"ที่ประชาชนรักในหลวงมากมายขนาดนี้ไม่ใช่เพราะท่านคือพระมหากษัตริย์ แต่เพราะท่านคือพ่อของพวกเราทุกคน พ่อที่รักลูกทุกคนเท่ากัน พ่อที่ดูแลบ้านและลูกๆได้อย่างดีที่สุด พ่อที่ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้พวกเราสุขสบาย ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะทำให้เราไม่รักพ่อได้ ที่ประชาชนรักในหลวงเพราะว่าในหลวงรักประชาชน มันคือความผูกพันตั้งแต่เราเกิดมาแล้วรูปที่ติดในบ้าน ส่วนมากคือรูปที่สำคัญที่มีผลต่อจิตใจของผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้าน
รูปที่มีทุกบ้านคือรูปที่ทุกคนรู้สึกเหมือนกันว่าเป็นรูปที่สำคัญและมีคุณค่ามากๆ นั่นก็คือ "รูปของในหลวง" เพราะคนไทยอยู่กับสถาบันกษัตริย์มายาวนาน เราถึงรัก เคารพและเทิดทูนมาตั้งแต่เราเกิดมา เวลาที่เห็นรูปก็เหมือนมีกำลังใจ มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทำให้นึกถึงคำสอนของพระองค์ท่านเสมอ สำหรับรูปของพระองค์ท่านที่บ้านวิวมีอยู่หลายใบมากค่ะ ที่บ้านวิวรักและเทิดทูนพระองค์อย่างหาที่สุดไม่ได้ ตั้งแต่วิวจำความได้ก็เห็นรูปของพระองค์ท่านทั้งในห้องพระ ห้องหนังสือ มีรูปและหนังสือที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านอยู่จำนวนมาก เรารักเราผูกพันกับพระองค์ท่านมาตลอดเวลา เมื่อพระองค์ท่านเสด็จสวรรคต วิวรู้สึกสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
ตอนที่เรียนอยู่สตรีวิทยามีโอกาสได้ไปยืนรับเสด็จในหลวงกับพระราชินีหน้าโรงเรียน แถวนั้นก็คือราชดำเนิน ใกล้ๆกับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จำได้ว่าเป็นเวลาตอนหัวค่ำแล้วหลังจากเลิกเรียน นักเรียนยืนเข้าแถวยาวในมือถือธงจิ๋วคอยโบกรับเสด็จ สักพักนึงก็เห็นขบวนเสด็จมาเพื่อจะผ่านตรงวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่รถคันนึงได้ขับเข้ามาใกล้ๆแถวของนักเรียนตัวน้อยที่ยืนอยู่ นั่นก็คือรถยนต์พระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่๙ รถยนต์สีครีม เพราะในหลวงท่านเห็นว่าเด็กๆกำลังยืนรออยู่ ท่านถึงให้รถขับเข้ามาใกล้แล้วเปิดกระจกลง โบกพระหัตถ์ให้เด็กๆ จำได้ว่ารู้สึกตื้นตันใจมากๆ ทรงพระเมตตาต่อพวกเรามากๆ น้ำตาคลอเลย ขนลุกไปหมด เป็นครั้งเดียวที่ได้เห็นพระพักตร์พระองค์ท่านจริงๆค่ะ
ตั้งแต่เล็กจนโต รู้และตระหนักมาตลอดว่าในหลวงทรงงานหนักมาก จากคำบอกเล่าของผู้คนรอบตัว จากที่ได้เรียนในหนังสือเรียน และจากในข่าวพระราชสำนักที่ดูตามโทรทัศน์ ในหลวงท่านทำทุกๆอย่างเพื่อลูกหลานในประเทศไทยมาเยอะมากจริงๆ 70ปี เป็นเวลาที่ยาวนานมาก พระองค์ไม่เคยหยุดพักเลยแม้แต่วันเดียว ท่านต้องอดทนกับความเหนื่อยล้าเพื่อให้พวกเรามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี อยู่กันอย่างมีความสุข รอดพ้นจากความลำบากยากจน นั่นคือพระประสงค์ที่แท้จริง
โครงการพระราชดำริกว่าสี่พันโครงการ ถือว่าเกินกว่าคนปกติทั่วไปจะทำได้ แต่ในหลวงท่านทำเพื่อให้พวกเราประชาชนทุกคนโดยไม่หวังผลตอบแทน ทุกโครงการในพระราชดำริล้วนสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากความเดือดร้อนทั้งสิ้น ทุกวันนี้ที่เรามีกินมีใช้อย่างสะดวกสบายก็เพราะสิ่งที่พระองค์ท่านทรงปูรากฐานไว้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะมองไปทางไหน รอบตัวเราเกิดจากโครงการในพระราชดำริของพ่อหลวงทั้งนั้นสิ่งที่พระองค์ท่านทำมาตลอดระยะเวลานี้ทำให้รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินของพ่อ ขอให้ได้เกิดเป็นข้ารองพระบาทฯทุกชาติไป
"...ศิลปิน มีหน้าที่ที่จะดูว่ามีความรู้สึกอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและแสดงออกมาในทางของตน ดังนั้นศิลปินทุกฝ่ายจึงมีหน้าที่ที่จะตั้งจิตเจตนาที่บริสุทธิ์ เจตนาที่ดี ผลที่ออกมาก็ดี เป็นผลที่สร้างสรรค์ เป็นผลที่ทำให้โลกเรามีความเจริญก้าวหน้าโดยแท้จริง..." (พระราชดำรัส พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือสุพรรณหงส์ทองคำ วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๒๒)
วิวก็จะยึดเอาหลักธรรมคำสอนของพ่อหลวงมาใช้ในการดำเนินชีวิตให้เกิดประโยชน์ที่สุด ทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่นค่ะ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็ต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพของตน สำหรับตัววิวเองก็จะตั้งใจทำงานแสดงให้ดีที่สุด ใส่เจตนาที่ดีลงไปในงานที่ทำ ทุ่มเท ไม่ย่อท้อ ทุกๆผลงานที่ทำก็จะคิดว่าสามารถใส่อะไรเป็นความรู้ให้กับผู้ชมได้บ้าง จะรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดให้สมกับเป็น ศิลปินของพระราชา"
https://www.facebook.com/teeneedotcom