จาตุรงค์ ห่วงลูกสาว ใบเฟิร์น พัสกร กลัวต้องหาเงินเลี้ยงสามี
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย จาตุรงค์ ห่วงลูกสาว ใบเฟิร์น พัสกร กลัวต้องหาเงินเลี้ยงสามี
จากกรณีที่มีข่าวออกมาว่าสาว "ใบเฟิร์น พัสกร" ได้กลับมารีเทิร์นรักกับหนุ่ม "เจโม่" จนทำให้คุณพ่อของสาวใบเฟิร์นอย่าง "จตุรงค์ โพธาราม" รู้สึกไม่เห็นด้วย โดยได้พูดผ่านสื่อว่าผู้ชายคนนี้ยังไม่ผ่าน และกลัวมาเกาะลูกสาวกิน เพราะไม่เห็นว่าฝ่ายชายทำงานอะไรเป็นหลักเป็นแหล่ง
โดย "ลุงรงค์" ตัวเปิดใจว่า
เรื่องของใบเฟิร์นและเจโม่ มันไม่มีอะไรสำหรับตน เพราะตนก็ไม่ได้ตามไปราวีอะไรเขา แต่หากถามตน ตนเพียงคิดว่าหากใครที่จะมาเป็นแฟนกับลูกสาวของตน ก็จะต้องหางานทำให้เป็นหลักเป็นแหล่งก่อน ซึ่งไม่ใช่เพียงตนคนเดียวที่คิดแบบนี้ เชื่อว่าคนทั้งประเทศก็คิดแบบนี้ ว่าหากใครที่อยากจะมาแต่งงานกับลูกสาวของเรา ก็อยากให้เขามีหลักมีฐานกันก่อน ถึงแม้ว่าเงินจะไม่มี แต่งานมันต้องมี พอมีงานแล้วก็จะมีเงินตามมา เพราะฉะนั้นอย่าว่าตนเองเลือกมากเลย คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็มักจะเป็นแบบนี้กันทุกคน ใครก็อยากให้ลูกแต่งงานกับสามีที่มีงานทำ ไม่ใช่อยู่ๆ ลูกสาวของเราได้ใครมาเป็นสามีก็ไม่รู้ และจะต้องไปทำงานเลี้ยงเขาสิ่งที่ตนเองกลัวที่สุดคือ กลัวว่าลูกสาวตนเองเป็นคนที่ต้องหาเงินเลี้ยงสามี
ทั้งนี้ตนก็ไม่ได้ต้องการให้เขาหาเงินมาเลี้ยงตนเอง แต่ไม่ใช่หาเงินเพื่อไปเลี้ยงสามี ใครที่ด่าตนก็ด่าไป แล้วจะเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อ ว่าจะรู้สึกยังไง จากที่ดูมา ตนยังไม่รู้เลยว่าแฟนหนุ่มของลูกสาวทำงานอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตนก็ไม่ได้ไปตามราวีเขา ตนไม่ได้ห้ามเลย แล้วแต่ลูกเลย แต่ถ้าถามตน ตนก็จะตอบแบบนี้
ในการออกมาให้สัมภาษณ์ไม่ตนก็ไม่รู้ว่าจะสร้างความกดดันให้เขาไหม หากเขาดูรายการอยู่ก็จะเป็นการสร้างความกดดันก็ได้ แต่ตนไม่ได้ไม่โทรหาเขา ไม่ได้ไปตามที่บ้าน เจอหน้ากันก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้ ไม่เคยคุยกันเลย เพราะเขาก็โตแล้วทำงานแล้ว ตนก็ภูมิใจที่เขาหาเงินเองได้ ตนไม่กดดันหรอก เขาเลือกยังไงตนก็ต้องคิดตรงกันกับเขา
ทั้งนี้ตนก็ไม่เคยเจอกับแฟนหนุ่มเขา และไม่ต้องการเจอ เพราะรู้ว่าเขายังไม่มีงานการเป็นหลักเป็นแหล่ง ในสายตาตนเองเขายังไม่ผ่าน
โดย "ลุงรงค์" ตัวเปิดใจว่า
เรื่องของใบเฟิร์นและเจโม่ มันไม่มีอะไรสำหรับตน เพราะตนก็ไม่ได้ตามไปราวีอะไรเขา แต่หากถามตน ตนเพียงคิดว่าหากใครที่จะมาเป็นแฟนกับลูกสาวของตน ก็จะต้องหางานทำให้เป็นหลักเป็นแหล่งก่อน ซึ่งไม่ใช่เพียงตนคนเดียวที่คิดแบบนี้ เชื่อว่าคนทั้งประเทศก็คิดแบบนี้ ว่าหากใครที่อยากจะมาแต่งงานกับลูกสาวของเรา ก็อยากให้เขามีหลักมีฐานกันก่อน ถึงแม้ว่าเงินจะไม่มี แต่งานมันต้องมี พอมีงานแล้วก็จะมีเงินตามมา เพราะฉะนั้นอย่าว่าตนเองเลือกมากเลย คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็มักจะเป็นแบบนี้กันทุกคน ใครก็อยากให้ลูกแต่งงานกับสามีที่มีงานทำ ไม่ใช่อยู่ๆ ลูกสาวของเราได้ใครมาเป็นสามีก็ไม่รู้ และจะต้องไปทำงานเลี้ยงเขาสิ่งที่ตนเองกลัวที่สุดคือ กลัวว่าลูกสาวตนเองเป็นคนที่ต้องหาเงินเลี้ยงสามี
ทั้งนี้ตนก็ไม่ได้ต้องการให้เขาหาเงินมาเลี้ยงตนเอง แต่ไม่ใช่หาเงินเพื่อไปเลี้ยงสามี ใครที่ด่าตนก็ด่าไป แล้วจะเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อ ว่าจะรู้สึกยังไง จากที่ดูมา ตนยังไม่รู้เลยว่าแฟนหนุ่มของลูกสาวทำงานอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตนก็ไม่ได้ไปตามราวีเขา ตนไม่ได้ห้ามเลย แล้วแต่ลูกเลย แต่ถ้าถามตน ตนก็จะตอบแบบนี้
ในการออกมาให้สัมภาษณ์ไม่ตนก็ไม่รู้ว่าจะสร้างความกดดันให้เขาไหม หากเขาดูรายการอยู่ก็จะเป็นการสร้างความกดดันก็ได้ แต่ตนไม่ได้ไม่โทรหาเขา ไม่ได้ไปตามที่บ้าน เจอหน้ากันก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้ ไม่เคยคุยกันเลย เพราะเขาก็โตแล้วทำงานแล้ว ตนก็ภูมิใจที่เขาหาเงินเองได้ ตนไม่กดดันหรอก เขาเลือกยังไงตนก็ต้องคิดตรงกันกับเขา
ทั้งนี้ตนก็ไม่เคยเจอกับแฟนหนุ่มเขา และไม่ต้องการเจอ เพราะรู้ว่าเขายังไม่มีงานการเป็นหลักเป็นแหล่ง ในสายตาตนเองเขายังไม่ผ่าน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom