เจ เจตริน พาลูกชาย เจ้านาย - เจ้าขุน เปิดใจชีวิต เผยวิธีเลี้ยงลูก เรื่องมีแฟนพ่อไม่ว่า
ล่าสุด เจ เจตริน พาลูกๆ ทั้ง เจ้านาย เจ้าขุน มาเปิดใจ ผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง one31 พร้อมกับเผยวิธีการเลี้ยงลูก และการรับมือกับข่าวต่างๆ
พี่เจเคลียร์หน่อย ครั้งที่แล้วที่ภรรยาพี่มาบอกว่า พอลูกไปเรียนเมืองนอก พี่เหงา จิตตก จนต้องพบจิตแพทย์เลยเหรอ?
เวลาไปอยู่โน้นคิดถึงพ่อไหม?
เจ้าขุน : "คิดถึง แต่เราก็ไลน์คุยกัน"
อย่างเจ้านาย เจ้าขุน ใครปรับตัวง่ายกว่ากันตอนไปเรียนเมืองนอก?
เจ้าขุน : "ขุนครับ เพราะขุนไปตั้งแต่เด็ก 11-12 ขวบ"
แต่เจ้าสมุทรใช่ไหมที่ไปแล้วไปเลย?
เจ้าขุน : "ก็ไปพร้อมกัน แต่เขาอินดี้ ติสท์"
เจ : "คือเจ้าสมุทรเขาไปตั้งแต่เด็กๆ คือที่โรงเรียนเขาจะมีวิธีบังคับการใช้โทรศัพท์ เขาจะไม่ให้โทรศัพท์มาใช้ตลอดเหมือนเด็กบ้านเรา เขาจะแจกแค่ตอนเย็นชั่วโมงเดียว เขาจะบังคับไม่ให้เด็กอยู่กับโทรศัพท์มากเกินไป"
เจ้าขุน : "แม่ดุถี่ แต่พ่อดุทีเดียวแล้วแบบแรงมาก"
ลูกกลายเป็นสามีแห่งชาติพี่หวงไหม?
เจ : "บ้านเราไม่เคยพูดว่า เห้ย ลูกผมเป็นสามีแห่งชาติ ไม่มีคำนี้จากปากเราอยู่แล้ว เพียงแต่คนเขาพูดกันให้มันสนุกสนาน ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย เขาก็ปกติอยู่บ้าน ก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรเลย แต่ถ้ามีคนชอบเราก็ดีใจ ขอบคุณด้วย"
เจ : "มันต้องดูที่พ่อก่อน ถือว่าโปรไฟล์ก็โอเค ได้แม่เขา แม่เขาสวย หน้าทรงมาจากคุณยายแล้ว ทางเราก็คงได้โครงสร้าง"
แล้วเรื่องความรักของหนุ่มๆ ตอนนี้มีแฟนไหม?
เจ้านาย : "มันก็ต้องมีคนคุยเนาะ ถ้าไม่มีก็คงจะเหงา แล้วก็เก็บตัวในห้องนั่งร้องไห้คนเดียว ไม่ใช่ขนาดนั้น ถามว่ามีแฟนไหม ไม่มีครับ"
เจ้าขุน : "โสดครับ"
เจ : "พ่อไม่หวงเลย"
ถ้าสมมติเราชอบใครแนะนำให้คุยกับใครก่อน พ่อ หรือ แม่?
เจ้าขุน : "พ่อ เพราะพ่อเป็นผู้ชาย"
แล้วสเปคต่างกันไหม เหมือนกันไหม?
เจ้านาย : "ไม่เหมือนครับ ของนายน่าจะเป็นสาวไทย ผมยาว จะมีอยู่ช่วงนึงที่กราฟมันใกล้เคียงกันจนหาทางสว่างเจอ นายว่าถ้าเจอแล้วเราชอบเขา เขาชอบเรา ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติแล้วเดี๋ยวมันไปเอง"
เจ้าขุน : "ถ้านิสัยดีก็โอเค ชอบไทย ชอบลูกครึ่ง มันอยู่ที่นิสัย"
เจ : "เราสอนแบบเป็นเพื่อนกัน คุยกันให้มากที่สุด ไม่มีความลับต่อกัน เพราะฉะนั้นจะมีทั้งพ่อและแม่ ถ้าเรื่องไหนที่คุยกับพ่อไม่สะดวกก็ไปคุยกับแม่ ถ้าเรื่องไหนคุยกับแม่ไม่สะดวกก็มาคุยกับพ่อ ทุกคนก็โอเพ่นสบายๆ "
แล้วพอเจอข่าวสอนลูกยังไง?
เจ : "เรื่องข่าวต่างๆ การที่เรามาอยู่ในสปอร์ตไลท์ มาอยู่ในแสงสว่าง โดนข่าวต่างๆ เนี่ย ตอนแรกเราก็กังวลนะ เจอแบบนี้ลูกก็อยู่ในวงการ เพราะลูกโตมาเขาก็มีชื่อเสียงเลย เราก็กังวลว่าพอเขาเริ่มรู้จักอะไร มาดูข่าว ดูอะไรจะเป็นไรไหม ปรากฎว่าสิ่งนั้นเราลืมคิดไปว่าเขาเป็นเด็กยุคเจนนี้ เขาเจออะไรเขาจะชินกว่าเรา รอบๆ ตัวเรามีพลังงานบวกที่ดี เราเจอคนที่ดี เราก็เก็บไว้ แต่สิ่งไหนไม่ดีก็ปล่อยไป"
https://www.facebook.com/teeneedotcom