ผ้าเหลืองเปลี่ยนชีวิตพิธีกรดัง หลังถูกวงการแบนแทบไม่มีที่ยืน
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ผ้าเหลืองเปลี่ยนชีวิตพิธีกรดัง หลังถูกวงการแบนแทบไม่มีที่ยืน
ดีเจมะตูม มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เปิดที่มาที่ไปเพราะอะไรทำไมถึงกลายมาเป็น NEW มะตูม หลังเจอบทเรียนเล่มใหญ่เพราะโควิด-19 จนถูกวงการแบนฟ้าผ่า
ดีเจมะตูม : พี่หนิง ปณิตา เขาเริ่มส่งหนังสือสวดมนต์มาให้เขาอยากให้เราเย็นลงเขาบอกว่าเขาใช้ธรรมะแล้วมันดีขึ้น เราก็จากเด็กที่ไม่เอาธรรมะเลยพระก็ไม่ไหว้เริ่มอ่านบทสวดมนต์แล้วก็เข้าใจว่าอ๋อ .. ธรรมะช่วยอะไรบ้างเราเริ่มศึกษา พอเริ่มศึกษาธรรมะเราเลยรู้สึกรู้จักหลักองค์ประกอบหลักคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกอบไว้ด้วยไว้นี้นะ สุดท้ายแล้วพระที่สูงที่สุดคือบุพการีมันย้อนกลับไปถึงพ่อถึงแม่ตัวเอง แล้วก็ย้อนกลับไปถึงตอนที่เราป่วย ตอนที่เราไม่อยากอยู่ ตอนที่เราอยู่ในห้อง ICU แล้วแบบไม่มีใครมาเยี่ยมเราได้เราหันไปไม่เจอใครเลยนอกจากแม่ แม่ยืนเกาะกระจกน้ำตาคลอ เราหันไปเจอแม่พี่คือตูมน้ำตาไหลแม่คือน้ำตาไหลแล้วไหลออกมาแบบไม่ได้มีหยุด ยืนมองแบบลูกฉันไม่ต้องเป็นดาราก็ได้ใครเกลียดเราก็ได้แต่แม่รักเราอย่าเป็นอะไรนะลูก ตูมเลยรู้สึกว่าแบบไม่เอาแล้วตูมอยากเปลี่ยนน้ำตาที่ทรมานของแม่เป็นน้ำตาแห่งการปิติให้ได้ ซึ่งนั่นก็ได้จากวินาทีที่เขาปลงผมของตูมครับ การบวชเรียนของเราจุดประสงค์คือตูมต้องการเห็นแม่ชัดขึ้น
แต่จากคนที่จากใช้ชีวิตด้วยความตื่นเต้นกับสีสันตลอดเวลา เรียกว่าจากซ้ายสุดอยู่ดีๆ ถูกโยนไปขวาสุดแล้วไปนั่งอยู่นิ่งๆ นั่งอยู่เฉยๆ ทรมานไหม
ดีเจมะตูม : ตอนนั้นคืออยากสึกตั้งแต่วันแรกเลย พี่ฉอดตูมอยู่ไม่ได้ตูมจำได้เลยว่าตูมเข้าไปพอเปิดห้องน้ำไปคือเจอเขียดเลยตูมอยู่ไม่ได้ทำไงอยู่ไม่ได้ สิ่งที่เขาให้ตูมทำคือมาวัดป่าให้ทำอะไรตื่นตีสี่ต้องมากวาดลานวัดแล้วจากนั้นก็ทำวัดเช้าตอนตีห้าแล้วจากนั้นเข้าสมาธิออกอีกทีหนึ่งสี่โมงเย็นภารกิจตูมที่วัดป่าเอาเท่านี้ ตูมก็ถามพระอาจารย์หน้าที่ของตูมมีเท่านี้เหรอครับ ซึ่งพระอาจารย์บอกว่าทำแค่นี้ให้ได้ก่อนตูมก็นั่งสมาธิไปโอเคเจ็ดโมงคิดว่าเที่ยงออกบอกเลยว่ายากมากทำอย่างไรดีปวดขา ปวดเข่า ปวดกระดูก ปวดคอปวดๆ เมื่อไหร่จะแปดโมงสักที เก้าโมงยัง สิบโมงยัง ลืมตามา 7.20 เองพระอาจารย์บอกว่าจิตไม่สงบเลย พระอาจารย์บอกว่าเอาใหม่นะการทำสมาธิไม่ใช่เป็นการบังคับให้ตัวเองสงบอะไรก็ตามที่อยู่ในใจให้เห็นแล้ววางก่อนและเหลือแค่จิตของเราอย่างเดียวที่ไม่ยึดติดกับอะไรเลย นั้นแหละไปตรงจุดนั้นให้ได้ก่อน
พระอาจารย์สอนแบบวิทยาศาสตร์มากครั้งแรกสำเร็จก็คือแปดโมงเช้าถึงบ่ายสองโมงครับ นิ่งไปเลยแต่ตูมใช้เวลา 3 วันกว่าจะได้แต่จุดเปลี่ยนจากการบวชเรียนจริงๆ เลยก็คือพระอาจารย์ให้ตูมธุดงค์ขึ้นดอยครับ เพื่อไปบิณฑบาตแล้วตูมเห็นชาวบ้านบนดอยช้างนะครับ น่ารักเป็นแม่ลูกคู่หนึ่งเขายืนรอใส่บาตรตูมแล้วแบบเขารู้จักตูม รู้จักตูมช่วงนี้ต้องรู้สึกไม่ดีกับตูมสิเพราะข่าวตูมตอนนั้นไม่ได้ดี 1 ปีที่ผ่านมาเราไม่มีข่าวที่ดีออกมาเลยครับ แต่เขากลับก้มกราบเราด้วยใจศรัทธาจริงๆ แล้วก็อนุโมทนาที่เรามาสู่สายธรรมจริงๆ ณ วินาทีนั้นเราได้เห็นแววตาชาวบ้านมันทำให้ตูมรู้ว่าเขาทำบุญเขาได้กุศลเวลาคนก้มกราบเราหนึ่งครั้งเหมือนเราสูงขึ้นมาอีกสเต็ปหนึ่งเลยนะครับ มันเลยทำให้เรารู้สึกว่าทำอย่างไรก็ได้เราได้รับเกียรติจากบุคคลเหล่านั้นแล้ว เราได้ศรัทธาจากประชาชนแล้วเราต้องเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบให้ได้สำรวมให้ได้ ถ้าเกิดเป็นพระที่ดียังไม่ได้อย่าออกมาเป็นฆราวาสที่ดีเลยไม่มีทาง
ตูมก็เลยมีความคิดใหม่เลยว่าจะตั้งใจศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนให้ได้อย่างมากที่สุดแล้วพอเราได้ขึ้นไปถึงบนดอยจริงๆ ครับ พระอาจารย์ให้นั่งสมาธิที่ปากเหวครับ แล้ววินาทีที่เราลืมตามานี่สินะที่เขาเรียกว่ามันเปลี่ยนมันสว่างไปหมดเลยข้างล่างเป็นเหวลึกข้างบนเป็นฟ้าที่ไม่มีขอบเขต แล้วข้างหน้าเป็นวิวที่สุดลูกหูลูกตาไม่มีเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงลมและเสียงหัวใจของตัวเองเต้น เสียงลมหายใจของเราดังที่สุดมันเลยได้สัจธรรมแล้วบอกกับตัวเองว่าเนี่ยมนุษย์มีอยู่เพียงเท่านี้ เราเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของจักรวาลนี้เท่านั้นเองธรรมชาติใหญ่กว่าเรามากๆเราจะอยากใหญ่ไปกว่าธรรมชาติไปทำไม ตูมอยากจะดังที่สุดไปทำใม อยากจะรวยที่สุดไปทำไม คำว่าที่สุดๆนี่แหละทำให้เราชิบหาย คำว่าที่สุดนี่แหละคือกิเลสและกิเลสคือเหวลึกใส่ลงไปอย่างไรก็ไม่มีวันเต็มหยุดไม่เอา ถ้าออกไปได้ออกไปเป็นคนใหม่วันนั้นทำให้ตูมคิดได้แบบนี้เลยครับ
https://www.facebook.com/teeneedotcom