บุ๋ม แฉยับพฤติกรรมโมเดลลิ่งเหลือบวงการ เช็คแล้วดาราดังเอี่ยวมั้ย?

จากกรณี บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ดาราและพิธีกรชื่อดัง โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว boompanadda ระบุว่า "เหลือบชั่วในวงการบันเทิง ต้องเข้าคุก" พร้อมทิ้งท้ายไว้ว่า "งานนี้ขอเอาชีวิตเข้าแลก" ส่งผลให้เกิดกระแสความสงสัยว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใครนั้น จนไปถึงการเข้าจับกุมโมเดลลิ่งดังกล่าวที่มีภาพหลักฐานการอนาจารเด็ก และเกี่ยวข้องกับคนในวงการบันเทิงหลายคน โดยล่าสุดเมื่อได้เจอนหน้าบุ๋ม ปนัดดา ที่มาเป็นพิธีกรในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561ก็ได้สอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวได้เผยว่า

"คือเรื่องนี้บุ๋มได้รับเรื่องมาประมาณหนึ่งเดือนแล้วค่ะ มันเป็นเรื่องที่เราเองก็รับไม่ได้เพราะเขาเป็นโมเดลลิ่งที่จัดประกวดเด็กรับสอนเดินแบบแล้วก็ทำงานใหญ่ๆ เยอะมากตามภาคใต้ แล้วเด็กอยู่ในสังกัดเขาเยอะมากแต่ที่สำคัญคือรูปที่เราเจอคือเป็นรูปอนาจารค่ะ ในการอนาจารเด็กและก็ต่ำกว่า 12 เยอะแยะมากมายเลยทั้งเอาเด็กมาถ่ายเป็นนู้ด หรือว่าถ่ายอวัยวะเพศ

ซึ่งกลายเป็นว่าเราเองต้องตามสืบและมีการตามจับประมาณเดือนเต็มๆ ในการวางแผนทุกอย่าง เพราะว่าหนึ่งเราต้องแอบติดต่อแม่เด็ก เราต้องดูว่ารูปนั้นเป็นใครเด็กคนไหนแม่เด็กเป็นใคร บางคนไม่ได้อยู่ในจังหวัดแล้วเราจะทำยังไงมีการเกลี้ยกล่อมว่ารูปจะไม่มีการหลุดไป และตัวเราเองก็ต้องเข้าไปเต็มที่ปัญหาของมันคือว่าเป็นช่วงโควิดด้วยเราเองเดินทางไปต่างจังหวัดไม่ได้ ก็กลายเป็นว่าต้องประสานงานกับทางอัยการที่สงขลารวมทั้งในส่วนของผู้กำกับและรองผู้กำกับของสภ.หาดใหญ่ ในการตามจับกุมอีก

และเราก็ต้องออกมาประกาศว่าใครที่เกี่ยวข้องโมเดลลิ่งนี้มาก่อน เคยส่งลูกหลานไปเรียนไปทำงานกับทางนั้นช่วยกรุณาติดต่อทางสภ.หาดใหญ่ทีว่ามีรูปลูกของท่านอยู่ในนั้นหรือเปล่า เป็นคอมเครื่องใหญ่หลายเครื่องมือถือ 4 เครื่องที่ยึดกันมาเมื่อคืนนี้"

ในส่วนของคนที่เข้ามาร้องเรียนเป็นผู้เสียหายหรือเปล่า?

"เป็นหลายๆ คนที่เกี่ยวข้องที่รู้เห็นอยู่ในนั้น และบุ๋มเชื่อว่าเขาทำกันเป็นอาชีพและทำกันมานานแล้วด้วย และนี่คือสิ่งที่บุ๋มเองก็ยอมไม่ได้ เพราะบุ๋มไม่ต้องการให้ลูกหลานโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงต้องมาโดนอะไรแบบนี้ แล้วก็ที่สำคัญก็คือคนแบบนี้คือเหลือบของวงการบันเทิงอ่ะ ดิฉันก็คือคนในวงการบันเทิงเต็มตัว ไม่ยอมค่ะ เราจะไม่ยอมให้วงการของเราแปดเปื้อนแบบนี้เด็ดขาด"

โมเดลลิ่งนี้มีการจดทะเบียนในพื้นที่หาดใหญ่?
"คือเขาจดบริษัทมานานแล้วค่ะ แล้วก็จดปิดมานานแล้วด้วยแล้วเขาก็แอบอ้างใช้ชื่อนี้ในการจัดงานมานานแล้วด้วย เป็น 10 ปีค่ะ"

มีในส่วนของศิลปินหรือดาราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่า?
"ก็อย่างเช่นมีน้องหลายๆ คนไปดูรูปในเฟซบุ๊กเขาได้มีเกี่ยวข้องหลายคนค่ะ แต่เกี่ยวข้องก็คือเขาคงจะจัดงานขึ้นมาแล้วก็เชิญดาราดังๆ หรือว่าน้องดังๆ ไปร่วมงานแล้วน้องๆ ก็คงกลับเลยแหละ แต่ก็ถ่ายรูปคู่ทำเป็นโอบกอดเราเห็นแล้วเราก็รู้สึกใจสั่นเลยนะ ตอนเห็นแรกๆ ว่า ตายแล้ว..น้องไปเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน ก็มีแอบโทรคุยกับคุณแม่ของน้องดาราท่านนั้นด้วยนะคะว่ามีการไปเจอะเจอแค่ไหนแม่ก็บอกว่าแม่ประกบตลอด ไม่ได้ไปปล่อยให้อยู่สองต่อสอง"

ในส่วนที่จับกลุ่มได้ตอนนี้มีประมาณกี่คน?
"คนเดียวหลักๆ เลย เป็นผู้ชาย แต่กำลังตามสืบตามค้นหลังจากนั้นอีกว่ามีใครร่วมขบวนการอีกบ้าง"

สถานะที่เราเป็นคนฟ้องเองหลังจากนี้จะยังไงต่อไป?

"เดี๋ยวก็ต้องไปขึ้นศาลที่นั่นถึงบอกว่าทำไมถึงโพสต์ว่างานนี้ต้องเอาชีวิตเข้าแลก เขาคงรู้แล้วเราก็เปิดหน้าแล้วแหละว่าเราเป็นคนจัดการเรื่องนี้เพราะว่าถ้าคดีไม่มากพอทำไมดิฉันถึงต้องเรียกร้องให้ออกมาฟ้องกันเยอะๆ เพราะถ้าจำนวนไม่มากพอสักพักเขาออกมาเขาก็ตามยิงดิฉันแน่นอน"

หลังจากที่ออกมาพูดเรื่องนี้มีน้องๆ ที่เสียหายเข้ามาให้ข้อมูลเยอะแค่ไหน?
"นี่แหละค่ะถึงต้องพึ่งพาสื่อค่ะช่วยบุ๋มด้วยช่วยน้องๆ ต่อไปด้วย ช่วยเด็กๆ เหล่านั้นด้วย เด็กๆ รักเขานะแต่กลับกลายเป็นว่าเขาไม่รู้หรอกว่านั่นคือสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง เพราะแม่ใจจะขาดแน่นอนถ้าเห็นรูป บุ๋มบอกได้เลยว่าช่วยหน่อยช่วยไปดูรูปของลูกท่านหน่อยว่ามีอยู่ในนั้นหรือเปล่า ช่วยติดต่อทางสภ.หาดใหญ่หน่อยเพราะรูปมันเยอะมากค่ะ"