ครั้งแรก! ษา วรรณษาอวดโฉมลูกชายวัย15 เผยวิธีเลี้ยงลูกเด็กพิเศษ
ษา : "ก็เพิ่งมาออกเต็มๆ แบบนี้ครั้งแรก"
เซย์เดย์ : "ปีนี้ผมอายุ 15 ปีแล้ว"
ทำไมก่อนหน้านี้ไม่พาลูกออกสื่อเลย?
ษา : "อย่างที่บอกก่อนหน้านี้มีการบำบัด การพูดคุยกับลูกตลอดเวลา ได้ออกทีวีแหละ แต่เราต้องรู้ว่าเวลาไหนเหมาะสมแล้วเขาพร้อมที่จะตอบคำถาม"
ทำไมถึงเรียกน้องว่าพิเศษ?
ษา : "เซย์เดย์เป็นเด็กพิเศษในกลุ่มออทิสติก แล้วก็เป็นเรื่องของ LD แล้วก็สมาธิสั้น เป็นทั้งหมด 3 อาการ ตั้งแต่ขวบแรกเลย แล้วตอนนี้พอ 15 ปี แล้วมีการบำบัดมาตลอด 4 ปีแรก ตั้งแต่ 1 ขวบ จนถึง 4 ขวบ ค่อนข้างรุ่นแรงกับแม่ ของเขาไม่รุนแรง เพราะว่าคนรอบตัวต้องปรับตัวทั้งหมด เพื่อจะมาดูแลเขาว่าเขาจะได้รับการดูแลแบบไหน บำบัดแบบไหน"
แล้วการดูแลเป็นยังไง แล้วษาต้องปรับตัวยังไง?
ษา : "อย่างแรกคุณแม่ต้องสังเกตก่อนว่าลูกมีความผิดปกติไหม ในเคสของษาคือลูกไม่มีอายคอนแท็ก คือเวลาเราเรียกแล้วไม่หัน อันที่สองเดินผิดปกติ ทรงตัวไม่ค่อยได้ อันที่สามก็จะมีความพิเศษทางจีเนียสนิดนึง เขาค่อนข้างจำอะไรแบบเก่ง เร็ว ครั้งเดียวแล้วจำได้เลย แล้วษาก็กลายเป็นคนช่างสังเกตด้วย ก็เลยรู้ไปตามลำดับขั้นก่อน แล้วที่ดูแลจริงๆ เวลาเขาไม่ได้ดั่งใจ ประมาณสัก 2-3 ขวบ เขาก็ข่วนหน้าตัวเอง เราก็ไม่อยากให้ลูกทำร้ายตัวเอง"
เซย์เดย์ออกทีวีตื่นเต้นไหม?
เซย์เดย์ : "ตื่นเต้นอยู่ครับ ตอนที่ Swap ตื่นเต้นกว่า"
ษา : "เรื่องของทำร้ายตัวเอง เวลาที่รู้แล้วว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เขาเกิดอารมณ์โมโห เราก็จะเลี่ยง เราก็ใช้คำอื่นๆ ใช้การแสดงอื่นๆ ประกอบกับเขาอีกทีนึง ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ความชิน พอมองตาแล้วเราก็จะรู้ว่าถ้ามีอาการแบบนี้ปุ๊บ เราก็จะเลี่ยงไปทำอย่างอื่น ซึ่งบางคนหรือคนนอกเองเขาก็จะบอกว่าสปอยด์ลูกเกินไป แต่จริงๆ เขาคือเด็กพิเศษ ความพิเศษก็ต้องพูดพิเศษ ทำพิเศษเช่นเดียวกัน"
ตัวหลานรู้ไหมว่าตัวเองเป็นแบบนี้?
ษา : "ทราบคะ ษาบอกเขาตลอด เพราะว่าเขาจะต้องทานยา เราก็ต้องบอกว่ายานี้ช่วยอะไร ทำอะไร จะต้องกินไปตลอดเพราะอะไร"
เซย์เดย์รู้ไหมว่ารู้สึกตัวเองพิเศษกว่าคนอื่น?
เซย์เดย์ : "รู้ครับ ตอนแม่บอกว่าเป็นเด็กพิเศษ แต่ผมก็รู้สึกเหมือนคนทั่วๆ ไป เวลาทำอะไรก็เหมือนคนทั่วๆ ไป"
ษา : "เขาทำอะไรก็เหมือนคนทั่วไป เราเลี้ยงเขาแบบให้อยู่โรงเรียนปกติ ไม่ได้ไปโรงเรียนพิเศษ เพราะเราบอกเขาว่าลูกไม่ใช่คนที่ผิดปกติ แต่ลูกที่เป็นคนที่ผิดปกติมากกว่าคนอื่น เพราะฉะนั้นลูกก็ควรอยู่กับคนปกติ ก็พยายามทำให้เหมือนคนอื่นให้ได้"
ต้องทานยาตลอด?
เซย์เดย์ : "ใช่ครับ เรียกว่ายาเด็กดี"
ษา : "พอทานแล้วเขาจะมีสมาธิในการเรียน ต้องบอกก่อนว่ายาชนิดนี้ที่ทาน เด็กพิเศษก็จะทานแตกต่าง แต่ของเซย์เดย์จะเป็นยาที่ คือษาถามคุณหมอแล้วว่ามันผิดปกติขนาดนี้ ต้องทานยาและต้องทานนานเท่าไหร่ ยานี้จะเข้าไปทำลายสมองเด็กไหม ไปกดประสาทไหม ษาถามหมดเลย คุณหมอบอกว่าจริงๆ แล้วสมองของเราจะมีการหลั่งสารเคมีอยู่ 3 ตัว พอมันหลั่งมาไปมาเท่ากันมันจะไม่มีสมาธิ หรือถ้าไม่หลั่งออกมาก็ไม่ได้ การทานยานี้เข้าไปมันจะเป็นการหลั่งสารเคมีออกมาเท่ากัน แล้วจะมีสมาธิอยู่ประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ต่อโดส"
แล้วความถี่ที่น้องต้องรับประทาน?
ษา : "เขาโตขึ้นมาแล้ว ประมาณ 2 ครั้งต่อวัน คือตอนเช้าเราให้กินไป อีกทีตอนเย็น"
ซึ่งเซย์เดย์ให้ความร่วมมือกับคุณแม่อย่างเดียวใช่ไหม?
เซย์เดย์ : "ครับผม ก็ไม่เคยไม่อยากกินยา"
ษา : "เราต้องรู้เลยว่าลูกเราพิเศษจริงๆ ลูกเราผิดปกติจริงๆ อันแรกเลยที่สังเกตได้คือจับไม่อยู่ คือลูกไม่อยู่กับที่ แล้วทำอะไรจะไม่มีสมาธิเลย แบบนี้ควรไปพบคุณหมอ แต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะเป็น แต่ว่าการที่เราไปพบคุณหมอก็เหมือนเมืองนอก ก็จะมีจิตแพทย์มาดูแลว่าเป็นหรือเปล่า ถ้าเป็นเราก็จะได้รักษากันเลย ออทิสติกอาการนี้ต้องดูขวบแรก ไม่สามารถที่จะตรวจน้ำคร่ำ เรื่องนี้เราต้องเจอด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าเขาเป็น พอรู้แบบนี้แล้วไปหาคุณหมอเลย ไม่ต้องอาย"
อะไรที่รับมือยากที่สุด?
ษา : "น่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่า เพราะตอนนี้เซย์เดย์เข้าสู่วัยรุ่นแล้ว อารมณ์จะพุ่งพล่านนิดนึง แล้วเขาเป็นเด็กพิเศษด้วย เป็นวัยรุ่นด้วย แล้วก็เป็นเด็กผู้ชายด้วยแล้วเราเป็นผู้หญิง มันก็จะวุ่นวายนิดนึง แต่เวลาเราคุยกับเขา เขาก็รับฟังในบางครั้ง"
เห็นว่าชอบคอมฯ ชอบเขียนโปรแกรม?
ษา : "คือเขาจะชอบเรื่องคอมฯ ภาษา เวลาที่เขาจะทำอะไรเขาก็เข้าไปดูในยูทูบ แล้วก็นั่งดูว่าลูกดูอะไร บางทีก็เป็นภาษาอังกฤษหมดเลย แม่ฟังไม่รู้เรื่อง"
แต่ก็มีเหตุการณ์ทำให้คุณแม่ฟิวขาด เกิดอะไรขึ้น?
ษา : "จริงๆ มันก็ฟิวขาดอยู่หลายครั้ง แต่บางทีมันเป็นอารมณ์ที่เราไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆ เราก็ออกไปข้างนอก เจออะไรต่ออะไร หรือแม้แต่ขายของออนไลน์ก็เหมือนกัน บางทีเราก็เจอลูกค้าเหวี่ยงวีนบ้าง ไม่โอนบ้าง อะไรบ้าง เราก็มีอารมณ์ของเรา พอมาเจอเขา เขาก็มีอารมณ์ของเขา แล้วก็มาเจอกันพอดี แล้วพอแว้ดเขา ตอนเด็กๆ เราจะรู้แล้วว่าอันไหนอาการเขาจะคูณสอง พอเราแว้ดเขา เราก็จะขึ้นไปร้องไห้ตลอดเวลาว่าทำไมอะ ทำมา 15 ปีแล้ว ทำไมเรื่องแค่นี้มันทำไม่ได้ แต่เดย์เขาจะเป็นเด็กที่โกรธง่ายหายเร็ว แล้วเขาไม่ได้จำว่าเขาโกรธอะไร"
เซย์เดย์รู้ไหมว่าคุณแม่ร้องไห้คนเดียว?
เซย์เดย์ : "เดย์ขึ้นไป บางครั้งก็รู้ บางครั้งก็ไม่รู้เวลาเห็นคุณแม่ร้องไห้บางครั้งก็เข้าไปปลอบบ้าง ก็พูดกับคุณแม่ว่าขอโทษอะไรแบบนี้ครับ"
ษา : "ด้วยความที่เราเป็นแม่ แล้วอยู่กับเขา 24 ชั่วโมง รู้อาการของเขาหมด การที่เรารู้หมดทุกอย่าง มันก็เป็นข้อเสีย มันทำให้เราเป็นห่วงมากกว่าเดิม แล้วทุกวันนี้สิ่งที่ห่วงเขาคือ ถ้าไม่มีเราเขาจะอยู่ได้ไหม ซึ่งเรารู้แหละว่าลูกเก่งมาก แต่ ณ วันนึงถ้าเรารู้ว่าเขาจะต้องอยู่คนเดียว เราทำใจไม่ได้นะ"
ษา : "จากเด็กชอบเรียนอะ คือจริงๆ ถ้าไปโรงเรียนเขาจะเรียกว่าออนไซต์ ออนไลน์คืออยู่บ้าน เขารู้สึกว่าไปโรงเรียนเขาจะโอเคกว่า เราเข้าใจ และเราไม่สามารถลุกขึ้นมาโต้แย้งได้ เพราะมันทั้งโลกอะไม่ใช่แค่ประเทศไทยเราก็ต้องยอมรับ"
เซเดย์ไม่โอเคกับการเรียนออนไลน์เหรอ?
เซย์เดย์ : "บางครั้งก็มีเครียดครับ ถึงจุดแล้วไม่อยากเรียน"
ทำไมเราถึงเครียด?
เซย์เดย์ : "การบ้านเยอะครับ"
ษา : "นิสัยเซย์เดย์เขาจะแบ่งเลยนะว่าอันนี้โรงเรียน อันนี้บ้าน อะไรที่เป็นงานของโรงเรียน เขาจะทำเสร็จที่โรงเรียนหมดเลย"
มันต่างกันยังไงระหว่างเรียนที่โรงเรียนกับที่บ้าน?
เซย์เดย์ : "ถ้าเรียนที่โรงเรียนจะฟังครูตลอด ไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจ พออยู่บ้านมันเบี่ยงเบนไปดูอย่างอื่นได้ง่าย"
ถ้าเขาให้เรียนออนไลน์ 1 ปีไหวไหม?
เซย์เดย์ : "ก็แล้วแต่การบ้านจะเยอะไหม"
อาท : "เข้าปีที่ 5 ครับ"
เห็นว่าสนิทกับน้องมาก?
อาท : "ผมว่าเขาเป็นเด็กที่จะพิเศษ แต่สำหรับผมเขาเหมือนปกติ ผมก็ลองคุย ลองเล่น เราก็ได้รับสิ่งใหม่ๆ จากเขามามากพอสมควรเหมือนกัน"
เห็นว่าเซย์เดย์สนิทกับคนยากมาก แล้วมาสนิทกับพี่อาทได้ไง?
ษา : "เดย์เขาเป็นคนไม่สนิทกับใครก็จริง แต่เขาเป็นคนดูคน ถ้าคุยดีด้วยเขาก็คุย เขาไม่ได้แอนตี้"
อะไรที่ทำให้เปิดใจให้คนคนนี้เข้ามา?
ษา : "เมื่อก่อนษาอาจจะแสบ แต่พอมีลูกษาก็เปลี่ยนไป พอเขาเข้ามา สิ่งที่ษาชอบเลยคือเขาทำงานอาสา เราไปเจอกันที่งานบุญ"
อาท : "เมื่อก่อนสวนกันไปมา แต่ก็ไปเจอกับงานบุญ"
ษา : "ษาก็บอกลูกว่าน้าอาทเป็นคนที่ดูแลแม่ ดูแลเป็นคุณยาย และดูแลเซย์เดย์ด้วยนะครับ"
ทำไมเราถึงจะจีบผู้หญิงคนนี้?
อาท : "ชอบผู้หญิงลุยๆ พอไปงานบุญ เราก็ได้เห็นว่าเขาช่วยคนอื่น ซึ่งเขาชอบอาสา เราก็เป็นอาสาอยู่แล้ว เราก็รู้สึกว่าเขามีจริตตรงกับเรา"
เซย์เดย์อยากบอกอะไรกับคุณแม่บ้าง?
เซย์เดย์ : "แม่หาเงินมาทั้งชีวิตเพื่อมาเลี้ยงผม ทำทุกอย่างเพื่อผมกับครอบครัว ผมรักแม่ครับ"
https://www.facebook.com/teeneedotcom