ช็อก! นางเอกดัง แฉถูกอดีตแฟนโปรไฟล์ดี ทำร้าย-กักขัง-ข่มขู่
ทั้งนี้ ยีน เกวลิน ได้เริ่มต้นเล่าให้ "ข่าวสดบันเทิงออนไลน์" ฟังว่า "สมัยก่อนเคยมีแฟนเป็นคนไทยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นไฮโซ ด้วยความที่เราทำมาหากินเองได้ ไม่ต้องพึ่งเงินฝ่ายชาย สิ่งที่เขาให้เรามาทุกอย่างมันคือตามโอกาสและเทศกาลที่เขาปรนเปรอเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนกันทำให้กันได้อยู่แล้ว ไม่ได้เดือดร้อนเขา"
"ครั้งแรกที่เหมือนขอห่างกัน เขาก็พูดถึงว่าแล้วเงินนั้นจะคืนเมื่อไหร่ เราเลยคิดอยู่ในใจว่าแล้วความเสียหายของเราล่ะในเวลาที่เราต้องออกไปกับเขา กลายเป็นว่าเขามองเป็นธุรกิจ แล้วคุณไม่เคยคิดเลยเหรอว่าเราต้องเสียเวลากับการที่ไม่ไปงานอีเวนต์นี้เพื่อเขา เราก็สูญเสียของเราเหมือนกัน"
แล้วพอโดนทวงมาได้คืนเขาไหม? "ไม่ค่ะ เอาตรงๆนะเขาฟ้องเราเลย มีจดหมายส่งมาที่บ้านว่านางสาวเกวลินและครอบครัวอย่างนั้นอย่างนี้ พอดีตอนนั้นคุยกับพี่ดิว(อริสรา)เขาเลยแนะนำทนายมาให้ เราก็เลยให้ทนายช่วยดูให้หน่อยว่าเคสแบบนี้มันสามารถที่จะฟ้องร้องกันได้หรือเปล่า"
"ทนายบอกว่าเคสนี้มันคือเคสที่คบกันด้วยความเสน่หา ไม่ใช่คุณมีพันธะสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ทุกคนรู้เห็นว่าเรามีการคบหากันเป็นแฟน การที่คุณมาทวงแบบนี้คืออะไร แต่มีของแบรนด์เนมบางอย่างที่เราคืนเขาไปนะคะ เพราะเขาทวง ไม่เอาก็ได้ค่ะ อยากได้คืนก็เอาไป เนี่ยมันเป็นอะไรที่แบบรู้สึกแย่มาก"
"ประเด็นคือคบกันเดือนแรกไม่มีปัญหากันสักเท่าไหร่ แต่เราเริ่มรู้สึกแล้วว่าเขาเหมือนมีปัญหาเวลาที่เขาทำอะไรบางอย่างให้แล้วเราแค่ Thank you อย่างเดียวไม่ได้ แต่เขาต้องการคำพูดที่มันสวยหรูกว่านั้น เช่นว่าขอบคุณนะที่ช่วยดูแลฉันในประเทศสิงคโปร์ที่ทำให้ฉันมีชีวิตใหม่"
"และปัญหาอยู่ที่ว่าพอเขาไม่จบเขาอารมณ์เสียใส่เรา แล้วเขาลงไม้ลงมือ ทำเดี๋ยวนี้! บังคับให้เราโพสต์ลงในไอจีด้วย ถ้าเราไม่ทำเขาก็คือจัดการเราเลยนะ ภาพทุกวันนี้คือยังมีอยู่เลย นี่ส่งให้เพื่อนที่สิงคโปร์บอกว่าถ้าสมมติวันหนึ่งมันเกิดอะไรขึ้นกับเราฝากแจ้งความด้วยนะ"
"ตอนนั้นช็อกมากว่าฉันทำความผิดรุนแรงถึงขนาดที่ทำให้เขาต้องเขวี้ยงดอกไม้ลงถังขยะเดี๋ยวนั้นเลยเหรอ แล้วคือเขาตะโกนด่าเราเลวทรามต่ำช้ามากว่าเราเป็นคนไร้ชาติไร้สกุล โอ๊ย! คือช่วงที่คบเขาในระยะเวลาหนึ่งปีเป็นอะไรที่เรารู้สึกเหมือนด้อยค่าลงไปทันทีเมื่ออยู่กับคนๆ นี้"
โดนทำร้ายร่างกายด้วย? "ใช่ค่ะ คือเวลาเขาจะพูดอะไรเราต้องลงมานั่งเพื่อฟังและจ้องหน้าเขา ไม่ใช่ว่าจะฟังและทำอะไรไปด้วยได้ พอเขาพูดว่าให้มานั่งตรงนี้มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าเรื่องที่สำคัญของเขามันไม่มีอะไรเลย ตอนนั้นยีนก็เลยบอกว่าพูดมาเลยไม่เป็นไรเดี๋ยวเราทำสองอย่างพร้อมกันได้"
"คือหูเราฟัง มือเราก็จัดของไปด้วย แต่เขาบอกไม่ได้แล้วก็มาลากมากระชากเรา สักพักเราก็หันไปจัดของต่อ แล้วเขาก็จับฝาตู้ป้าบใส่หน้าเราแบบนี้เลย หลังหูบุบเลยอ่ะ ช็อกเลย! ฝาตู้มันตบเข้ามาที่หูเราผ่าหน้าเราไป เขาไม่ขอโทษเลย นี่ก็คือหันไปบอกว่ามันจำเป็นต้องถึงขั้นนี้เลยเหรอ"
"เขาก็คือด่าเราและยืนขวางประตู มันมีประตูทางออกอยู่แค่ทางเดียวคือถ้าเราไปผลักเขา เขาก็ผลักเราย้อนกลับเลย เข่าเขียวเข่าแหกบ้างอะไรบ้าง
"อยู่ที่นั่นประมาณ 10 เดือนกว่า เขาไม่เชิงว่าไม่ให้ออกไปไหน มีอย่างเดียวที่ทำได้คือต้องกลับไทยเดือนละครั้ง เพราะพาสปอร์ตเรามันอยู่ได้แค่เดือนละครั้ง อันนี้คือเรื่องที่เราต้องเอาตัวรอดเอง พอเรารู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ทุกเดือนเราก็จะเริ่มค่อยๆ ทยอยขนของเรากลับแบบไม่ให้เขารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่"
สุดท้ายหลุดออกมาจากชีวิตผู้ชายคนนี้ได้ยังไง? "หลุดออกมาเพราะเรื่องของโควิดนี่แหละ จริงๆ ต้องขอบคุณโควิดมากเลยที่มันเหมือนมาช่วยชีวิตเรา ตอนนั้นพอเราได้กลับมาเมืองไทยแล้วเป็นช่วงที่ล็อกดาวน์ประเทศพอดี ประเทศเขาก็เหมือนกันไม่มีการให้คนนอกเข้าประเทศ"
"ช่วงหนึ่งยีนไม่ได้รับละครที่เมืองไทยมา 3 เรื่องเพราะยีนถูกขู่ ที่หายไปจากวงการบันเทิงไม่ใช่เราปฏิเสธเพราะว่าเรานิสัยไม่ดีหรืออะไร แต่เราต้องปฏิเสธ เพราะเขาขู่เราว่าถ้าเรากลับเมืองไทยไปทำงานเขาจะทำอย่างนั้นอย่างนี้"
ทำไมทนอยู่มาตั้งเป็นปี? "สาเหตุที่ต้องทนอยู่คือเราเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเองด้วย เขาขู่ว่ารู้ความลับของเรา เราก็จะแบบเขาไปรู้มาได้ยังไงซึ่งเราไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย แล้วเขาบอกว่าเขาไม่มีอะไรจะเสียนะ เราต่างหากที่จะต้องเสีย คือเขาสามารถที่จะปั้นเรื่องเพื่อมาทำลายชีวิตเราได้อ่ะ"
"เจอแปลกและหนักมากเลย คือเราไม่เคยคิดว่าแบบเฮ้ย! เราใช้ชีวิตเกิดมาเราจำเป็นจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเหรอ เรื่องเหล่านี้ไม่มีใครรู้เลยเพราะไม่เคยเล่าให้ใครฟังด้วย"
อุทาหรณ์ถึงผู้หญิง? "เรื่องที่แชร์มันเป็นอะไรที่ยีนประสบมาตรงๆ เราไม่ควรที่จะให้ผู้ชายหรือคนที่มีอำนาจมากกว่ามากดขี่ข่มเหง ตราบใดที่เรายังมีแรงทำเราทำเองดีกว่า อย่าให้คนมองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ มันไม่ใช่ ที่ผ่านมาเราอาจจะอ่อนแอทางร่างกาย แต่จิตใจเราไม่เคยอ่อนแอเลย"
https://www.facebook.com/teeneedotcom