หยาดทิพย์เล่ามรสุมติดโควิด2รอบ หนักสุดตอนมีลูกสาวอยู่ในท้อง

คุณแม่ป้ายแดงสุดแซ่บ หยาดทิพย์ ราชปาล ที่วันนี้จะมาเปิดใจถึงวินาทีติดโควิดขณะตั้งครรภ์เพียง 4 เดือน ยังไม่หมดเธอติดโควิดรอบที่ 2 หวั่นลูกสาว น้องเมย่า ลูกสาววัย 5 เดือนติดด้วย เห่อหนักติดกล้องวงจรปิดรอบบ้าน 400 ตัว ผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง วัน31 ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ตอนนี้เริ่มชินกับการเป็นคุณแม่หรือยัง?

หยาดทิพย์ : ทุกวันมีเรื่องให้สนุก ตื่นเต้น ถามว่าลูกเลี้ยงยากไหม ยากค่ะ แต่ว่าโชคดีเราไม่ได้เลี้ยงกันสองคน เราก็ดูจากพี่เลี้ยงด้วย ฟังจากคุณย่า คุณยาย แล้วก็เพื่อนรอบตัว โชคดีมีลูกพร้อมๆ กัน

ตอนนี้มีความสุขมากๆ เลยไหม?

หยาดทิพย์ : "มีความสุขมาก แต่ก็เราก็พยายามศึกษาว่าเราจะเลี้ยงเขายังไงดี เพราะว่าแบบยุคโควิดมันยากนะ"

หยาดทิพย์ : "รอบแรกหนักมาก เป็นสายพันธุ์อัลฟ่า ตอนนั้นท้องได้ 4 เดือน ตอนนั้นเครียดมาก คนที่ติดพร้อมหยาดมีน้าค่อม เข้าโรงพยาบาลใกล้ๆ กัน ห่างกันไม่ถึง 2 วัน ตอนนั้นมีนักแสดงที่ติดเยอะ และมีบางคนที่เสียชีวิต ของหยาดตอนนั้นอีก 10 วันจะถึงงานแต่งงาน งานแต่งงานก็ไม่ได้จัด ตอนนั้นเราท้อง เรารู้สึกว่าร่างกายมันวีคมาก 1.เราแพ้ท้องหนัก หยาดมีโรคประจำตัวของหยาด เกี่ยวกับโรคเลือด พอหยาดเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาล 14-15 วัน ต้องอยู่คนเดียว หยาดเป็นหนัก ลงปอด อยู่ ICU 5 คืน แล้วเราท้องกินยาฟาวิก็ไม่ได้ เครียดอีก น้องจะเป็นยังไง ยามันจะส่งผลไหม มันไม่มีวิจัยอะไรเลย"

โรคประจำตัวของคุณหยาดตอนไม่เป็นโควิดไปให้คุณหมอฉีดให้ แต่นี่ต้องฉีดเอง?

หยาดทิพย์ : "ฉีดเอง หยาดเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตัน หยาดเลยต้องฉีดยาละลายลิ่มเลือด คือตอนเป็นหนักๆ ต้องฉีดยา แต่ถ้าเป็นไม่หนักก็กินยาเม็ด แต่พอท้องยาเม็ดกินไม่ได้ แต่โควิดมันไปกระตุ้นโรคนี้"

ตอนอยู่คนเดียวต้องทำอะไร?

หยาดทิพย์ : "หยาดต้องฉีดยา 1 เข็มปักเข้าไปที่หน้าท้อง แล้วความพีคคือยาตัวนี้มันแสบมาก คือแรกๆ คุณหมอเขาเข้ามา แต่ด้วยความปลอดภัยเรื่องโควิดอะไรด้วย เขาก็ถามว่าทำเองได้ไหม เราก็เลยทำเอง หยาดก็ฉีดตั้งแต่วันที่รู้ว่าเป็นโควิด จนวันที่คลอด 160 เข็ม จิ้มทุกเย็น คือเวลาฉีดมันจะเป็นจุดเขียวช้ำ จนไม่มีที่จะฉีด ต้องมาฉีดที่ขา หยาดคุยกับหมอตลอดว่ามีวิธีอื่นไหม เพราะมันไม่ไหวแล้ว มันเจ็บ ระบม เขาบอกว่าให้คิดถึงหน้าลูกไว้ก็ฉีดต่อ"

ความเจ็บมันขนาดไหน?

หยาดทิพย์ : "มันเจ็บมาก ตอนเข็มปักไม่เท่าไหร่ เพราะเราเริ่มด้านไปแล้ว ตอนเดินยาและยามันแสบ บางทีก็ให้แฟนฉีดบ้าง เขาก็ไม่รู้จังหวะการเดินยา บางทีเขาเดินเร็วกลัวว่าเราจะเจ็บนาน บางทีเขาก็ค่อยๆ เราก็แบบเอามาปักเอง"

หยาดทิพย์ : "เป็นค่ะ ตอนนี้ยังเป็นโรคนั้น แต่ไม่ต้องไปฉีดยา แต่ก็ต้องเข้าไปเช็กบ่อยๆ แต่ถ้ามีน้องคนที่2 หรืออะไร ต้องฉีดอีกนะ หรือถ้าติดโควิดอีกโรคนี้ก็กำเริบอีก"

ตอนนั้นความรู้สึกมันขนาดไหน?

หยาดทิพย์ : "เครียด เวลาคนป่วยหนักๆ หยาดรู้เลยแค่จะพูดยังไม่มีเสียงเลย หยาดไอตลอดเวลา มันไม่มีแรงคุยกับใคร มึนยา"

ตอนที่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ต้องฉีดยาทุกวัน สามีให้กำลังใจยังไง?

หยาดทิพย์ : "เขาให้กำลังใจเยอะเลย มันเป็นโรคประจำตัวเรา มันแก้ไขอะไรไม่ได้"

ข่าวคนเสียชีวิต แล้วเราอยู่โรงพยาบาล จิตเราดิ่งขนาดไหน?

หยาดทิพย์ : "ดิ่งมาก ตัวเราไม่เท่าไหร่ แต่เราห่วงลูกในท้อง เพราะว่ามันไม่มีวิจัยใดๆ แม้แต่ตุณหมอเขาไม่สามารถให้การรับประกันอะไรได้ว่าโตมาจะเป็นยังไง เพราะโรคนี้มันเพิ่งเกิด เราก็ยิ่งเครียด แต่ตอนนี้หายเครียดแล้ว เพราะเมย่าเกิดมาสมบูรณ์มาก"

เห็นว่าคลอดก่อนกำหนด?

หยาดทิพย์ : "คลอดก่อนกำหนดประมาณ 10 วัน ถึง 2 อาทิตย์ หยาดก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะโควิดหรือเปล่า เพราะที่เหลือเราก็ดูแลอย่างดี แต่ว่าเกิดมาอยู่ตู้อบอาทิตย์นึง ออกมาก็ปกติ"

หยาดทิพย์ : "เป็นคนกลัวเข็ม กลัวนู้น กลัวนี่ แล้วก็แบบใจเต้นเร็วมาก จนเขาผ่าไม่ได้ มือเย็น มือแข็ง ยกมือไม่ได้กลัว คุณหมอก็ชวนคุย ให้สามีมานั่งด้วย พอคลอดเสร็จหยาดสลบไป 2 ชั่วโมง แล้วเขาก็พาไปดูลูก คือหน้าเหมือนพ่อเลย แต่ตอนนี้หน้าเขายังเปลี่ยนมาทางหยาดบ้าง"

เห็นว่าเคยผ่านช่วงวิฤตเหมือนกันมาม่าบลู?

หยาดทิพย์ : "มันเป็นช่วงฮอร์โมนเราเปลี่ยน ฮอร์โมนหลังคลอด อยู่ดีๆ มันก็มีอาการแบบว่าเบื่อหน่ายโลก หรือว่าหงุดหงิด กินอะไรก็ไม่อร่อย แบบนั่งอยู่โอ้ยชีวิตทำไมมันหดหู่จัง เปิดทีวีก็มีแต่ข่าวโควิด ตอนนั้นโควิดหนักมาก ออกไปไหนก็ไม่ได้ แล้วก็ไม่เจอใครเลย บางทีก็เศร้า ฝนตกก็ร้องไห้"

บางคนพอเป็นไม่ชอบหน้าสามีเลย หยาดเป็นไหม?

หยาดทิพย์ : "ของหยาดไม่ได้แบบเหม็นหน้าหรือเบื่อหน้า แต่เป็นอารมณ์แบบเขาถามอะไรแล้วเรานิ่ง การตอบสนองมันช้า เหมือนบางทีเรารู้สึกอยากอยู่คนเดียว ร่างกายมันช้าๆ 1.ไม่ได้นอน เลี้ยงลูก ปั๊มนม 2.โควิดออกไปไหนไม่ได้ หลังจากหายโควิดมา ปิดประตูบ้านล็อก ไม่เจอใครเลย จนคลอดมาอีก 1 เดือน"

ช่วงแย่ๆ ในมาม่าบลูมันก็มีเรื่องดีอยู่ในนั้นด้วย คือสามารถทานได้แบบไม่หยุดเลย?

หยาดทิพย์ : "มันไม่รู้จะทำอะไร มันก็กินเยอะมาก หยาดสั่งเค้กเป็นปอนด์กินคนเดียว สามีก็งงทำไมกินขนาดนี้"

แล้วน้ำหนักละ?

หยาดทิพย์ : "น้ำหนักก็ไม่ขึ้น แต่เราจะกินอย่างนั้นทุกวันไม่ได้ คนที่ให้นมลูกต้องทานอาหารที่มีประโยชน์"

หยาดทิพย์ : "ไม่ปรึกษาเลย เพราะว่าหยาดรู้ว่ามันเป็นอาการมาม่าบลู เพราะว่าชีวิตหยาดไม่เครียดเลย เป็นคนชิลๆ พออารมณ์มันผิดปกติหยาดก็เลยรู้ว่ามันเป็นเพราะสาเหตุนี้"

ณ ตอนที่หายได้ไปอธิบายให้สามีฟังบ้างไหมว่าฉันกลับมาแล้ว?

หยาดทิพย์ : "ก็พยายามบอกเขา บางทีมันก็เป็นเรื่องตลก เขาก็ถามว่าหายยังเนี่ยทำไมอารมณ์แปรปรวนอยู่ หยาดก็บอกว่าหายแล้ว ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ต้องคลอดลูกหรอก เป็นทุกเดือน ตอนเราเป็นหนักๆ เขาก็ให้กำลังใจ อย่าไปคิดมากเดี๋ยววันนึงโควิดมันก็หายไป เขาก็พยายามดูแลจิตใจเรา"

การเป็นโควิดรอบสองกับรอบแรก แตกต่างกันบังไง?

หยาดทิพย์ : "รอบ 2 ไม่ค่อยมีอาการอะไร แค่ไอ เจ็บคอ เหนื่อยง่าย ระดับขั้นมันไม่ได้รุนแรง ไม่เหมือนรอบแรกคือมันรุนแรงมาก แต่รอบ 2 ห่วงกลัวคนในบ้านจะเป็น"

เห็นบอกร้องไห้หนักมาก?

หยาดทิพย์ : "กว่าเราจะกลับบ้าน 14 วัน หยาดไม่ได้เจอลูก 14 วัน มันห่วงมากเลยนะ ก่อนหน้านี้หยาดถ่ายละครติดกัน 3-4 วัน แต่ก็เจอตอน 7 โมงเช้า แต่กลับมา 4 ทุ่มไม่ได้เขอแล้ว กลับมาเขาลืมหน้าหยาดนะ ไม่ให้อุ้มด้วย หยาดก็เลยรู้สึกว่าตายล่ะ ถ้าฉันหายไป 14 วัน ฟิลลิ่งคือแบบหมดแรง แต่ว่าโชคดีตอนที่กลับไปเขาโตขึ้นแล้ว เขาจำเราได้แล้ว"

เราติดรอบสองคุณหมอเตือนไหม?

หยาดทิพย์ : "ใช่ เพราะเหมือนร่างกายเราโดนไปแล้ว เราโดนซ้ำ หยาดจะบอกเลยนะ หยาดหายมานี่ หยาดมีอาการเยอะนะ ทุกวันนี้หยาดมีอาการ หยาดก็ไม่รู้ว่ามันเรียกลองโควิดหรืออะไร แต่ทุกวันนี้หยาดเป็นคนที่เหนื่อยง่าย มีผื่นขึ้นตามตัว ผิวก่อนที่จะเป็นโควิดกับหลังที่เป็นรอบ 2 ผิวคนละแบบ คุณหมอก็บอกว่ามันน่าจะเกี่ยวกับเราติดโควิดมาแล้ว 2 รอบ ร่างกายข้างในมันมีปฏิกิริยากับยากับอะไรหลายๆ อย่าง"

หยาดทิพย์ : "เราก็รู้สึกผิดด้วย คือเราระวังตัวอย่างดีมากเลย เราแทบจะไม่ออกไปไหน ตอนไปกินข้าวทุกคนก็ตรวจ ATK แต่เราก็ยังติด แล้วก็รู้สึกเฟล เราก็ไปกักตัว 14 วัน กลับมาเมย่ายืนได้ คือมันยังไม่ถึงวัยยืนอะ คือเมย่ายังนั่งไม่ได้ ยังคลานไม่ได้ เราก็ตกใจ เขายืนแต่ยังเกาะอยู่นะ แต่ว่าเกาะโดยที่ไม่ต้องมีคนช่วย เราก็ตื่นเต้นมาก"

เห็นว่าติดกล้องวงจรปิด 4 ร้อยกว่าตัวที่คอนโด 3 ชั้น?

หยาดทิพย์ : "ประมาณ 300 ไม่ๆ หยาดติดทุกมุมเลย เวลาหยาดออกไปทำงาน หยาดตั้งโทรศัพท์เปิดไว้เลย จริงๆ โดยหลักเราคิดถึง พอเราเห็นเราก็หายคิดถึง คือเราไม่ได้จ้องอะไรขนาดนั้น แต่เราคิดถึง เหมือนได้อยู่ด้วยกัน"

น้องเมย่าเป็นหลานคนแรกของตระกูล พอคลอดปุ๊บ เงินถุง เงินถัง มาเป็นคันรถเลยจริงไหม?

หยาดทิพย์ : "ไม่ถึงขนาดนั้น เมย่าเขาเป็นหลานคนแรกของทั้งสองบ้าน เขาก็ให้เป็นของ ให้เมย่าเก็บเอาไว้จนตอนโต เป็นทุน เป็นนู่น เป็นนี่ ก็ขอบคุณมากเลยค่ะ"

ตอนนี้มีแนวโน้มปิดอู่ถาวรเลยมั้ย ?

หยาดทิพย์ : "ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น ตอนนี้ก็เพิ่งกลับมารับงาน ยังอยากทำงานก่อน อยากทุ่มให้เมย่าโตกว่านี้ก่อน โชคดีที่สามีหยาดเข้าใจ จะอยู่บ้านหรือไปทำงานก็แล้วแต่คุณให้อิสระ หยาดตั้งใจจะทำให้ดีทั้ง 2 อย่าง เรามีเวลา 7 วัน เราแบ่งเวลาได้ หยาดยังอยากทำงานอยู่ก็เลยทำให้มันดีไปทั้งคู่"

ถ้าเมย่าโตขึ้นรู้เรื่องและเข้าใจทุกอย่างแล้วได้ดูเทปนี้อยากจะบอกอะไรคุณลูกหรืออยากจะบอกอะไรคุณสามี ?

หยาดทิพย์ : "อยากบอกพี่เมฆ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเลี้ยงลูก ดูแลลูกได้เป็นอย่างดี ดูแลเติมเต็มครอบครัวได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง และอยากจะบอกเมย่าว่าแม่จะตั้งใจเลี้ยงเมย่าให้อย่างดีที่สุด อยากให้เมย่าโตมาอย่างสมบูรณ์เป็นเด็กดี เป็นคนดีของสังคมและอย่าดื้อกับแม่มากนะ"

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่