พระเอกดังยอมถอดเขี้ยวเล็บสยบให้ภรรยาต่างชาติ แย้มข่าวดีลูกคนที่2
เรียกว่าถอดเขี้ยวเล็บไม่มีเหลือ สำหรับ "อ้วน รังสิต" เห็นแบบนี้ใครจะไปรู้ว่าชีวิตจริงทำหน้าที่สามีและคุณพ่อได้ดีมาก มีโอกาสกลับมาเมืองไทย หนุ่มอ้วนเลยขออัปเดตชีวิตรักในรายการ Z Story Z Holiday ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 กับสองพิธีกร ดีเจอ๋อง เขมรัชต์ และ ลิตา อินท์ชลิตา ซะหน่อย งานนี้พร้อมวางแผนเตรียมมีลูกคนที่สองกันแล้ว
ถือว่าเป็นพ่อบ้านเต็มตัว อยู่กันมากี่ปีแล้วกับ "มะม่วง" ภรรยา
"แต่งงานอยู่กันมาประมาณ 3-4 ปี แต่ตั้งแต่เป็นแฟนก็ประมาณ 7 ปีครับ ต้องบอกว่ามะม่วง แทบจะพูดภาษาเกาหลีไม่ได้แล้วตอนนี้ บางทีผมถามภาษาเกาหลีกับเขา เขากลับนั่งนึก บางคำเขาเริ่มลืมแล้วครับ เพราะมาอยู่เมืองไทยนาน"
เราไม่พูดเกาหลีเลยใช่ไหม
"น้อยมากครับ แทบจะไม่พูดเลย ถ้าพูดก็เป็นคำๆ ถ้าพูดก็จะเป็นคำที่ใช้สั่งลูก เช่นคำว่า อย่าๆ หรือห้าม ผมก็จะใช้ภาษาเกาหลีครับ เพราะว่าแม่เขาสอนลูกมาแบบนี้ เราก็เลยต้องพูด เพื่อให้เขาเข้าใจ"
"เรียกว่าทะเลาะกันได้เลยครับ ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะเถียงหรือทะเลาะกับเราเป็นภาษาไทยได้"
มีคนบอกว่าคุณทั้งสองคน ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ ใครติดใคร
"เขาติดเราด้วยความรัก อยากอยู่กับคนรักตลอดเวลา แต่สำหรับตัวผม จะติดเขาด้วยความห่วง เพราะว่า เขาเป็นคนต่างชาติมาอยู่เมืองไทย แล้วเขาเป็นผู้หญิงด้วย กลัวจะมีอุปสรรคเวลาใช้ชีวิตต่างๆ เราจะพยายามเตรียมความพร้อมทุกอย่างให้กับเขา คอยช่วยเหลืออยู่ตลอดครับ"
การที่คนสองคนพูดคนละภาษา ใช้ชีวิตกันยากไหม หรือมีการสอนภาษาไทยกับเขาอย่างไร
"ถ้าย้อนกลับไปเริ่มต้นเลย ภาษาไทยสำหรับเขาคือไม่ได้เลย ภาษาอังกฤษก็งูๆปลาๆ ก็เริ่มจากการพิมพ์คุยก่อน ใช้ดิกชันนารี รวมถึงสื่อสารกันโดยใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งจริงๆแล้วเราก็ไม่ได้เป็นคนเก่งภาษาอังกฤษอะไรมาก เพราะถ้าเราเก่ง อาจจะคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่พอเราไม่เก่ง เราก็พอจะรู้ว่าอันไหนมันง่าย ควรจะเรียนรู้ก่อนหลัง ก็เลยพอจะสอน พอจะเรียนรู้ไปด้วยกันได้ แล้วพอเริ่มพูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษรู้เรื่อง ผมก็เริ่มมาสอนภาษาไทย เพราะเราเจอกันตอนที่อายุก็ไม่น้อยกันแล้ว ก็เริ่มมองอนาคต เริ่มคิดถึงเรื่องความสัมพันธ์ที่จะต้องจริงจังถึงแต่งงาน เขาก็เลยไปเรียนภาษาไทย แต่เขาเรียนเองนะ เรียนจากการดูละคร และก็ดูในยูทูบ"
"เคยดูบ้างครับ เคยดูบางฉาก เพราะเขาไม่ควรดูทั้งหมดผมว่าดีกว่าครับ (หัวเราะ) เลิฟซีนเดี๋ยวมีปัญหา"
เรียกว่าเป็นสามีสายเปย์ ภรรยาอยากได้ อยากกินอะไรจัดให้หมด จริงไหม
"จริงๆ จะเปย์เฉพาะช่วงเทศกาลครับ และเปย์ในส่วนที่เราไหว สมมติเขาอยากได้ของแบรนด์แพงๆ เราก็จะหาแบรนด์ที่มันซอล์ฟลงมาหน่อย อย่างน้อยก็ได้ความดีใจ อาจจะไม่พีคมากแต่เขาก็ดีใจ แต่ถ้าเรื่องกินผมเต็มที่นะ เพราะว่าเรื่องกินเป็นเรื่องที่เขาชอบมากอยู่แล้วด้วย แล้วเราก็ชอบ ก็เลยชวนกันไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน อีกอย่างที่ไปกินบ่อยเพราะแฟนๆชอบดูเขากิน แล้วยิ่งเวลาเขากินอาหารเกาหลี คนดูก็จะได้เห็นคนเกาหลีที่เป็นคนแนะการกินแบบเกาหลีแท้ๆ แฟนๆทางช่องเขาจะชอบแบบนี้กัน ผมก็เลยพยายามถ่ายมาให้ดู"
การที่มีภรรยาเป็นชาวต่างชาติ เป็นเรื่องที่ยากไหม
"การมีแฟนเป็นคนไทยด้วยกันเองก็ว่ายากแล้ว แต่พอมีต่างชาติก็ยิ่งยากเข้าไปอีก เพราะการใช้ชีวิตของเขาและของเรามันไม่เหมือนกัน เราก็ต้องมาปรับกัน มันอาจจะมีปัญหาบ้าง แต่สุดท้ายแล้วมันก็จะผ่านไป เราก็พยายามทำให้เขาเข้าใจในทุกๆเรื่อง ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเข้าใจกันไม่หมดนะครับ แต่เราก็ต้องพยายามปรับกันไป เรียกได้ว่าทุกวันนี้เราอยู่กันด้วยความรักส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็คือความรับผิดชอบ หน้าที่ ยิ่งตอนนี้เรามีลูกแล้วด้วย ครอบครัว เรื่องนี้สำคัญสำหรับผมมากครับ"
"คือทุกวันนี้เวลาไปถ่ายงาน ส่วนใหญ่จะเป็นงานของภรรยาเขาครับ ไม่ใช่งานผมแล้วนะ คือเขาไปถ่ายแบบ แล้วเขาก็อยากให้ผมไปเป็นตัวประกอบ ก็เลยไปถ่ายเป็นชุดแต่งงานกัน แล้วก็คิดว่าน่าจะเอาลูกไปแต่งหล่อด้วย เพราะปกติแล้วภรรยาไม่ให้ลูกออกไปงานไหนเลย งานแต่งเพื่อนผมหรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีคนเยอะๆ ไม่ให้ลูกไปเลย ก็เลยคิดว่าพอมีโอกาส เราก็อยากให้ลูกได้ใส่ชุดสูทหล่อๆ เลยไปซื้อชุดมาแล้วก็พามาถ่ายแบบด้วยกัน แต่ไม่ได้ไปเกี่ยวกันเรื่องของตัวงาน เราแค่ขอตากล้องว่า ขอพิเศษ เพิ่มให้ครอบครัวผมหน่อยแค่นั้นครับ"
ตอนนี้ลูกชายหรือน้องโรฮา อายุเท่าไหร่
"1 ขวบ 8 เดือนแล้วครับ"
น้องพูดภาษาอะไร
"เรียกว่าตอนนี้น่าจะสับสนภาษาอยู่ครับ ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ 2 เดือน จนถึงตอนนี้ พูดได้เท่าเดิม"
คำพูดแรกที่เขาพูด คือคำว่าอะไร
"อัปป้า ที่แปลว่า พ่อ ครับ ส่วนออมม่า ที่แปลว่า แม่ ให้พูดยังไงก็ไม่ยอมพูด ไม่รู้ทำไมเหมือนกันครับ แต่เวลาเขาจะเรียกแม่ เขาจะพูดประมาณว่า มะมะมะ คือพยายามเรียกเมื่อตัวเองต้องการอะไรสักอย่าง เหมือนกำลังเดือดร้อน แต่จะไม่พูดคำว่า ออมม่า ต่อให้เอาของที่ชอบมากๆ ไปล่อ ก็ไม่พูด"
ล่าสุดมีคลิปที่ให้ลูกอยู่ตรงกลางแล้วพ่อแม่อยู่คนละฝั่ง คลิปนั้นเกิดอะไรขึ้น
"เขาวิ่งหนีครับ เราเห็นคนอื่นเขาทำกัน เราก็เลยอยากรู้ว่าลูกจะเลือกไปหาใคร แล้วเราก็มั่นใจมากว่าเลือกเราแน่ สรุปวิ่งหนีไปเลยครับ ไม่เลือกใคร เลือกทางของตัวเอง ทุกวันนี้ใครมาเยี่ยมบ้าน พ่อแม่ผมมา จะไปกับพ่อแม่ผมนะ ไม่เคยกลัวใคร ไปด้วยได้ทุกคน เป็นมิตรสุดๆ เหมือนเขาเบื่อผมกับภรรยา"
"ณ ตอนนั้นมันรู้สึกเป็นห่วงภรรยามากกว่าครับ ว่าเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง ในห้องผ่าตัดนั้น เราภาวนาว่าอย่าให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีตลอด เราคิดห่วงเรื่องนั้นมากกว่า ขอให้ภรรยาปลอดภัย ตอนนั้นคิดแค่นั้นเองครับ ไม่ได้คิดว่า ลูกพ่อมาแล้ว อะไรแบบนั้น แต่ที่ตลกมากตอนเห็นลูกครั้งแรกคือ พยาบาลอุ้มมาผิดคนหรือเปล่า ทำไมมาตัวดำขนาดนี้ มันดำๆแดงๆ ตอนนี้เราไปรอหน้าห้องกระจก ให้ห้องนั้นเด็กๆทุกคนขาวหมดเลย เราก็คิดว่าคนไหนนะ สุดท้ายพยาบาลอุ้มมา เราก็เห็นว่าเขาตัวดำมาก แล้วหน้าเหี่ยวๆ เดินออกไปแล้วไปนั่งคิดว่าใช่เหรอ ไม่เหมือนใคร ไม่เหมือนเราเลย ไม่เหมือนมะม่วงด้วย เสร็จแล้วเดินกลับไปใหม่ก็เห็นว่าสีผิวหน้าตาเริ่มดีขึ้นแล้ว แล้วตอนนี้กลายเป็นว่า หน้าขาวมาก ขาวกว่าพ่อแม่ไปเลย"
ความยากของการเป็นพ่อ มีอะไรบ้าง
"ชีวิตโสดกับชีวิตการมีครอบครัว คือหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย ความรับผิดชอบทุกอย่างมันเข้ามาที่เราหมด และเราคิดว่า เราจะเอาตัวรอดไปได้อย่างไร ในสถานการณ์ที่เราจะต้องเป็นผู้นำครอบครัว"
เลี้ยงลูกเหนื่อยไหม
"ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหนื่อยมากครับ ยิ่งเวลาที่ลูกป่วย เขาจะดิ้นแล้วเขาแรงเยอะมาก เราก็ต้องดูแล พยายามทำให้เต็มที่"
แพลนจะมีน้องคนที่ 2 แล้ว จริงหรือไม่
"ไม่ได้แพลนขนาดนั้น แต่ว่าจะปล่อยไปตามธรรมชาติ ถ้ามีโอกาสที่เขาจะมาก็มา ไม่มาก็ไม่เป็นไร คิดว่าถ้ามีคนที่ 2 ก็คงจะสนุกดีนะ ครอบครัวเราคงจะสนุกกันมากขึ้น ส่วนตัวผมอยากมี แต่อีกใจก็กลัวการมีเหมือนกัน สองจิตสองใจก็เลยปล่อยไปตามโชคชะตาแล้วกันครับ"
https://www.facebook.com/teeneedotcom