งานเข้า! จ่อเรียกสอบดาราชื่อดัง ม. หลังจับแก๊งสวมทะเบียนรถ
ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ "พลิกถนนล่า รหัสโจรกรรม" จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายเสถียร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี และ นายศริสร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี พร้อมรถยนต์หรูหลายรายการ อาทิ อาวดี้ คิว 8, เมอร์เซเดสเบนซ์ G300, ออสติน มินิ แวน, ซากรถยนต์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู E3, บีเอ็มดับเบิ้ลยู 3.0 CSL, เครื่องปั๊มเพลท, แผ่นเพลท และเล่มทะเบียนรถจำนวนมาก
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางกรมการขนส่งทางบก ตรวจพบความผิดปกติในการเข้าใช้งานโปรแกรมปรับฐานข้อมูลของผู้ดูแลระบบงานด้านทะเบียนรถยนต์ จึงตรวจสอบย้อนกลับไป ปรากฏว่ามีการลักลอบนำยูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ดของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกไปใช้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงข้อมูลรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในระบบงานตรวจสภาพรถ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า และเปิดปฏิบัติการตรวจค้น 35 จุด ยึดรถที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจำนวน 65 คัน มูลค่า 77,350,000 บาท พร้อมทั้งออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพื่อให้ทราบถึงแหล่งที่มาของรถที่ได้ครอบครองที่เกี่ยวข้องในคดีนี้
ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒชัย กล่าวว่า ขบวนการนี้มีการแบ่งงานกันทำ โดยขั้นตอนของคนร้ายจะเข้าไปแก้ไขข้อมูลรายการรถในระบบงานตรวจสภาพรถ และเชื่อมโยงข้อมูลมายังระบบงานทะเบียนรถยนต์ ก่อนจะมาขอคัดเล่มทะเบียนรถใหม่ เพื่อให้ข้อมูลในะระบบ MDM ของกรมการขนส่งทางบก ตรงกับข้อมูลรถที่ครอบครอง และข้อมูลในเล่มทะเบียนรถ
พ.ต.อ.สุวัฒชัย กล่าวอีกว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก็ไม่ทราบถึงการแก้ไขดังกล่าว จึงได้ออกเล่มทะเบียนเล่มใหม่ให้ รถคันดังกล่าวจะกลายเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมมีเล่มคู่มือการจดทะเบียนแบบถูกต้องสามารถนำไปขายหรือโอนต่อได้ โดยเล่มทะเบียนรถยนต์จะขายหรือจำนำ ในราคา 500,000 -1,500,000 บาท, กรณีจ้างเปลี่ยนข้อมูลจะคิดค่าดำเนินการ 1,400,000-2,000,000 บาท และหากขายเล่มทะเบียนพร้อมรถยนต์จะขายในราคาประมาณ 1,000,000-3,000,000 บาท
พ.ต.อ.สุวัฒชัย กล่าวด้วยว่า ซึ่งระบบของกรมการขนส่งทางบกมีการวางระบบป้องกันอยู่แล้ว แต่ทางผู้ต้องหาอาศัยความคุ้นชินกับเจ้าหน้าที่เข้าไปจดจำรหัสผ่าน โดยใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กส่วนตัว เข้าอินเตอร์เน็ตผ่านไวไฟของกรม ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถเข้าระบบผ่านระบบนี้ได้เช่นกัน ทำให้บุคคลภายนอกที่ล็อกอินเข้าใช้อินเตอร์เน็ตเข้าไปในระบบได้ โดยกลุ่มที่ก่อเหตุจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่สอง คือ คนซื้อเล่มทะเบียนรถไป เพื่อไปหารถยนต์ที่มีสภาพตรงกับข้อมูลในเล่มทะเบียน จากนั้นก็จะไปเปลี่ยนเลขตัวถังรถยนต์ เพราะสามารถยึดที่ปั๊มเพลทรถยนต์ได้ โดยกลุ่มนี้จะขายรถยนต์ราคาประมาณ 1 ล้านบาท และเล่มทะเบียนรถยนต์อีก 1 ล้านบาท รวม 2 ล้านบาท
กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่มีรถยนต์ และเล่มทะเบียน แต่จดทะเบียนไม่ได้ จึงว่าจ้างให้อีกคนไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลรถยนต์กับกรมการขนส่งทางบก โดยประสานผ่านผู้ต้องหา มีราคาเปลี่ยนคันละ 1.4-2 ล้านบาท
ขณะที่ พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถตรวจยึดรถได้จำนวน 65 คัน เป็นรถยนต์ 57 คัน ในจำนวนนี้มีแต่เล่ม 32 คัน มีแต่รถ 2 คัน มีรถพร้อมเล่ม 13 คัน และถูกสวมชื่อ 9 คัน ขณะที่ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 8 คัน ในจำนวนนี้มีแต่เล่ม 2 คัน มีรถพร้อมเล่ม 1 คัน และถูกสวมชื่อ 6 คัน เบื้องต้นแจ้งข้อหาในความผิดตาม ม.7, ม.9 และ ม.14(1) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการแก้ไขข้อมูล นำข้อมูลปลอมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเข้าถึงรหัสโดยมิชอบ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวต่อว่า และหลังจากนี้จะขยายผลถึงกลุ่มอื่น ๆ โดยเฉพาะผู้ครอบครองรถยนต์ที่ต้องสงสัยก็จะออกหมายเรียกให้นำรถยนต์เข้ามาตรวจสอบ รวมทั้งทำหนังสือถึงกรมศุลกากร ถึงการนำเข้ารถยนต์และการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรถยนต์
นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า แต่ครั้งนี้เป็นการตรวจพบของเจ้าของพาสเวิร์ดเอง ที่พบความผิดปกติจึงแจ้งให้ตรวจสอบ โดยผู้ที่รู้พาสเวิร์ดการเข้าระบบนี้มี 7 คน และมีการแก้ไขข้อมูลรถของเจ้าหน้าที่เพียงคนเดียว อย่างไรก็ตาม สำหรับการจดจำรหัสผ่านของผู้ต้องหา ก่อนหน้านี้ก็จะสามารถเข้าระบบอินเตอร์เน็ตด้วยระบบ LAN แต่เมื่ออำนวยความสะดวกใช้เจ้าหน้าที่ใช้แท็บเล็ตในการเข้าระบบตรวจสอบรถยนต์ได้ก็สามารถล็อกอินเข้าระบบด้วยไวไฟได้
นายจิรุตม์ กล่าวอีกว่า และตรวจสอบในพื้นที่เปิดทำให้บุคคลภายนอกอาจเห็นเวลาที่เจ้าหน้าที่เข้าระบบได้ แต่พาสเวิร์ดนี้จะต้องเปลี่ยนทุก ๆ 3 เดือนอยู่แล้ว ขณะนี้ก็ได้เน้นย้ำให้หน่วยดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวัง และเว้นระยะห่างระหว่างตัวเองและผู้ใช้บริการแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ดำเนินการแอบจดจำยูสเซอร์เนม-พาสเวิร์ดของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 ก่อนที่จะทำสำเร็จคันแรกปลายปี 2565 และกระทำความผิดเรื่อยมา
ซึ่งจากการขยายผลของชุดสืบสวนพบขบวนการนี้มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ชอบสะสมรถเก่า-รถโบราณ ในจำนวนนี้มีดารานักแสดงชื่อดังอักษรย่อ "ม" และกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมรวมอยู่ด้วย ซึ่งขั้นตอนจากนี้จะออกหมายเรียกมาให้ปากคำตามขั้นตอนต่อไป
https://www.facebook.com/teeneedotcom