ย้อนชีวิตก่อนดังบูม เทยกะทะ เหลิงจนหมดตัว เชื่อได้ดีเพราะหมา
บูม : เริ่มต้นจากที่หนูแก้ดวง หมอดูบอกว่าอยากได้แบบไหนก็ต้องทำแบบนั้น พอหมอดูบอกว่าใส่บาตรทุกเช้าสิ ชีวิตจะดีขึ้น อันนี้ใช้จริงสำหรับคนที่รู้สึกว่าดวงไม่ค่อยดี หรือคนที่ราหูเพิ่งย้ายออกไป ลองดูตักบาตรติดกัน 2 อาทิตย์ ตอนแรก ๆ หนูฝืนมาก ๆ เพราะตื่นเช้า พอใส่บาตรมา 2 อาทิตย์ติด เราก็อยากให้แฟนคลับร่วมอนุโมทนาบุญ ตอนแรกไม่มีชุดนะคะ
ตอนแรกใส่บาตรปกติไม่ได้มีคอสตูม ?
บูม : ไม่ได้มีคอสตูมค่ะ คือคอสตูมมันเริ่มจากที่เราไปออกงาน ออกอีเว้นท์มาก่อน คือเริ่มต้นจากชุดเก่า ๆ ก่อน ทีนี้คนดูเยอะมาก
วันแรกที่ทำหลวงพี่เป็นยังไงบ้าง ?
บูม : ตอนแรกเป็นชุดราตรีก่อน หลวงพี่ก็หืออ วันแรกไม่เท่าไหร่ วันที่2 เริ่ม แล้วมันมีจุดพีคที่ทำให้หลวงพ่อหัวเราะมาก ๆ คือเป็นชุดของลิง หลวงพ่อหัวเราะยาวเลย หนูเลยบอกค่อยให้พรก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหัวเราะให้จบก่อน มันแฮปปี้ตรงที่พอเราเริ่มทำบุญ มีแฟนคลับหลาย ๆ คนเขาชวนน้องหมาของตัวเองออกไปทำบุญแล้วถ่ายรูปมาโชว์หน้าคอมเมนต์
2 ตัวนี้เขาเคยไม่เอาชุดนี้ มีต่อต้านไหม ?
บูม : ไม่ได้มีต่อต้านว่าไม่ชอบชุดนี้ แต่ว่าเขาจะเหลือกตาแบบว่าชุดนี้ไม่สวย ไม่อยากใส่
บูม : อันนี้ไม่ยาก เพราะเขาชอบอะไรที่สวย ๆ งาม ๆ อยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้บูมมีเดินแบบการกุศลช่วยหมาจร คือเริ่มต้นหนูใส่ให้หมูทะก่อน แล้วทีนี้มาลองให้เป๊ปซี่ใส่ดูด้วย สุดท้ายคือเขาชอบทั้งคู่ แต่ชอบในที่นี้ต้องบอกก่อนนะ ว่าบูมไม่ได้ให้น้องใส่แบบพะรุงพะรัง ใส่เป็นช่วงเวลา ไม่ได้ใส่ทั้งวัน
ลำบากไหมใส่บาตรทุกเช้า มี 2 ตัวนี้อยู่ข้าง ๆ แล้วเราก็แต่งตัวด้วย ?
บูม : ไม่ลำบากเลย เขานิ่งมาก เป๊ปซี่จะไปเล่นกับพระก่อน หนูบอกว่าถ้าพระมา มาเรียกด้วย นี่ก็จะไปเล่นกับพระ พอพระมาก็เรียก
แฟนคลับเปย์ให้หมาครึ่งล้าน ?
บูม : เป๊ปซี่กับหมูทะเขาจะมีด้อม ซึ่งแต่ละด้อมไม่เหมือนกัน แฟนคลับด้อมหมูทะอีกด้อมนึง ของเป๊ปซี่ก็อีกด้อม แต่ส่วนใหญ่ตอนนี้จะเป็นเป๊ปซี่ เพราะเป๊ปซี่จะเป็นตัวดื้อ ตัวสร้างวีรกรรม เป็นแบบเรียลคอนเทนต์ เงินที่บูมได้มาครึ่งล้าน คือบูมไปงานอีเวนต์ที่จังหวัดภูเก็ต เขาเห็นเราช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวจรจัดเยอะอยู่แล้ว เวลาบูมช่วยเหลือน้องหมาน้องแมว บูมไม่เคยเปิดรับบริจาค บูมจะบอกแค่ว่าถ้าใครเอ็นดูบูม สามารถจ้างงานได้ แล้วเอาเงินตรงนั้นไปช่วย พี่เขาบอกเห็นเราทำตรงนี้บ่อย พี่ขอให้หมูทะ 2 แสน เป๊ปซี่อีก 2 แสน
ตัวบูมได้เท่าไหร่ ?
บูม : หนูได้ 5 พัน อันนี้ไม่รวมค่าตัวนะ
แล้วที่นอนที่แฟนคลับส่งมาให้ล่ะ ?
บูม : หนูไลฟ์เขาเห็นที่นอนน้องหมา แฟนคลับบอกว่าที่นอนน้องดูเล็กนะคะ ขออนุญาตส่งที่นอนน้องให้ได้ไหม บูมก็โอเค ยินดีค่ะถ้าจะส่งที่นอนน้องหมามาให้ ผ่านไปวันเดียว คนส่งของบอกว่าช่วยผมยกลงจากรถหน่อยได้ไหมครับ หนูก็ถามว่าทำไมที่นอนหมาเอาเข้ามาได้เลย เขาบอกต้องช่วยครับ พอหนูลงไป ที่นอน 6 ฟุต หมอนข้าง 2 แล้วเป็นเตียงนิ่ม ราคาแพง
บูม : เป๊ปซี่กัดผ้าม่านขาด ตอนนั้นแฟนคลับก็เห็นกันหมด หนูก็พยายามฮึบไว้ มันไม่ได้ดึงมาแค่ผ้าม่าน มันกระชากทั้งราว พอจบไลฟ์ปุ๊บมีข้อความเข้ามาขออนุญาตเปลี่ยนผ้าม่านให้ทั้งหลัง ตอนนั้นก็เปลี่ยนไปประมาณ 1-2 แสน เขามาด้วยนะคะ เขาบอกว่าไม่ต้องลงเขาก็ได้ เพราะเขาคือแฟนคลับ แล้วพอก่อนกลับกัดอีกนะลูก กัดอะไรเดี๋ยวแม่ซื้อให้หมดเลย แล้วหนูแบบควรยังไงดี ควรด่าแฟนคลับหรือด่าเป๊ปซี่ก่อน จากนั้นก็กัดโซฟา หนูก็ได้เปลี่ยนอีก แฟนคลับเปลี่ยนให้ หนูต้องบอกก่อนว่าแฟนคลับหมูทะกับเป๊ปซี่รุนแรงมาก ใครแตะต้องไม่ได้ด้วย เขารักของเขา
แม้กระทั่งฉี่ยังมีราคา ?
บูม : 5 หมื่นค่ะ ต่อ 1 ครั้ง มันเกิดตากเป๊ปซี่ไลฟ์อยู่ดี ๆ เป๊ปซี่ฉี่บนที่นอนข้างหลังหนู แล้วหนูไม่เห็น คอมเมนต์เต็มเลย มันฉี่แล้ว หันไปเลย หนูก็ทำงานลูกค้าอยู่ มันฉี่แล้ว หนูไม่เห็นจริงๆ ปกติมันไม่ฉี่ในบ้าน ไม่ฉี่บนเตียง แต่วันนั้นเป็นอะไรก็ไม่รู้ หนูก็กรี๊ดจริงจังมาก เสร็จปุ๊บแฟนคลับติดต่อมาอีก อยากได้คลิปเป๊ปซี่ฉี่อีกได้ไหม หนูก็คิดว่ากวนตีนแล้ว มาหยอกล่ะ งั้นขอเป็นเรตนี้แล้วกัน 5 หมื่น แล้วก็ส่งเลขบัญชีไป เขาไม่มีการมาเมนต์หรือพูดตอบกลับนะ เขาตอบกลับมาเป็นสลิปโอนเลย คือหนูคิดว่าเขาแกล้ง เราเลยแกล้งส่งเลขบัญชีไป แต่เขาโอนมาเลย พอโอนมาปุ๊บเขาบอกว่าไม่ต้องบังคับให้น้องฉี่นะคะ ถ้าน้องฉี่เมื่อไหร่ก็เอาเงินตรงนี้ไปซื้อที่นอนใหม่แล้วกัน
ชีวิตตั้งแต่เจอหมูทะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ชีวิตดีขึ้นยังไงบ้าง ?
บูม : ตอนนั้นเป็นช่วงโควิดที่ทุกอาชีพลำบากหมด วันนั้นเป็นวันที่บูมเครียดในระดับนึงเลย มีเงินไม่เกินพันนึงไปกินหมูกระทะ วันนั้นเครียดไงก็เลยดื่ม ไป ๆ มา ๆ หลายเตลิด เลยอุ้มกลับบ้าน แต่ตอนนั้นหนูยังไม่ได้คิดจะเลี้ยงเขาเลยนะ เพราะว่าการเลี้ยงน้องหมาไม่ใช่สักแต่จะเลี้ยง เราต้องดูแลเขาตลอดชีวิต แล้วตอนนั้นคนก็ไม่มีจะกินต้องมาแบ่งหมาอีก
ตอนเมาอุ้มหมากลับบ้าน ตื่นเช้ามาเห็นหมาอยู่ในห้อง รู้สึกยังไงบ้าง ?
บูม : ตอนนั้นหนูคิดว่าเพื่อนแกล้ง เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะกัดเราไหม เพราะมันเป็นหมาใครก็ไม่รู้ แล้วหนูก็รีบเอาไปคืนเลยที่ข้างถนนร้านหมูกระทะ แต่ตอนเช้าร้านปิด แล้วไม่คิดจะเลี้ยง เพราะตอนนั้นเราไม่แน่นอนในอาชีพของเรา ซึ่งอาชีพของเราคือเราต้องออกจากบ้านเช้า กลับอีกทีคือดึก มันเลยไม่มั่นใจที่จะเลี้ยงเขา แต่ไป ๆ มา ๆ เลี้ยงก็ได้
พอตัดสินใจจะเลี้ยง เห็นบอกว่า 2 ตัวนี้สร้างรายได้ให้คุณ เปลี่ยนชีวิตเลย ?
บูม : เปลี่ยนชีวิตเลย หนูถึงบอกจนถึงทุกวันนี้เลย หนูไม่ลืมบุญคุณเขา เหมือนเกื้อหนุนกันมา ก็เลยทำให้บูมมีหลากหลายโครงการมาก เรามีชื่อเสียงได้เพราะหมาจรจัด หนูไม่ได้มองว่าหมูทะ พอมาเป็นหมาเราแล้วจะลืมอดีตเขา เขาก็ยังเป็นหมาจรจัดอยู่ แต่ทีนี้เรารู้สึกว่าพอเรามีโอกาสแล้ว เราควรแบ่งโอกาสให้กับหมาตัวอื่นด้วย บูมก็เลยมีหลากหลายโครงการมาก ไม่ว่าจะเป็นวิทยากรฟรี หาเงินให้กับหมาแมวจรจัด แล้วเงินที่บูมได้มาไม่ว่าจะเป็นการรับงานรีวิวก็จะแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปช่วยน้องหมาน้องแมวด้วย ตลอดเวลาตั้งแต่ดังมาจนถึงปัจจุบัน
บูม : ไม่เคยค่ะ ไม่มีช่วงที่ไม่มีงาน เพราะเราเข้าใจ พอเราได้มารู้จักชีวิตหมาจรจัดจริง ๆ ตอนที่บูมเอาหมูทะเข้ามาในบ้านแรก ๆ เขาจะแบ่งข้าวกินแค่ครึ่งเดียว แล้วอีกครึ่งเขาไปขุดหลุมแล้วก็ฝังไว้ หนูก็แปลกใจทำไมเขาทำแบบนั้น ทีนี้เพื่อนบูมบอกว่าชีวิตหมาจรจัดเขาไม่ได้ต้องการที่นอนอุ่น ๆ ไม่ได้ต้องการบ้านหลังใหญ่ เขาไม่ต้องการอะไรเลยด้วยซ้ำ เขาต้องการแค่อาหาร วันนี้เขามีอาหารกิน เขาเลยกินวันนี้แค่ครึ่งเดียว เพื่อรองท้อง พรุ่งนี้จะได้กินที่เขาเก็บไว้ เพราะไม่รู้ว่ามะรืนเขาจะมีกินไหม หนูเลยอินกับตรงนี้มาก แล้วช่วยเหลือตรงนี้มาตลอด
พอมีเงินมากขึ้น ได้ซื้อบ้าน ซื้อรถ รูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปไหม ?
บูม : เปลี่ยนค่ะ มันมีช่วงนึงที่หนูเหลิง เป็นช่วงที่รู้สึกว่าเงินมันได้ง่าย ชื่อเสียงมันได้เร็ว เหมือนพี่ชมพู่ พี่พีเค กว่าจะสะสมชื่อเสียงมา แต่ของหนูคืนเดียวแล้วเปลี่ยนชีวิตเลย แล้วมันเหลิง มันเหลิงในชื่อเสียง เหลิงในเงินที่ได้มา มันเหลิงทุกอย่าง สมมตินะคะ วันนี้เราหาเงินได้ 1 ล้าน หนูใช้ 1 ล้าน แล้วยอดไลก์ถ้าต่ำกว่า 3 หมื่น หนูลบทุกรูป คือมันไม่มีคำว่าพอในชีวิตเลย แล้วตอนนั้นเลือกงานด้วย งานเช้าไม่รับ ต้องหลังบ่ายเท่านั้น รอได้รอ รอไม่ได้ไม่รับ
อะไรที่ทำให้เรากลับมาได้ ?
บูม : หมดตัว มันใช้จนหมด แล้วหนูไม่รู้จักพอในชีวิต เรามี 10 แต่เราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนมี 100 หนูไม่เคยพอใจในชื่อเสียงของตัวเอง ไม่เคยพอใจเงินในบัญชีที่ตัวเองมี ไม่เคยพอใจในรถที่ตัวเองขับ ไม่เคยพอใจในบ้านที่ตัวเองอยู่ ทั้ง ๆ ที่หลายคนมองว่ามันเพอร์เฟกต์แล้ว มันเหลือ ๆ แล้ว ตอนนั้นอีโก้ เพดานมันสูงมาก
แสดงว่าเราใช้เกินที่เราหาได้ ?
บูม : คือหนูเอาเงินไปลงทุน แต่เป็นการลงทุนแบบไม่ศึกษาเลย ใครชวนอะไรก็ทำหมด ไม่ว่าจะเป็นพวกอสังหาฯ คริปโต เอาเงินยัดอย่างเดียวไม่เคยนับเงินเลย จนมันหมด ขอขอบคุณนะคะที่มันหมด เมื่อก่อนหนูเที่ยวต่างประเทศบ่อยมาก ใช้เงินเป็นเศษกระดาษเลย จนหมดตัวมันทำให้หนูได้มาอยู่กับตัวเอง ได้มาใส่บาตรจริงจัง พอเรารู้จักคำว่าพอในชีวิต กลับมาเร็วมาก แต่ไม่ได้มีเงินเท่าเดิมนะคะ แต่มีความสุขมากกว่าเดิม พอใจในทุกอย่างที่ตัวเองมี ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
บูม : ตอนนั้นเราต้องย้อนกลับมาดูเราก่อนว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นแบบที่เขาพูดไหม แต่ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด เราก็มองข้าม ซึ่งคอนเทนต์ที่หนูทำมันเป็นคอนเทนต์ธรรมชาติของเขา แล้วเราเหมือนคนทั่วไป เวลาเรารักรถ เราก็จะโพสต์รูปรถของเรา พอเรารักหมา เราก็โพสต์รูปน้องหมา แต่ดันมีสปอนเซอร์เข้า คนเลยมองว่าเราใช้หมาทำมาหากิน แล้วตอนที่บูมแต่งตัวให้น้องหมา ต้องบอกว่าหมากะเทย เราเป็นคนที่รักสวย รักงาม ทำชุดได้ แล้วพอเราใส่ให้เป๊ปซี่กับหมูทะอยู่นิ่งถ่ายรูปให้คนดู มันเลยเป็นกระแสว่าบูมเกาะหมากิน หากินกับหมาตรงนี้
แต่ไม่โกรธ ?
บูม : ตอนแรกโกรธนิดนึง แต่ว่าพอเราย้อนกลับมาดูตัวเอง เราไม่ได้เป็นแบบนั้น ทุกครั้ง ทุกเคสที่บูมไปช่วยไม่ใช่แค่หมูทะกับเป๊ปซี่นะ ทุกเคสที่บูมไปช่วย บูมใช้เงินส่วนตัว อีกอย่างบูมมีธุรกิจหลายตัว ไม่ได้รับรีวิวอย่างเดียว
มีคอมเมนต์ไหนไหมที่ทุกวันนี้ยังรับไม่ได้ ?
บูม : มีอยู่อันนึงเขาด่าหนูทุกวัน ตั้งแต่ในเพจ ลามมาอินสตาแกรม ติ๊กต่อก เขาด่าทุกวัน 1 เดือนเต็ม แบบอีกะเทย เกาะหมาแดก ชิงหมาเกิด รุนแรงมาก ตอนแรกเรามองข้ามไป จนรู้สึกอยากเจอหน้าแล้ว หนูเลยฟ้องไป พอวันที่มาเจรจา แม่เขามาด้วย แล้วแม่เขาจะก้มกราบเท้าหนูขอให้บูมถอนแจ้งความ บูมยกเขาขึ้นขึ้นทันบอกว่าแม่ไม่ต้อง แม่ไม่ได้มีส่วนผิดกับเรื่องนี้เลย คนที่ควรกราบเท้าคือคนที่มาคอมเมนต์ แต่ไม่ต้องมากราบเท้ากูนะ ให้กราบเท้าแม่ตัวเอง
https://www.facebook.com/teeneedotcom