม่ได้มีคุณแม่ แต่ว่าคนที่ใหม่เรียกว่าแม่ทุกวันนี้คือพี่สาวของคุณพ่อ จะเป็นคุณป้าที่เขาเลี้ยงใหม่มา ใหม่ก็เลยเรียกเขาว่าเป็นคุณแม่แทน ซึ่งคุณแม่ที่ให้กำเนิด ใหม่ไม่เคยเห็นหน้า และทีนี้ใหม่ก็เลยรู้สึกว่าเราอยากเลี้ยงเองด้วยความรักความอบอุ่นความผูกพันก็เลยรู้สึกว่าเราเลี้ยงเองดีกว่า บอกเลยว่ายิ่งกว่าคำว่าเหนื่อย ทุกวันนี้เหมือนจะเป็นไบโพลาร์เหมือนอารมณ์สวิง ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเราผิดปกตินะคะ แต่เนี่ยคือเดี๋ยวลูกก็หัวเราะเดี๋ยวลูกก็ร้องไห้ มันเป็นแบบนี้เราเลยปรับตัวไม่ค่อยทัน

แล้วจัดการความรู้สึกยังไง ?

ใหม่ : จริง ๆ ถ้าถามความดุ ดุทุกวัน เค้าอาจจะรู้สึกว่าดุทุกวันจนเคยชิน และใหม่ก็เป็นคนตีมากกว่าพี่ต้นตีด้วย ถ้าใหม่จะตีก็ต่อเมื่อเค้าทำผิดจริง ๆ ใช้เท้าเล่นของหรือปาของเล่น เค้าจะเป็นอารมณ์วัยทองชอบปาชอบอะไร แล้วใหม่ก็จะสอนเรื่องมารยาทมาก ๆ ความกลัวจริง ๆ เค้าก็จะกลัวพี่ต้นนะนาน ๆ ทีดุ และตีก็คือตี ใหม่ก็จะบอกพี่ต้นว่าให้เค้าดุให้เค้าตี แต่เค้าอ่ะจะกลัวลูกไม่รัก ไม่อย่างงั้นใหม่จะรู้สึกว่าเค้าจะไม่กล้าดุไม่กล้าตีลูก

ต้น : ชิณะ เขาจะรู้เรื่อง ถ้าเค้าทำผิดเขาก็จะขอโทษแล้วบอกว่าผมไม่ได้ตั้งใจ

ชิณะ พ่อกับแม่ใครดุกว่ากัน ?

ชิณะ : พ่อดุ ผมรักแม่มากกว่า

ใหม่ : ถ้าเทียบกัน ใหม่ว่าใหม่ดุกว่าพี่ต้นมากกว่า เพราะทางนั้นเค้าไม่ดุอะไรเลย พอเค้าเห็นพ่อเค้าดุเค้าก็เลยรู้สึกตกใจมากกว่า พี่ต้นเค้าจะเป็นคนสปอยล์ลูกมาก ตอนเด็ก ๆ คือซื้อแบรนด์เนมให้ ทางตัวเราก็จะบอกเค้าว่าอย่าสร้างค่านิยมผิด ๆ ให้ลูก เพราะเค้าใส่ได้แค่ครั้งเดียว เค้าก็โตแล้ว

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่