เปิดเหตุผลโจนัสขออยู่ไทยตลอดไป แม้ครอบครัวกลับสวีเดนหมดแล้ว
อยู่ดีๆ ผมก็เป็นที่รู้จัก ผมงงกับตัวเองมากตอนนั้นติด Top 5 ของลูกทุ่ง ถือเป็นความภาคภูมิใจของผมมาก ได้ยืนบนเวทีที่สูงส่งของคนไทย งานเยอะที่พีคที่สุด จำได้ว่าในเดือนนั้นผมได้นอนบนเตียงของผมแค่ 2 คืน ที่เหลือก็คือตระเวนนอนตามที่ต่างๆ บนรถตู้บ้าง อะไรบ้าง
ผมเป็นคนสวีเดนมาตั้งแต่กำเนิด และครอบครัวของผมมีเพื่อนที่เป็นชาวนอร์เวย์เขาย้ายมาอยู่เมืองไทย ก็เลยชวนกันมาดูงานที่นี่ ตอนนั้นโจนัสในวัย 8-9 ขวบ ยังไม่เคยได้ยินแม้แต่คำว่าไทยแลนด์ แต่เนื่องจากพ่อแม่ย้ายมา ผมก็เลยตามมาด้วย จนตอนนี้ผมอยู่เมืองไทยมา 40 ปีแล้ว
ผมเป็นคนที่รักการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กเลย มันเป็นธรรมชาติของผม จนมีการรวมกลุ่มกัน ผมเข้าคอร์สเรียนศิลปะการแสดงกับเพื่อนๆ ซึ่งในนั้นจะมีฝรั่งเยอะ แต่คนไทยก็มีด้วย 1 ในนั้นก็คือ คริสตี้ กิ๊บสัน ในกลุ่มนี้จะมีการฝึกการแสดง ในรูปแบบต่างๆ แล้วในที่สุดก็ฟอร์มกลุ่มกันขึ้นมา เพื่อใช้เพลงในกิจกรรมการกุศล แต่ก็ไม่ได้คิดหรือวางแผนว่าจะต้องมาเป็นศิลปินอาชีพ ที่จะต้องมีแผ่นเสียงหรือเทป แต่ในที่สุดสถานการณ์มันพาไป เริ่มจากการร้องเพลงไทยทั่วๆ ไป ตอนนั้นคาราโอเกะยังเป็นวีดีโอม้วนใหญ่ๆ ก็เอามาฝึกทีละคำ แต่พอขึ้นเวทีก็คือวิกแตกเลย เพราะคงจะเกินความคาดหมายของหลายๆ คน ว่าจะมีฝรั่งแบบนี้มาร้องเพลงลูกทุ่ง ทุกคนตื่นเต้นมากๆ เลย แล้วก็ปรบมือ มีการคล้องมาลัย ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิต มันทำให้เราฉุกคิดว่า เราเป็นฝรั่ง เราร้องเพลงไทย แล้วทำไมเราจะไม่ร้องไทยแท้แบบนี้ต่อไป ก็เลยฝึกฝนมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มีค่ายเพลงเห็น แล้วก็ชวนเข้าไปทำอัลบั้มด้วย นี่คือจุดเริ่มต้นของผม
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน วงการลูกทุ่งเปลี่ยนไปเยอะไหม
เปลี่ยนไปเยอะนะครับ แต่ผมคิดว่าวงการดนตรีโดยรวมก็มีการเปลี่ยนเหมือนกัน จากสื่อที่เปลี่ยนไป ลูกทุ่งสำหรับผม จริงๆมันคือแนวป๊อป เพราะว่าป๊อปมาจากคำว่าป๊อปปูล่า เป็นยอดฮิตของคนไทยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงมันเป็นเรื่องธรรมชาติ มันจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย จากพัฒนาการของดนตรี เสน่ห์อันหนึ่งของลูกทุ่งคือเป็นอะไรที่บ่งบอกถึงชีวิต ณ ยุคนั้น ช่วงเวลานั้นๆ อย่างสมัยก่อนเป็นเรื่องของจดหมาย รักใครชอบใครก็ต้องส่งจดหมาย พอมีการพัฒนาไปถึงเรื่องของโทรศัพท์มือถือ ก็จะเป็นการส่งข้อความ SMS ทุกวันนี้ก็กลายเป็นไลน์ มันจะเป็นอะไรที่คนทั่วไปสัมผัสได้ในทุกๆ วัน ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่คงอยู่
โจนัสพยายามอยู่ให้เป็น อยู่ให้รอด ไม่ทิ้งแน่นอนครับ ยังร้องอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบ เปลี่ยนช่องทาง อย่างตอนนี้ก็คือ TikTok ซึ่งผมรอดไปได้เรื่อยๆ และได้สัมผัสถึงกลุ่มที่หลากหลายในนั้น
เขามีของเขาอยู่ คือจริงๆ แล้ว ครอบครัวของเราสองคนคล้ายๆ กัน ก็คือย้ายเข้ามาอยู่ที่เมืองไทย แล้วบังเอิญมาอยู่ที่โคราชเหมือนกันอีก แถมยังมีความชอบที่เหมือนกัน ก็คือการร้องเพลง แล้วพอโจนัสเข้าสู่วงการ ก็ได้มีการเชิญชวนเขามาเป็นคู่ขวัญกัน ซึ่งต้องบอกเลยว่าตอนแรกคริสตี้ปฏิเสธ เพราะเขาเขิน เขาไม่ค่อยอยากจะอยู่กับสื่อ แสงสีระดับนั้น อีกอย่างหนึ่งคือเขาขาดความมั่นใจเรื่องภาษาในตอนนั้น เขาเห็นโจนัสแล้วเขายิ่งเครียด เพราะเข้ามาวันแรกก็ถูกสัมภาษณ์ไม่รู้กี่สื่อ เขาก็รู้สึกว่า จริงๆแล้วเขาอยากแค่ร้องเพลง ไม่ได้อยากจะตอบคำถาม หรือให้สัมภาษณ์ แต่ในที่สุดเขาก็ทำได้ แล้วเราก็อยู่ในฐานะพี่น้องกัน เราช่วยกัน จนตอนนี้เขาเก่งและมีความมั่นใจในที่สุด
ใช่ครับ ผมรู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเองมาก ผมยืนยันที่จะไม่กลับไปพร้อมกับครอบครัว ยอมที่จะอยู่คนเดียวที่นี่ เพราะว่าผมรักไทย รู้สึกว่าที่นี่คือบ้าน รู้สึกชอบ ผมสัมผัสถึงวิถีไทย แล้วก็อยากจะเดินหน้ากับอะไรที่ทำอยู่ไปเรื่อยๆ
การขอสัญชาติไทยเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก เพราะว่าเราไม่ได้แต่งงานกับคนไทย
ฝากช่องทางการติดตาม
ทุกช่องทางใช้ชื่อว่า jonasthailand ครับ และผมยังมีบริษัท ทำเกี่ยวกับการสร้างสื่อ ผลิตสื่อ รับจัดอีเว้นท์ด้วย รวมไปถึงผลิตสิ่งพิมพ์ ออนไลน์ เว็บไซต์ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวนะครับ ทั้งในแง่ของศิลปิน และในแง่ของธุรกิจของผมด้วย ถ้าต้องการสื่อที่ข้ามแดนได้ ทั้งไทยทั้งอังกฤษ หรือแม้แต่ภาษาลาวก็มี บริษัทผมชื่อ Ultimise (www.ultimise.com) ติดต่อมาได้ทุกช่องทางเลยครับ
https://www.facebook.com/teeneedotcom