
‘บิณฑ์-ไทด์’ เผยที่มาของเงิน เคาะประตูแจกชาวบ้านสู้โควิด!? (คลิป)

โดยงานนี้เจ้าตัวได้มาเปิดเผยเส้นทางการเงินแจก ช่วยเหลือชาวบ้านผ่านรายการต้มยำอัมรินทร์
"ไม่รับ เพราะเงินบริจาคน้ำท่วมมันเกิดวิกฤตที่อุบลราชธานี ที่เขาเปิดรับบริจาค ตอนแรกเขากะว่าได้สักล้านนึงหรือสองล้านที่จะเอาไปช่วยให้กับพี่น้องชาวอุบลราชธานี ซัดไป 422ล้านบาท ทีนี่มาคราวนี้เขาก็คิดว่าวิกฤตนี้ต้องช่วยกันทั่วทุกคนในแผ่นดินต้องช่วยกัน เพราะว่าเกิดขึ้นทั้งประเทศ
เขาเลยตัดสินใจเอาเงิน 10 ล้านเนี่ย เอามาให้เลย แจกทุกวันๆให้ครอบครัวละ 500 บาท ครอบครัวที่มี 4 คน ให้ 1 พันบาท ครอบครัวไหนอยู่ 2 คนให้ 500 บาท เพิ่มขึ้นตลอด แล้วจนกระทั่งผลิตภัณฑ์ที่เขาเป็น พรีเซนเตอร์ เห็นว่าเขาแจกจริง เขาก็เลยบริจาคมาให้ล้านนึง สองล้าน ตอนนี้รวมเงินของเขา และที่รับบริจาคมาทั้งหมด เป็นเงิน 16 ล้าน วันที่ 14 พ.ค. เป็นวันสุดท้ายที่เราต้องแจกเงิน 16 ล้านนี้ต้องหมด"

"สิ่งที่มีความสุขที่สุด คือทำให้คนอื่นมีความสุข นี่คือเรา 2 คนจะพูดกันเสมอว่า วันนี้เป็นยังไงเหนื่อยไหม? ไม่เหนื่อย แต่จริงๆแล้วมันเหนื่อยมาก ที่ไม่เหนื่อยก็เพราะว่า เห็นสีหน้าชาวบ้านมานั่งรอหน้าประตูยกมือไหว้ คนเฒ่าคนแก่เห็นเรา น้ำตานี่ไหลออกมา เข้ามากอด ได้เห็นความรู้สึกของแต่ละครอบครัว บางครอบครัวมีเด็ก นม 1กล่องแบ่งกัน 2 คน แล้วให้พ่อเขาออกไปหานมมาให้ลูกกิน ได้เงินเราไปเนี่ยเขาบอกว่า ข้าวสารอาหารแห้งเนี่ย
ถามว่ามันจำเป็นไหม? มันก็จำเป็น แต่เขาก็ยังสามารถหาจากคนนู้นคนนี้ได้ แต่เงินเนี่ยหาที่ไหนไม่ได้ เอาเงิน 500 บาทไปให้เขา เป็นสวรรค์เลย ลูกไม่สบายต้องไปซื้อยา ก็ต้องใช้เงิน เงิน 500 บาทช่วยเขาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ บางครอบครัว 10 กว่าคนให้ไปเลยสามพัน สองพัน สมมุติว่ามีครอบครัวเด็ก มีอยู่ 7 คน ผมให้เด็กคนละร้อย คนละร้อย นอกจากเงินที่ได้ไปแล้วนะ เพิ่มให้เด็กไป คือเราเดินกันมาอย่างนี้เดือนกว่าแล้ว"

"มันเริ่มต้นมาจากสมันก่อน บ้านผมอยู่ที่ จ.สระแก้ว อ.อรัญประเทศ ตอนเด็กๆเรียนหนังสืออยู่ที่นั่น แล้วมีมูลนิธิ 2 มูลนิธิ ที่เอาของข้าวสารอาหารแห้ง เสื้อผ้า สมุดดินสอ ไปแจกกับเด็กที่ด้อยโอกาสแถวตะเข็บชายแดน อำเภออรัญประเทศ ติดกับกัมพูชา พวกผมก็ไปยืนรับจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิปอเต๊กตึ๊งที่เอาของไปแจก เราเป็นผู้รับตั้งแต่เด็กๆ
รู้สึกว่าโอ้โห..มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก เป็นอะไรที่ดีใจมาก ที่ได้รับของจากคนที่เขาอยู่ในกรุงเทพเอาของไปแจก มันเริ่มมีความรู้สึกดีๆตั้งแต่ตอนเด็กๆที่เป็นผู้รับมา แล้วก็มาคิดว่าถ้าเรามีโอกาสได้เข้ามาในกรุงเทพ มีโอกาสได้ทำงาน มีเงินมีทอง ที่ตัวเองไม่เดือดร้อน อยากจะเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิที่เอาของมาแจก

ทางปอเต๊กตึ๊งเห็นเขาก็ อ้าว พี่บิณฑ์ เขาเหมือนจะให้เข้าไปช่วย พี่บิณฑ์เขาจะเข้าไปช่วยปอเต๊กตึ๊งอยู่แล้ว ทีนี่ปอเต๊กตึ๊งเขามีวัสดุอุปกรณ์ในการช่วยเหลือทันสมัย แต่หันไปอีกที่นึงห่างกันสัก30 เมตร จะเห็นร่วมกตัญญูเขาใช้ค้อนทุบ ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือเลย พี่บิณฑ์เหมือนกับว่า เขาอยากใช้พลังร่างกาย เขาเลยบอกว่า "ไม่เป็นไรเดี๋ยวขอไปช่วยทางนู้นดีกว่า" เพราะทางนี้คนก็เยอะแล้ว อุปกรณ์ก็เยอะแล้ว ไปช่วยร่วมกตัญญูดีกว่า
เขาก็เดินไปช่วย ไปหยิบค้อนมาช่วยกันทุบ ช่วยกันจนกระทั่งเอาผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ซากตึกออกมาได้ แล้วเขาก็แบกขึ้นบ่าเดินออกมา แล้วทีนี้นักข่าวเขาเห็นก็ถ่ายไว้ หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในวันนั้น ทางร่วมกตัญญูเขาไม่ได้ชวนนะ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์เดินเข้าไปขอเป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูตั้งแต่วันนั้นมา และก็มาชวนผมไปด้วย คนก็เลยเข้าไป ตอนนี้ก็ประมาณ 35 ปีแล้ว"

"คำว่าอาสาสมัคร เป็นการทำงานด้วยอาสามา อยากจะทำให้สังคม มูลนิธิจะไม่มีเงิน ไม่มีอะไรสนับสนุนเด็ดขาด เขาจะไม่มีเงินให้ กินเอง เติมน้ำมันเองอะไรทุกอย่าง ถ้าเกิดเป็นรถอาสาสมัครเขาก็ทำโดยของเขาเอง มูลนิธิไม่ได้สนับสนุนอะไรให้ แต่ถ้าเป็นรถของ น.เขต น.พยาบาล ซึ่งเป็นพนักงานของมูลนิธิที่เขาเก็บศพ อันนั้นคือเขาจะมีเงินเดือนให้แต่น้อยมาก เงินเดือนน้อยมาก เพราะว่ามูลนิธิทุกมูลนิธิในประเทศไทยอย่าลืมนะว่าเป็นของเอกชน รัฐบาลไม่ได้มาซัพพอร์ตอะไรทั้งสิ้น ต้องอยู่ด้วยตัวเอง อยู่ด้วยเงินบริจาคของประชาชนเท่านั้น ถ้าไม่มีเงินบริจาคของประชาชนก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้
คนต้องมีใจจริงๆ เราต้องไปทำงานอาชีพของเราก่อน เพื่อเอาเงินมาให้ครอบครัว เอาเงินให้กับลูก เอาเงินเก็บไว้สำหรับเราเจ็บไข้ได้ป่วยนั่นคืออาชีพ แต่ตรงนี้เราทำให้กับสังคม ถ้ามันมีอะไรที่เป็นเหตุการณ์ร้าย หรือเหตุการณ์ที่ใหญ่หรือกว้างมาก ที่ต้องการความช่วยเหลือ
บางครั้งต้องของานอาชีพของเรากับวงการบันเทิง ขอเขาสัก 2-3 วันเพื่อจะมาดูแล ขอคิวมา เพราะว่าผมเป็นหัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูดูแลอาสาทั้งหมดประมาณเจ็ดพันกว่าคนทั่วประเทศ ล่าสุดที่น้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานีผมไปอยู่นั่นเป็นเดือน แจกของช่วยเหลือชาวบ้าน จะไล่มาทั้งหมด 7 จังหวัด"

"มีเยอะ บางครั้งเราก็รู้สึกท้อใจเหมือนกัน ทำไมเขาคิดไม่ได้ สมมุติมีห้องห้องนึงมันว่างอยู่ ห้องนี้ก็ว่าง ห้องนี้ก็ว่าง แต่เจ้าของบ้านไปเอาใครที่ไหนไม่รู้มานั่งว่าเป็นเจ้าของห้อง เพราะว่าห้องนึงอย่างน้อยคือได้ 500 เปิดห้องให้เขามานั่งเพื่อจะได้รับเงินจากพวกเรา เราไม่ได้เรื่องเยอะมากมาย
แต่เราก็ถามเป็นเจ้าของห้องไหม? เป็นเจ้าของห้องครับ ขอดูห้องหน่อย เขาก็อึกอัก ผมอยู่ห้องนี้แหละครับ ห้องผมรกมากครับ คือนอนอยู่ที่นี่หรือเปล่า นอนครับ ขอเปิดดูหน่อย เปิดไป ห้องโล่งมีแต่ฝุ่น ไม่มีอะไรสักนิดนึง สามสี่ห้องเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด เราก็ถามว่า ถามดีๆตอบตรงๆ ถ้าตอบตรงๆผมให้ทุกคน พูดๆมาโอ้โห เจ้าของบ้าน แล้วเขาจะได้เท่าไหร่ ได้200 เอง อย่างนี้มันมีเยอะมาก


VVVVVVVVV
VVVV
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว
https://www.facebook.com/teeneedotcom