คู่รักรุ่นใหญ่แต่งงาน13ปีขาเตียงมั่นคง นิสัยต่างกันสุดขั้วเกรงใจเมียมาก
"ก็เรื่องที่ผมใจร้อน เขาจะใจเย็น หรือรู้สึกว่าผมไม่สน เขาจะสน อย่างเช่นเรื่องเลี้ยงลูกหรือเรื่องดนตรี เราจะทิศทางต่างกันมาก แต่เรื่องอาหารเขาจะใส่ใจมาก เขาจะถามผมเสมอ อย่างกับผมมีสิทธิ์กำหนดว่าจะไปกินอะไร ทั้งๆ ที่เขามีข้อแม้ค่อนข้างเยอะ จริงๆ ให้เขาถามตัวเองดีกว่าว่าจะกินอะไร เพราะผมอะไรก็ได้ และถ้าพูดออกไปว่าจะกินแบบนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องไปกินตามที่เขาอยากกิน เขาชอบรู้สึกว่าให้เราเป็นผู้นำ จริงๆ ผมก็อยากเป็นผู้นำ แต่เป็นไม่ได้ เพราะฮาน่าเป็นผู้นำ"
คุณภรรยาเป็นสาวมั่นมาก?
"อย่างไปกินข้าว แล้วมีโต๊ะข้างๆ มาแซว ผมก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ เราชินแล้ว แต่เขารับไม่ได้ เขาหันไป เขาไม่พอใจ จัดการเลยกลางตลาด ซึ่งเราก็มองหาว่ามีตำรวจ รปภ. หรือใครที่จะช่วยเราได้ เพราะเราไม่ได้อยากจะทิ้งเขาไว้ตรงนั้น ยังไงผมก็ต้องกลับบ้านกับเขา หลังจบรายการนี้ ผมก็ต้องหาทางรอดให้ได้ครับ"
มีเรื่องไหนที่เราบ่นภรรยา จนจะเลิกบ่นแล้ว?
"เอาเรื่องไหนดี หลักๆ ก็คือเขาเป็นคนมีสังคม ค่อนข้างกว้างขวาง เขาให้ความสำคัญกับคนรอบข้างเขาค่อนข้างเยอะ ทุกงานเขาไปหมด ขนาดชื่อคนนี้ ผมยังไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ผมก็ยังต้องไป เขาจะบอกผมว่า เดี๋ยว 2 ทุ่มกลับแล้ว แต่สรุป 2 ทุ่มของเขาก็คือ 5 ทุ่ม เขาเป็นคนตรงเวลา ถ้าเราบวก 3 ชม. ไปแล้วนะ แต่ถามว่าเราโกรธ เราหงุดหงิดไหม ก็มีบ้าง แต่จำไม่ได้แหละ เรื่องไม่ดีอย่าไปจำ"
"คือพออะไรมีส่วนลดนิดๆ หน่อยๆ คือมีคูปอง หรือขึ้นป้ายว่าเซลล์คือต้องซื้อ แต่ผมก็จะเถียงกลับว่า เขาขายไม่ออกไง เขาเลยมาลดราคา แต่เขาก็จะซื้อ ขอแค่ได้ลดนิดหน่อยก็เอา แต่อันไหนเป็นหมื่นเป็นแสน คือไม่ต่อราคา ไม่ประหยัดเลย ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า มันเป็นเรื่องแซว ไม่ต้องคุยแล้ว"
แต่ก็หวานกันเยอะมาก?
"บางคนอาจจะหวานแบบอลังการ แต่ของเราไม่ได้หวาน แต่มั่นคงมากกว่า แต่ก็มีหวานบ้าง แต่ไม่สามารถพูดออกรายการได้"
หลักอะไรที่ผ่านจนมาถึงวันนี้?
"มันอาจจะเป็นหลักก็ได้ แต่บางคนก็มักจะติดอยู่ในสถานการณ์ แม้นิสัยดีทั้งคู่ แต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ เราโชคดีที่สถานการณ์ทำให้เราอยู่ด้วยกันได้ โดยใช้ความพยายามนิดนีง ซึ่งถามว่ามีงอนไหม ก็เป็นเรื่องปกติ เรื่องงอนกันมักจะมาจากเรื่องความหิว ถ้าเขาไม่ได้กิน เขาจะโมโหหิว อยากได้อะไร ให้เขาต้องกินข้าวก่อน ค่อยเริ่มคุยใหม่ เพราะเขาคือถ้าน่ารัก ก็น่ารักมาก และก็ผมหัวขาด ซึ่งเรื่องไม่ใช่เรื่องเลย ผมจะอ่อนไหวก็น้ำเสียง เขาโมโหหิว น้ำเสียงเขาจะโหดมาก ผมจะเก็บไปคิด ทั้งๆ ที่เรื่องไม่มีอะไรเลย น้ำเสียงประมาณนางร้ายช่อง 7 เมื่อ 20 ปีที่แล้ว"
ฮิวโก้ : "ผมไม่เคยไปต่างประเทศกับเพื่อนผู้ชาย แต่ผมทำงานที่ต่างประเทศ แต่เรื่องนี้ลืมไปแล้ว แต่ประมาณว่าในข่าวว่าเขาไฟเขียวให้วันไนท์สแตน อะไรสักอย่างนี่แหละ แต่ผมไม่เคยได้รับไฟเขียวตรงนี้เลย เพราะผมไม่เชื่อ ไม่รอดหรอก เขาไม่อนุญาตหรอก"
ฮาน่า : "มันเป็นเรื่องที่พูดก่อนแต่งงาน เหมือนเป็นการลองใจเขา เหมือนเป็นสิทธิ์หญิงชายเท่าเทียมกัน ซึ่งเราสบายใจแหละ เพราะตอนนั้นเราต้องทำงานห่างไกลกัน เพราะไกลกันมันอาจจะสะบั้น แต่เป็นการลองใจก่อนแต่งงาน ตอนนั้นคุณฮิวโก้ตอบว่าคนไปรบเขายังห่างแฟนเลย เอาเรื่องรบขึ้นมายัน หูยยยย"
ฮิวโก้ : "แต่ไปศึกษามาแล้วว่าคนไปรบ เขานอกใจกันเยอะนะ"
ฮาน่า : "ต้องอยู่ที่คนแล้วล่ะ"
ฮิวโก้ : "ผมว่าต้องอยู่ที่โอกาสแล้วล่ะ"
"คุณอย่าเพิ่งดูถูกแฟนคลับผู้หญิง เขาเป็นคนมีรสนิยม แค่เขาเป็นแฟนคลับผม เขาก็มีรสนิยมแล้ว ซึ่งถ้าใครต้องการมากกว่าเพื่อน ผมไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ใหม่ๆ ในฐานะเพื่อนยังเกิดขึ้นยากแล้ว โอกาสแทบไม่มีเลย เพราะผมบริสุทธิ์ใจให้ภรรยาเช็คโทรศัพท์ได้ เพราะถ้าเรามีความลับอะไร เราก็อย่าเอาไปไว้ในโทรศัพท์ซิครับ (ยิ้ม) แต่เก็บไว้ที่ไหน ไม่บอกเลย"
เรื่องไหนที่ฮาน่าไม่สามารถบ่นฮิวโก้ได้?
"คือเรื่องงาน ตัดสิทธิ์ในเรื่องเพลงไปเลย เรื่องเพลงผมปรึกษาคนอื่น แต่ธุรกิจหลังบ้าน ผมจะปรึกษาเขาทุกเรื่อง"
เราเป็นสามีที่เกรงใจใช่ไหม?
"ใช้คำนี้ก็ได้นะครับ เขาเป็นคนที่เราอยู่ด้วย และถ้าใครจะมาปาดคอกลางดึก ก็ต้องเป็นเขาคนเดียวที่ทำได้ เพราะฉะนั้นคนที่คุณอาศัยอยู่ด้วย คุณควรจะเกรงใจ"
https://www.facebook.com/teeneedotcom