พระเอกดังเปิดตัวลูกสาวครั้งแรก ที่หลายคนเข้าใจเป็นน้องสาว

หลังจากที่ปล่อยให้บรรดาขาเม้าท์ข้องใจกันอยู่นาน ว่าเด็กสวยหน้าตาน่ารักที่มักจะปรากฎตัวข้างๆ อดีตพระเอกหนุ่ม แอม-สุธีร์ เสียงหวาน อยู่บ่อยๆ คือใคร และมีสถานะเป็นอะไรกันแน่? ล่าสุดในรายการ Z Story Z Holiday ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 ทางด้าน แอม สุธีร์ ก็ได้ถือโอกาสดีชวน น้องมาริน ซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆ มานั่งพูดคุยเปิดใจเป็นครั้งแรก! กับสองพิธีกร ดีเจอ๋อง เขมรัชต์ และ ลิตา อินท์ชลิตา พร้อมเผยเรื่องราวความสัมพันธ์น่ารักๆ ระหว่างพ่อลูก รวมถึงเคลียร์ข้อสงสัยของใครหลายๆ คน ถึงเรื่องที่ตัวเองใช้สถานะ "คุณพ่อ" ให้เราได้ฟังกันอีกด้วย

หลายคนตกใจเปิดตัวลูกสาวอายุ 15 ปี เพราะไม่มีใครเคยได้ยินข่าวเลย ?

แอม : ชื่อน้องมาริน จริงๆ เราไม่ได้ปิด คือละครเราไม่ค่อยได้เล่นจะทำแต่รายการทีวีมากกว่า แต่คนใกล้ตัวเรารู้นะว่าเรามีลูก เราจะลงรูปไว้แต่ในเฟซบุ๊ก ซึ่งเพื่อนๆ ก็จะรู้กัน ส่วนอินสตาแกรมก็มีบ้าง แต่บอกไว้ก่อนเวลาเราไปรับลูกที่โรงเรียน ผู้ปกครองเด็กก็เยอะแยะเขาก็รู้จักเรา เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเราไม่ได้ปิด แต่คนข้างนอกส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นน้องสาว เรามารับน้อง เพราะว่าเราไม่มีข่าวว่าแต่งงาน คือเราไม่ได้แต่งงาน พอมีลูกปุ๊บ หลายคนก็คิดว่านี่คือน้องสาวเรา

หลายคนจับตามองว่าเราเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ?

แอม : ผมขอเคลียร์ตรงนี้ก่อนว่า การเลี้ยงเดี่ยวไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ คือทางผมกับคุณยายของน้องช่วยกันเลี้ยง เพียงแค่ว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่แบ่งแยกหน้าที่กันเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ เขาก็อยู่กับคุณยาย ผมก็เลี้ยงด้วยการไปรับไปส่งโรงเรียน เพราะฉะนั้นหลายคนอาจจะมองว่าเห็นผมคนเดียว เพราะคุณยายอยู่บ้านก็ไม่ได้ออกไปไหน แต่จริงๆ แล้วคุณยายก็ช่วยกันเลี้ยงแบ่งหน้าที่กัน

ต้องเลี้ยงลูกสาวยากไหม ?

แอม : คือเรามองว่าลูกเราโตมา เรายังวัยรุ่น เราก็เลี้ยงแบบเป็นเพื่อนเรา แต่ว่าหน้าที่พ่อก็ต้องดูแลเขา อะไรที่เป็นผู้หญิง เราก็เรียนรู้มาจากลูกนี่แหละ ต้องฟังเขาเยอะๆ ชีวิตลูก อย่างพอน้องเริ่มต้องใส่ยกทรง ผมไม่รู้ ก็ได้เพื่อนเราที่เป็นผู้หญิงรุ่นน้อง เขาก็จะสนิทกับมารินเขาก็จะคอยบอก พี่ก็ต้องอาศัยเพื่อนๆ เขาก็จะบอกมา

เป็นรายการแรกที่ได้มาเจอหน้าลูกสาวพี่แอม น้องพูดได้ถึงสามภาษา ?

มาริน : อังกฤษ จีน ไทย ตอนนี้อายุ 14 ปี มีความถนัดเต้นกับร้องเพลง

พระเอกดังเปิดตัวลูกสาวครั้งแรก ที่หลายคนเข้าใจเป็นน้องสาว

เปิดตัวแล้วชีวิตเปลี่ยนไหมพี่ ?
แอม : ตอนแรกน้องตกใจ อยู่ดีๆ ก็มีคนติดตามในอินสตาแกรมเพิ่มมากขึ้น น้องก็ไม่รู้ว่าใครเพราะเป็นคนแปลกหน้าหมดเลย จากนั้นเขาก็โทรมาหาผม และก็ร้องไห้ บอกว่าพ่อ ทำไมเป็นแบบนี้ คือพอเป็นข่าวเขาก็ตกใจ เขาก็ถามเราว่ามันดีไหมพ่อ ผมก็ต้องอธิบายให้ลูกฟัง มันเป็นข่าวที่ดีนะ เขาชื่นชมหนูนะ เขาก็เลยค่อยๆ เข้าใจคุณยายก็เลยช่วยบอกเขาด้วย จนน้องเขาโอเคเข้าใจ

พ่อแอมเป็นพ่อที่ดุไหม ?

มาริน : ไม่เคยดุค่ะ เข้มงวดบ้างแต่ก็ไม่ใช่แบบว่าห้ามทำโน่นห้ามทำนี่ ถ้าหนูชอบอะไร พ่อเขาก็จะสนับสนุน

แอม : คือเราถูกคุณพ่อเลี้ยงมาแบบนี้ เราก็รู้สึกว่าพ่อเรายังปล่อยให้เราทำในสิ่งที่เราชอบ เขาก็จะไม่บังคับเรา เราก็รู้สึกว่าเนี่ยเออมันเป็นสิ่งที่ดี พอเรามีลูก เราก็อยากให้ลูกรู้สึกแบบเรา

แต่ก็ยังมีเรื่องรสนิยมไม่ตรงกัน ?
มาริน : คือจริงๆ พ่อเขาก็ฟังได้หลายเพลง คือพ่อเขามีเพลงที่เปิดในรถแล้วหนูไม่ชอบฟัง หนูก็จะบอกพ่อว่า หนูขอเปิดเพลงที่หนูชอบ หนูชอบสไตล์ป๊อบมิวสิค

การเลี้ยงลูกสไตล์ให้เกียรติกัน ?
แอม : ก็ต้องให้เกียรติเขา ตอนที่เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือเขาก็จะเล่นโทรศัพท์เรา อินสตาแกรมก็จะมีทั้งของพ่อของลูกอยู่ในเครื่องเดียวกัน แต่เวลาที่เขาเล่นอินสตาแกรม ก็คือตอนอยู่ด้วยกันเท่านั้น เพราะฉะนั้นอินบ็อกข้อความทุกอย่างก็จะเด้งมาหาพ่ออยู่แล้ว แต่พ่อก็จะไม่เคยอ่านของเขา เพราะพ่อรู้สึกว่าเรายังไม่อยากจะให้ใครมาอ่านของเรา ของลูกก็เหมือนกันเราก็เลยให้เกียรติเขา เราไปก้าวก่ายเขาจะทำให้เขารู้สึกอึดอัด ก็เลยปล่อยไปดีกว่า

มีความสามารถพิเศษด้วยน้องมาริน ?

มาริน : เต้น ร้องเพลง เปียโน สเก็ตค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปเกาหลี ชื่นชอบพี่ลิซ่าค่ะ

ลูกสาวโตเป็นวัยรุ่นแล้วหวงลูกไหม ?
แอม : ใช้คำว่าเป็นห่วงดีกว่า เพราะด้วยความที่เราโตมาเพราะคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเรามา แอบเป็นห่วงเราก็ต้องดูเขา คอยดูสังเกตทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ การพักผ่อน การเรียนหรือรวมถึงเรื่องเพื่อนๆ คอยเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้เขาดีกว่า

ถาม มาริน บ้าง หวงคุณพ่อไหม คุณพ่อมีสาวได้ไหม?
มาริน : ไม่รู้เหมือนกัน (ยิ้ม)

จริงๆ เขามีหวงบ้างไหม?

แอม : ก็ไม่ค่อย แต่ก็มีเพื่อนเราที่เป็นผู้หญิงเขาก็จะบอกว่าคนนี้หนูไม่ค่อยถูกชะตาเลย ก็จะมีบ้าง

มารินอยากเข้าวงการบันเทิงไหม ?
มาริน : อยากทำค่ะ

แอม : คือเขาจะมีความฝันที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ งานในวงการคุณพ่อมองว่าถ้ามีโอกาสเข้ามาก็ทำ ก็ถือว่ามีประสบการณ์ แต่สุดท้ายก็ต้องอยู่ที่เขาว่าเขาจะโอเคหรือเปล่า