
ลูกตาล ชโลมจิต ท้าเจ้าของร้านเพชรฟ้อง สุดงง! ใช้หนี้เกินที่กู้ แต่ยอดไม่ลด (คลิป)

ล่าสุดวันนี้(4 ก.พ. 2563) "ลูกตาล ชโลมจิต" พร้อมทนายความ "เดชา ทองสุข" ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจถึงเหตุการณ์เจ้าของร้านเพชรบุกทวงเงิน โดยอดีตนางแบบได้เล่าถึงที่มาที่ไปของต้นเรื่อง ว่า "เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราอยากขยายกิจการ เลยระดมเงินทุม แต่ไม่อยากกู้หนี้ยืมสินใคร เลยคิดว่าเราเอาเครื่องเพชรที่มีไปขายดีกว่า เลยเอาไปขายคืนร้านของคู่กรณี ซึ่งเป็นเพชรของร้านเขา ซึ่งมูลค่าเพชประมาณ 1.6 ล้านบาท แต่เราต้องใช้เงินประมาณ 1.5 ลบ. เลยขอขายคืน ซึ่งเขาบอกว่ามันเก่าแล้ว ไม่รับซื้อคืน เอาเป็นขายฝากไหม คือต้องมีสัญญาเงินกู้

สรุปเอาเครื่องเพชรไป มูลค่า 1.6 ลบ. เป็นหลักประกัน และขอหลักประกันเพิ่ม เรามีสมุดมอเตอร์ไซค์อยู่ ราคา 6 แสนกว่าบาท เลยเอาไปค้ำประกันเพิ่ม เราก็ได้รับเงินมา 1.4 ลบ. ซึ่งเราผ่อนมา 7 หมื่นบาททุกเดือน 1 ปีไม่เคยขาด รวมแล้วเป็นเงิน 845,000 บาท จากเงินต้น 1.4 ลบ. พอถามยอดหนี้ว่าเหลือเท่าไหร่ เขาบอกว่าที่ผ่านมา 8แสนกว่าบาทมันคือดอกเบี้ยทั้งหมด พร้อมกับยึดเครื่องเพชรมูลค่า 1.6 ลบ. และ มอเตอร์ไซค์ 6.5 แสนบาท รวมกับที่ส่งไปด้วยเขาได้จากเราไปทั้งหมด 3 ล้านกว่าบาท แต่ยังทวงหนี้เรื่อยๆ เราขอเคลียร์ที่เงินต้นถ้าเอาของเราไปก็หักเงินต้นได้ไหม เหลือเท่าไหร่เราจะจ่ายคืนให้ แต่เขาไม่ยอม

และตอนที่ทำเงินกู้กับเขา เขาให้เขียนเช็คค้ำประกันอีก 1.4 ลบ. แต่เราไม่ได้เขียนลงไปในสัญญา พอถึงเวลาก็มาขู่ว่า จะฟ้องเช็ค 1.4 ลบ. กับที่กู้อีก 1.4 ลบ. รวมแล้วเป็น 2.8 ลบ. กะเอาสองเด้ง เลยจะขอคุยที่ศาล พอคุยกันเรียบร้อยก็ส่งตัดสินใจยกมอเตอร์ไซค์ให้เขาไป เพื่อให้จบและฉีกสัญญาทิ้ง แต่เขาไม่ฉีก เท่ากับเราเป็นหนี้ 1.4 ลบ. เหมือนเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้เขาโทรศัพท์ไปทวงหนี้กับคนรอบตัวเรากว่า 10 คนได้ ไปเพื่อประนามเราให้เสียชื่อเสีย จนวันเกิดเหตุที่ยิม ตั้งใจมาถ่ายคลิปเพื่อทำลายชื่อเสียงเรา ทั้งที่เคยบอกไปแล้วว่าให้ไปฟ้องศาลแต่เขาไม่ฟ้อง

ส่วนเหตุการณ์ที่ยิม ลูกตาลเล่าว่า "เขาเดินมาที่ยิมทั้งที่มีลูกค้าเยอะมาก เราบอกว่าขอคุยข้างนอก บอกว่าคุยกันจบไปแล้วให้ติดต่อทางทนายไป แต่เขารีบถ่ายเลยว่า เราโกงเงิน แต่เราไม่พูด ทนายบอกให้ไปแจ้งตำรวจ ส่วนภาพที่เห็นเดินหนี้ มันไม่ใช่ เราไปแจ้งตำรวจ แต่กลายเป็นว่า เขาไปให้ข่าวว่าลูกตาลจะทำร้ายร่างกาย แต่ตำรวจมาระงับไว้ได้ ทั้งที่เรามีกล้องวงจรปิด และเอกสารการจ่ายเงินต่างๆ ก็มี ตอนแรกเขาบอกว่าดอกร้อยละ 5 แต่เราคิดว่าร้อยละ 5 คือต่อปีเพราะมันไม่ได้เขียนในสัญญา พอสิ้นปีเราถามไปเขาบอกเหลือหนี้เท่าเดิม ทั้งที่เราจ่ายไป 8 แสนกว่าแล้ว เท่ากับกลายเป็นว่าเป็นดอกเบี้ย 60 เปอร์เซ็นต์ต่อปีที่เขาคิดเรา คือเราอยากให้ฟ้องหนี้เราจัง เพราะคนที่โดนกระทำคือเรา และถ้าย้อนกลับไปได้ เราจะไม่ซื้อเพชรร้านเขา

ด้าน นายเดชา ทองสุข ทนายความ เล่าว่า "มีการทำสัญญากู้ทั้งหมด 3 ฉบับ มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ลูกตาลมาปรึกษาว่าผ่อนหนี้แล้วแต่หนี้เหลือเท่าเดิม ซึ่งทางเราจ่ายไป 845,000 แต่ต้นยังอยู่ที่เดิม วันนึงเรานัดคุยกันที่ สน.หัวหมาก คุยว่ายกมอไซค์ให้เพื่อตัดหนี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 62 ทุกอย่างที่เอาไป ถ้าหักต้นได้แล้วเหลือเท่าไหร่ทางนี้จะจ่ายให้ ซึ่งมอเตอร์ไซค์ที่ตกลงราคาคืนกันที่ 3 แสนบาท แต่ปรากฎคุยกันไม่รู้เรื่อง เราเลยให้ลูกตาลหยุดจ่ายเงินก่อนเพราะไม่รู้จ่ายไปจะตัดยอดไหน ส่วนถ้ายังติดใจให้ไปดำเนินการฟ้องที่ศาล ถ้าศาลสั่งเท่าไหร่เรายินดีจะจ่าย แต่เราตั้งข้อสังเกตว่าทำไมคู่กรณีไม่ดำเนินการทางศาล จะไปทวงออกสื่อ ผิดพรบ.ทวงหนี้ด้วยซ้ำ และเป็นการหมิ่นประมาท
"ในสัญญาไม่ระบุดอกเบี้ย ซึ่งสัญญา 3 ฉบับ ของวันที่ 8 ต.ค กู้เงิน 5แสน ไม่ระบุดอก ต่อมาฉบับ 3 ธ.ค. กู้ 5แสน ระบุมีมอเตอร์ไซค์ค้ำประกัน และฉบับ 8 ธ.ค. 60 กู้ 4แสน มีแหวนเพชรค้ำประกัน แต่ทั้งหมดไม่มีระบุดอกเบี้ย ซึ่งการเรียกดอกเกินมันผิดกฎหมายอยู่แล้ว ทั้งที่เรามีเจตนาจะใช้หนี้ แต่ที่ให้หยุดชำระเพราะให้ไปเคลียร์ก่อนว่ายอดเท่าไหร่ ทั้งที่หลักประกันน่าจะโคฟเวอร์ยอดหนี้หมดแล้ว ส่วนการดำเนินการต่อไป ทางเราแจ้งความที่ สน.มักกะสัน เรื่อง หมิ่นประมาทโดยโฆษณา กับการทวงหนี้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตอนนี้รอตำรวจเรียก แล้วเราคงคุยเรื่องหนี้ทีเดียวถ้าคุยได้ ว่าจะดำเนินการหรือคุยยังไง รอก็รอเขาฟ้องมาว่าจะบังคับคดีที่ 1.4 ลบ. หรือไม่ ส่วนถ้าเขาไม่ฟ้องก็เป็นสิทธิ์ของเขา"








Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว
https://www.facebook.com/teeneedotcom