ดร.เสรี วิเคราะห์จัดเต็ม กระแสดราม่า #แบนเมียจำเป็น

รายการ "เปิดเนตร" เห็นความจริงให้เต็มตา ออกอากาศทุกวัน เวลา 11.00 - 12.00 น. ทางช่อง TOP NEWS PSI 77 วันนี้ (10 ก.พ.) "ต๊อบ วุฒินันท์ นาฮิม" เปิดใจสัมภาษณ์ "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" ประเด็นดราม่าแบนละครเมียจำเป็น ที่ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ต้านการข่มขืนผ่านจอ

กระแสแบนละครเมียจำเป็น
"อาจเป็นวัวหายล้อมคอก รอบนี้ปล่อยให้ผ่านไปแล้ว แต่เมื่อมีเสียงวิจารณ์แบบนี้ เชื่อว่าต้องเอาดราม่าไปพิจารณา หลายคนมองเห็นว่าเรื่องนี้ไม่น่าปรากฎในจอ เราเป็นสื่อต้องรู้ว่าตั้งใจหรือไม่ เราเป็นครูของสังคม คนที่เขาดูเราเขาก็ฟังความคิดเห็นจากเรา ดูภาพจากเรา ได้ข้อมูลจากเรา เอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ดราม่าเกิดขึ้นเพราะคนไม่อยากเห็นภาพการข่มขืน เพราะหนึ่งเป็นอาชญากรรม สองเราอยู่ในยุคทัดเทียม ไม่ควรมองผู้หญิงเป็นเซ็กซ์บำบัดความใคร่ สิ่งเหล่านี้คนไม่อยากเห็น"

"นอกเหนือจากการข่มขืนที่ไม่อยากเห็นแล้ว การขู่ว่าจะเอาคลิปไปประจาน ถ้าเกิดการเลียนแบบจะทำยังไง ต่อไปนี้ ใครข่มขืนใคร เพื่้อไม่ให้ไปฟ้องร้อง ถ่ายรูปไว้เลย ถ้าเมื่อไหร่ฟ้องจะเอาคลิปมาประจาน"

ดร.เสรี วิเคราะห์จัดเต็ม กระแสดราม่า #แบนเมียจำเป็น

แต่เรตติ้งเป็นตัวเดิมพัน เขาไม่มีกองเซ็นเซอร์เหรอ
"เรามีดีกรีความเหมาะสมไม่เท่ากัน หากเราจะพูดถึงสูงเท่าไหร่ถึงจะสูง มีเงินเท่าไหร่ถึงจะรวย เหมาะสมไม่เหมาะสม คิดไม่เหมือนกัน เขาอาจคิดว่าไม่เห็นมีฉากอะไรแสดงเลย แต่การบอกว่าจะแฉ ใครก็ตามที่ขู่จะแฉจะฆ่า คนเป็นเหยื่ออย่ากลัว คนเราถ้าขู่จะฆ่าคน คนเราจะฆ่าคนง่ายๆ โดยไม่คิดอนาคตเหรอ"

เราจะสู้ยังไง
"เอาความจริงมาสู้ ไม่ต้องกลัว ถ้าแฉก็มีเขาด้วย ผู้เสียหายไม่ใช่เราคนเดียว เขาด้วย เขาเองก็ไม่อยากเสียหาย คำว่าเอาไปแฉน่าจะเป็นคำขู่มากกว่าเกิดขึ้นจริง คนทำไม่ใช่กายทิพย์หายตัวได้ ถ้าบ้าจริงเอาออกมา เขาก็เสียชื่อด้วย"

มีโทษแรงมั้ย
"มีโทษทางอาญารุนแรง ตอนนี้เขาก็รณรงค์และพี่ก็เห็นด้วยว่าให้ตัดทิ้ง อย่าไปฆ่าให้ตาย ให้อยู่ต่อไป แต่ให้อยู่แบบไม่มี ขู่ฆ่าอย่าเชื่อ ถ้าฆ่าเขาติดคุก ขู่แฉอย่ากลัว แฉมาเขาก็เสียเหมือนกัน เป็นเพียงแค่คำขู่ แต่ถ้ามันแฉขึ้นมาจริงๆ เพราะบ้า ตัวเขาเสียหาย ต่างคนต่างเสียหาย บอกได้เลย ผู้หญิงโดนแบบนี้เ ไม่ว่าคำขู่ฆ่าขู่แฉอย่ากลัว ถ้าต้องฟ้องก็ฟ้อง เป็นเด็กต้องบอกพ่อแม่ก็บอก"

ในโลกทวิตเตอร์ติดแฮชแท็ก อย่ามารณรงค์เลยข่มขืนต้องประหาร ตราบใดที่คนข่มขืนคนอื่น ไม่สมควรเป็นพระเอก

"เคยมีละครเรื่องนึง เรื่องตี๋ใหญ่ ตอนนั้นหลายคนก็ต่อต้านเรื่องนี้ เพราะตี๋ใหญ่เป็นผู้ร้าย แต่ละครสร้างให้ตี๋ใหญ่เป็นพระเอก เอาพระเอกมาเล่นเป็นตี๋ใหญ่ ตอนนั้นคนวิจารณ์มากเพราะคนชื่นชมพระเอก แต่พระเอกดันไปเล่นเป็นตัวร้าย แทนที่จะเชียร์ตร. กลับเชียร์ผู้ร้าย ดังนั้นเรื่องการแคสติ้ง ตัวแสดงก็สำคัญ ถ้าเป็นผู้ร้ายข่มขืน คนยังเกลียดผู้ร้าย แต่ถ้าพระเอกได้ข่มขืน คนอาจเชียร์พระเอก"

"มีคนสองประเภท บางคนพอโดนแบบนี้สำนึก และปรับ อาจออกมากล่าวขอโทษด้วย ปรับบทด้วย แต่คนบางคนบอกว่าละครก็ต้องสมจริง ถ้าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นเช่นนี้ ละครก็ต้องสะท้อนสิ คนพวกนี้ไม่สำนึกค่ะ ความจริงมีร้อยแปดพันเก้า ถ้าเราเป็นคนรับผิดชอบ ก็เลือกเสนอความจริงบางอย่างที่ไม่ทำร้ายสังคม ความจริงที่ทำร้ายสังคมไม่ต้องเสนอก็ได้ การเขียนบทก็เลือกได้นี่ คนเล่นไพ่ ยาเสพติด ข่มขืนมีจริง แต่จำเป็นต้องเสนอมั้ย หลายอย่างทิ้งไว้เป็นจินตนาการบ้างก็ได้ ให้เขาอ่านระหว่างบรรทัดเอาเอง ไม่ต้องชัดเจนขนาดนั้น สมัยก่อนที่เขาระวัง พอเริ่มจะถึงเลิฟซีน เขาก็ตัดแค่ถอดเสื้อผ้า เห็นแค่กระโปรงถอดถึงเท้า ปิดไฟ คิดเอาเองสิ แต่ยุคนี้ทำไมต้องให้เห็นกิริยาท่าทางชัดเจนขนาดนั้น มันไม่จำเป็น"