พลอย คุยกับ ต้อม เป็นเอก แบบเผ็ดเวอร์!ถึงชีวิตหลังโดนสื่อแบน


พลอย คุยกับ ต้อม เป็นเอก แบบเผ็ดเวอร์!ถึงชีวิตหลังโดนสื่อแบน

เปิดบทสัมภาษณ์ พลอย เฌอมาลย์ กับ ต้อม เป็นเอก รัตนะเรือง ถึงหลากเรื่องหลายราวเบื้องหลังวงการบันเทิงแบบลึกถึงแก่น!

ก่อนอื่นอยากรู้ว่าการกลับมาเล่นภาพยนตร์อีกครั้งมันต่างจากการเล่นละครที่ผ่านมาไหม

พลอย : ชีวิตจริง การเล่นละคร การเล่นหนัง 3 อย่างนี้ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย เอาชีวิตจริงออกไปก่อนนะ ชีวิตจริงมันก็คือชีวิตจริง มันไม่เหมือนในละคร เล่นหนังก็แบบหนึ่ง เล่นละครก็อีกแบบหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าผู้กำกับอยากให้เป็นแบบไหน พลอยแค่รู้ว่าเวลาเล่นหนังพลอยเล่นเบอร์นี้ เวลาเล่นละครพลอยเล่นเบอร์นี้ จริงๆ พลอยก็อยากเล่นละครเบอร์เดียวกับหนังนะ แต่มักจะถูกบอกว่าให้แรงอีกๆ ซึ่งตอนหลังพอมาเล่นซีรีส์ก็ได้แสดงอะไรที่มันดูธรรมชาติมากขึ้น เหมือนหนังมากขึ้น เดี๋ยวนี้มันเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว

ถ้าให้พูดตรงๆ พลอยก็เบื่อเหมือนกันกับการที่ด่าเสร็จแล้วก็หันมารับกล้องสอง แล้วก็พูดกับตัวเองเหมือนอีบ้า คือนึกออกไหม ใครมันจะไปพูดกับตัวเอง เมื่อก่อนเซ็งมากเลยนะเวลาเจอบทที่พูดกับตัวเองประมาณ 5 บรรทัด พลอยนึกในใจ นี่มึงบ้าแล้ว อยู่กับนางเอกแป๊บหนึ่ง ทำเป็นหวานใส่ พอหันหลังปุ๊บพูดว่า ‘หึ แกโดนชั้นแน่' เดี๋ยวก่อนนะ นางเอกเขาไม่ได้ยินเลยเหรอที่กูด่า

คือมันก็ต้องปรับ เดี๋ยวนี้ละครเขาก็พัฒนามากขึ้น มันก็ท้าทายเราเหมือนกัน แต่ถ้าให้กลับไปเล่นเหมือนเมื่อก่อนพลอยก็เครียดนะ มีประโยคหนึ่งที่ต้องพูดซึ่งพลอยเกลียดมากเลย ปัจจุบันยังเจออยู่นะ แล้วเวลาเจอเราก็จะบอกว่าเอาประโยคนี้ออกไปเลยนะคะ



ต้อม : ประโยคอะไร

พลอย : ‘คนบ้า คนผีทะเล คนหลอกลวง ฉันจะไม่เชื่ออะไรคุณอีกต่อไปแล้ว' ยังมีอยู่ประโยคนี้ ไม่เจอมา 6 ปีแล้วมาเจออีกครั้ง เลยมองหน้าผู้กำกับ

ต้อม : ประโยคนี้กูต้องใส่ในหนังกูเรื่องต่อไปว่ะ ช็อตเปิดเลย (หัวเราะ) แต่เราเคยคุยกับกิ๊บซี่ (วนิดา เติมธนาภรณ์) คือกิ๊บซี่ไปเล่นเรื่อง ดอกส้มสีทอง แล้วละครเรื่องนั้นมันดังมาก กิ๊บซี่บอกว่า พี่อย่าไปคิดว่าเล่นละครแบบนั้นมันง่ายนะ มันไม่ง่าย มันใช้ทักษะอีกแบบหนึ่ง

พลอย : ใช่ มันไม่ง่าย แล้วตอนนี้พลอยทำงานถ่ายละคร พลอยมีโจทย์อย่างเดียวเลยว่าทุกครั้งจะเล่นอะไรที่คนไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วก็จะนั่งตื่นเต้นอยู่กับตัวเอง เราพยายามสร้างอะไรที่มันแปลกใหม่อยู่ ซึ่งมันยิ่งยาก เพราะเราไม่อยากเล่นอะไรที่คนเดาได้ว่าเดี๋ยวมันก็ทำอย่างนี้ เดี๋ยวมันต้องพูดอย่างนี้

การทำงานกับพี่ต้อมต่างกับการทำงานกับผู้กำกับคนอื่นๆ ที่ผ่านมาไหม

พลอย : พลอยว่าทำงานกับพี่ต้อมไม่ยาก ถ้ายังไม่ถูกใจเดี๋ยวพี่ต้อมก็ให้เล่นใหม่เอง ก็เล่นไปเรื่อยๆ อย่างเรื่อง Samui Song ซีนที่ร้องไห้นี่ 13 เทคติดต่อกัน ซึ่งปกติฉากมหกรรมร้องไห้อย่างนี้ มากสุด 5 เทคชั้นก็เอาอยู่แล้ว ซึ่ง 5 เทคนี่คือเผื่อเลือกเลยนะ เหลือเฟือไปเลย แต่นี่ 10 ก็แล้ว 11 ก็แล้ว ช่วง 11 หรือ 12 พลอยต้องบอกว่า ‘พี่ต้อม ขอไปพักก่อน เดี๋ยวกลับมาใหม่' เพราะว่าหัวมันเริ่มชา แล้วก็คิดว่า เอ๊ะ ทำไมเราทำไม่ถูกใจเขาสักทีวะ เริ่มเสียเซลฟ์ ไปนั่งคิดว่ากูแย่ลงหรือเปล่า หรือว่ายังไง แต่ก็เข้าใจว่าพี่เขากำลังพยายามหาอะไรสักอย่าง ก็ 13 เทคยาวไป


พลอย คุยกับ ต้อม เป็นเอก แบบเผ็ดเวอร์!ถึงชีวิตหลังโดนสื่อแบน

ระดับพลอยยัง 13 เทคเลยเหรอ
ต้อม : ใช่ แต่มันไม่เกี่ยวกับระดับฮะ คือระดับไหนก็โดนอย่างนี้ทั้งนั้น เพราะเราไม่ได้เป็นผู้กำกับแบบกำกับการแสดง แต่คล้ายๆ กับว่าเราต้องเห็นต่อหน้าว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งเราเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง ไม่ได้ใช้เทคนิคการแสดง ซึ่งมันยาก แล้วบอกไม่ได้ เราถึงต้องบอกนักแสดงทุกคนที่มาเล่นหนังเราว่าอย่าไปสนใจตัวเลขบนสเลทที่ตีนะ ตัวเลขจะเป็นเทค 1 หรือเทค 85 อย่าไปสนใจมัน ไม่ได้แปลว่ามึงเล่นเทคเดียวผ่านแล้วมึงเก่ง หรือไม่ใช่ว่าเล่น 20 เทคแล้วไม่ผ่านแปลว่ามึงไม่เก่ง แค่เรากำลังหาอยู่

แล้วตัวปัญหามันไม่ใช่มึง (หัวเราะ) ตัวปัญหามันคือโมเมนต์ที่จะเจอกัน ยังไม่นับว่าบางทีไอ้นี่เล่นดีฉิบหายแต่อีกคนเสือกไม่รอด หรือบางทีอีกคนดีฉิบหายแต่ไอ้นี่ดันเสือกไม่รอด หนังมันกี่องค์ประกอบล่ะ บางที 25 เทคผ่านไป โห ทั้งสองคนเพอร์เฟกต์แล้ว ตากล้องบอกขออีกเทค เมื่อกี้ out focus เราเลยบอกนักแสดงทุกคนที่เล่นหนังเราเลยว่าอย่าไปสนใจตัวเลขบนสเลท ตัวเลขบนสเลทไม่ได้บอกความเก่งของคุณเลย

คือชื่อชั้นของนักแสดงไม่ได้ส่งผลต่อความเกรงใจในการสั่งคัตในแต่ละเทคเลย

ต้อม : (หัวเราะ) ไม่มีผลครับ เกรงใจไม่ได้ เพราะเกรงใจปุ๊บเราจะมานั่งเสียใจกันทีหลังตอนเข้าไปห้องตัดต่อหรือตอนหนังเสร็จออกมาแล้ว เพราะมึงเสือกไปเกรงใจเขา เราเอาหนังสือของนักประพันธ์ระดับพี่วินทร์ เลียววาริณ, พี่วัฒน์ วรรลยางกูร มาทำเป็นบทหนัง เราไม่เคยเคารพหนังสือเขาเลยนะ แต่นั่นคือการเคารพที่สุด เพราะเราจะทำสิ่งที่เป็นหนังแล้วมันจะดีในแบบของมัน

เราเกรงใจใครไม่ได้ อาชีพผู้กำกับเป็นอาชีพที่ต้องมีความเห็นแก่ตัวสูงมาก ซึ่งเราไม่ได้ภูมิใจนะ ออกจะอายนิดๆ ในการทำอาชีพนี้ แต่มันเป็น fact ว่าถ้าเราเข้าใจทุกคนและไม่เห็นแก่ตัวมาก เราจะทำอาชีพนี้ไม่ได้ มันต้องไปทำอาชีพอื่น อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ไม่ว่าใครจะตายลงไปตรงไหนกูก็ต้องเอาคัตนั้นให้ได้ ไม่อย่างนั้นตอนจบทุกคนก็จะเสียใจกันหมด แต่ถ้าสุดท้ายหนังออกมาดี แล้วนักแสดงเขาได้รางวัลขึ้นมานะ โอ้โห เขาลืมหมดฮะ ไอ้ความโหดร้ายของเรา บางคนบอกด้วยว่า ‘พี่ อย่าลืมเอาหนูเล่นอีกล่ะ'

 

แล้วทำไมพี่ต้อมถึงเอาพลอยกลับมาเล่นอีกครั้งใน Samui Song หลังจากเคยร่วมงานกันตอน Last Life in the Universe

ต้อม : คือน้อยครั้งนะที่เราจะใช้นักแสดงซ้ำ แต่เราก็ถือว่า Last Life in the Universe พลอยเขาได้รับบทเล็กมาก บทมันเล็กไป และเดี๋ยวถ้าดู Samui Song ก็จะรู้ว่าทำไมเราเลือกพลอย เพราะว่าบทของนางเอกในเรื่องเขาเป็นดาราละครที่ชีวิตไม่ได้ราบรื่นนัก ซึ่งใครจะเหมาะไปกว่านี้

พลอย : เรานี่แหละ (หัวเราะ)

ต้อม : คือที่บอกว่าชีวิตไม่ได้ราบรื่นนักในเรื่อง Samui Song มันเป็นเรื่องความรักของตัวนางเอก แต่เราคิดว่าชีวิตจริงของพลอย ไอ้ความไม่ราบรื่นนักมันคือ เขาก็ไม่ใช่ที่รักของ...

พลอย : ทุกๆ คน

ต้อม : (หัวเราะ) ใช่ การเป็นนักแสดงในระดับท็อปขนาดนี้ในเมืองไทย เขาก็ไม่ได้มีชีวิตที่แฮปปี้กับสื่อแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เราคิดว่าเขาน่าจะเข้าใจความ suffer ของตัวละคร

พลอย คุยกับ ต้อม เป็นเอก แบบเผ็ดเวอร์!ถึงชีวิตหลังโดนสื่อแบน

จริงมั้ยที่พี่ต้อมเข้าใจอย่างนั้น

พลอย : โอ๊ย ไม่ต้องตอบค่ะ จริงไม่จริงทุกคนเขาก็รู้กันหมดว่าเราก็ suffer เหมือนกัน มันไม่ง่าย

ต้อม : ถามหน่อยสิ อันนี้อยากรู้เองนะ มันพูดได้มั้ยว่าปัญหาคืออะไร หรือพูดแล้วจะมีปัญหาหนักกว่าเดิม

พลอย : (หัวเราะ) ไม่หรอกค่ะ คือมันมีปัญหาหลายอย่าง ปัญหามันอยู่รอบๆ ตัวเรานี่แหละ เป็นร้อยเป็นพัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะจัดการปัญหานั้นให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดได้ยังไง ซึ่งมันก็ยากมากกับมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องมารับมือทุกอย่างให้ราบรื่นด้วยตัวคนเดียว ด้วยพลังสมองของคนคนเดียว พลอยก็ทำพลาดบ้าง หรือบางทีก็ทำได้ดีบ้าง บวกๆ ลบๆ กันไป แต่เป็นอะไรไม่รู้ ทำไมคนชอบตีกรอบหรือสร้างภาพว่าดาราเรื่องมาก ขี้วีน ขี้เหวี่ยง เหมือนดาราเป็นคนเลว

ต้อม : ไม่ แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่น่ารักมากกับสื่อไง นึกออกไหม หมายถึงเธอไม่ใช่คนที่แบบ ‘ได้ค่ะพี่ ได้ค่ะพี่'

พลอย : พลอยก็เป็นคนกลางๆ ไม่ใช่คน sweet อะไร คือไม่ใช่เสียงเบอร์สองแบบ ‘ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ อ่อ ไม่พร้อมค่ะวันนี้ เครียดมากเลยค่ะ ตอนนี้ไม่เหมาะกับความรักค่ะ ขอเวลาไปเรียนหนังสือก่อนนะคะ แล้วก็ต้องดูแลพ่อแม่ค่ะ' คือตอบเป็นดาร้าดารา แต่พลอยไม่เป็น
ต้อม : จากคนข้างนอกอย่างเรามองเข้าไป ด้วยความที่ไม่รู้ข้อมูลทั้งหมดนะ เราอยากรู้ว่าสื่อเขาต้องการอะไรจากพลอย

พลอย : เขาคงต้องการให้เราโมโหมั้ง แต่ตอนนี้คือเอาตัวออกห่างดีที่สุด ถ้ามีปัญหาวิธีดีที่สุดคือที่ไม่พูด เงียบดีที่สุด ไม่ต้องออกความคิดเห็นอะไรเลย คือเราอยู่ในจุดที่พยายามพูดก็แล้ว พยายามดีด้วยก็แล้ว ไกล่เกลี่ยก็แล้ว ประนีประนอมก็แล้ว มันก็ยังคงมีปัญหาอยู่ คือการจะให้ทุกคนเข้าใจเรามันเป็นไปไม่ได้เลย จะให้คนมารักพลอยหรือพร้อมที่จะเปิดใจมันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะทุกคนไม่ได้สัมผัสพลอยเท่าๆ กันหมด

ต้อม : แล้วโดนสื่อแบน ถูกแอนตี้ขนาดนี้ มันมีผลกับชีวิตไหม

พลอย : มันก็มีผล งานโฆษณาก็ถูกถอดออก เพราะคนเขาคิดว่าเราจะไม่มีงานแล้ว หรืออะไรต่างๆ มันก็ถาโถมเข้ามาหมด ถามว่าทรุดมั้ยในเรื่องสุขภาพจิต ทรุด เพราะรู้สึกว่าโลกไม่ยุติธรรม แต่เราก็ต้องเผชิญกับมันไป ต้องรักษาตัวเอง

 

ดูจากบุคลิกของพลอย หลายคนนึกภาพตอนทรุดไม่ออก
พลอย : ใครๆ ก็เป็นทุกคนเหรือเปล่าคะ

ต้อม : เห็นร้องไห้แล้วถ่ายรูปลงอินสตาแกรม

พลอย : ทีเดียว นานแล้ว ให้คนรู้บ้างว่าเราร้องไห้เป็น เพราะว่าปกติไม่ค่อยร้องให้ใครเห็น อันนั้นคือสุดจริงๆ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว พลอยก็เหมือนผู้หญิงทุกๆ คน เหมือนมนุษย์ทั่วๆ ไป คนเราต่อให้แข็งขนาดไหนก็มีจุดที่อ่อนเหมือนกัน แต่ว่าพลอยไม่ชอบแสดงด้านอ่อนแอให้ใครเห็นนอกจากคนที่สนิทจริงๆ ทุกวันนี้เวลาเครียดอะไรก็เก็บไปร้องไห้ที่บ้านคนเดียว แล้วขังตัวเองอยู่สองวันสามวันกว่าจะออกมา แม่ก็รู้ คนอื่นก็เริ่มรู้แล้ว ถ้าเราหายปุ๊บแสดงว่ามีเรื่อง เขาจะรู้ว่าพลอยเป็นคนที่เครียดปุ๊บจะไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย อยากจะร้องไห้ร้องไปเลย ร้องแล้วก็หยุดนะ แล้วก็คิดด้วยว่าจะทำยังไงให้ตัวเองหายดี

พลอย คุยกับ ต้อม เป็นเอก แบบเผ็ดเวอร์!ถึงชีวิตหลังโดนสื่อแบน

ชีวิตช่วงที่โดนแบนถือเป็นช่วงที่ชีวิตแย่ไหม

พลอย : แย่ คือไม่ใช่ว่าไม่มีงานแล้วแย่นะ แต่ว่าเรื่องความคิดของเรา เรื่องหัวใจของเรา มันค่อนข้างแย่มาก

ต้อม : เสียความมั่นใจด้วย

พลอย : เสียความมั่นใจมันไม่สำคัญหรอกพี่ มันเสียใจมากกว่า เสียใจว่าทำไมเราต้องโดนขนาดนี้ เหมือนโลกไม่ใช่ของเรา เหมือนโลกนี้ถ้าฉันก้าวขาออกไปนอกบ้านมีคนพร้อมเอามีดไล่แทง เรารู้สึกกลัวโลกภายนอกไปเลย กลัวการที่จะต้องเจอคน กลัวว่าออกไปแล้วจะเจอปัญหา กลายเป็นคนที่ไม่กล้าออกไปไหน ไม่กล้าสัมภาษณ์อะไร เพราะไม่อยากมีเรื่อง หลังจากมีเรื่องมีราวคนก็เอาประเด็นมาจะสัมภาษณ์พลอย พลอยก็บอกไม่สัมภาษณ์ค่ะ ไม่สะดวกค่ะ คือใครจะพูดอะไรว่าไปเลยค่ะ

เรื่องทุกอย่างบางทีมันต้องใช้เวลาจริงๆ เรื่องมันเยอะเหมือนกันนะ มันเหมือนถาโถมเข้ามา คนเราโดนมีดเล่มเดียวแทงพลอยทนได้ โดนแทงสิบเล่มพลอยทนได้ แต่ถ้าโดนแทงเป็นร้อยครั้ง พลอยก็ต้องมีร้องบ้าง แต่การที่พอโดนร้อยครั้งแล้วพูดแค่ครั้งเดียวว่า ‘กู เจ็บนะเว้ย' มันกลายเป็นแบบ อีนี่เลว อีพลอยเลว ทำไมทุกคนทำให้เรารู้สึกไม่มีพื้นที่ที่จะยืนในสังคมนี้เลย บางครั้งทำดีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ ทำอะไรผิดนิดหน่อยหาว่าเป็นคนชั่ว

ต้อม : แต่มันแปลกนะ ตรงที่ว่าเวลาคนดูพลอยเล่นหนัง เขาเอนจอยที่จะดูพลอยเล่นเป็นคาแรกเตอร์ร้ายๆ เหี้ยๆ แต่ชีวิตจริงห้ามเหี้ยนะ เวลาดูในจอนี่แบบกูอยากเห็นมันด่าคน กูอยากเห็นมันแซ่บ แต่ชีวิตจริงมึงด่าใครไม่ได้นะ มึงอารมณ์เสียไม่ได้นะ โคตรแปลก เป็นอาชีพที่แปลกฉิบหายเลย

แล้วดาราไทยเป็นดาราชาติเดียวในโลกที่เราเห็นว่าต้องออกมาขอโทษประชาชนอยู่เรื่อยเลย กูไม่เห็นแองเจลิน่า โจลี่ จะขอโทษใครเลย เขาเลิกกับผัวมีใครไปขุดคุ้ยอะไรเขาก็ fuck you (พลอยหัวเราะเสียงดัง) คือดาราไทยเอะอะตั้งโต๊ะขอโทษตลอดเวลา เลิกกับแฟนก็ต้องมาขอโทษประชาชน จะมาขอโทษประชาชนทำไมวะ

พลอย คุยกับ ต้อม เป็นเอก แบบเผ็ดเวอร์!ถึงชีวิตหลังโดนสื่อแบน

พลอย : เรื่องที่พี่พูดหนูก็พูดกับเพื่อน แต่หนูพูดออกสื่อไม่ได้ เดี๋ยวคนด่า ลองพูดสิ โดนเลยมึง (หัวเราะ) บ้านเราไม่ใช่ประเทศเสรี พูดทุกอย่างมันยาก มันต้องอ้อมๆ ให้คนอื่นพูดแทน

ต้อม : เป็นผู้กำกับง่ายกว่านะ พูดอะไรคนก็บอกว่า พี่เขาติสท์ พี่เขาติสท์ (หัวเราะ) สบายกู พี่เขาติสท์

พลอย : (หัวเราะ) อยากเป็นอย่างนั้นบ้างนะ อย่างเราจะทำอะไรบางทีก็อยู่ในจุดที่ผิดง่ายไปหมด

ต้อม : แล้วเราว่ายิ่งโลกมีโซเชียลฯ ดาราที่เป็นอย่างนี้ยิ่งต้องระวังตัวหนักเข้าไปอีก

พลอย : ไม่ต้องเป็นดาราหรอก แค่เป็นคนธรรมดายังแย่เลย เดี๋ยวนี้ข่าวในโซเชียลฯ มันจริงบ้างไม่จริงบ้าง คนก็แค่ copy paste แค่แคปรูปลง แคปข้อความลง มันง่าย มันไม่มีการคัดกรอง ไม่มีการไตร่ตรอง ซึ่งพลอยว่าเราเสียเวลากันกับเรื่องพวกนี้ทำไมไม่รู้

อ่านเต็มๆ >>>> 
บทสนทนารสเผ็ดของ ต้อม เป็นเอก และ พลอย เฌอมาลย์ ว่าด้วยวงการที่ทั้งรักทั้งชังและชีวิตหลังโดนสื่อแบน

พลอย คุยกับ ต้อม เป็นเอก แบบเผ็ดเวอร์!ถึงชีวิตหลังโดนสื่อแบน


พลอย คุยกับ ต้อม เป็นเอก แบบเผ็ดเวอร์!ถึงชีวิตหลังโดนสื่อแบน


พลอย คุยกับ ต้อม เป็นเอก แบบเผ็ดเวอร์!ถึงชีวิตหลังโดนสื่อแบน

ขอบคุณ ::::: readthecloud.co

พลอย คุยกับ ต้อม เป็นเอก แบบเผ็ดเวอร์!ถึงชีวิตหลังโดนสื่อแบน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : u18830008
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 103.58.148.23

103.58.148.23,,host23.148.thvps.com ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล


[ วันพุธ ที่ 15 มีนาคม 2566 เวลา 09:01 น. ]
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์