ล่าสุด เกรซ ได้เปิดใจผ่านรายการ วู้ดดี้ ว่า ก่อนที่จะถึงจุดนั้น ก็ต้องมีการยื่นหนังสือตามระเบียบของมหาวิทยาลัย มีเอกสารปรึกษาจิตแพทย์ 2 คน เพื่อยืนยันว่า เราเป็น transgender หรือ คนข้ามเพศ ซึ่งก็ได้รับการอนุมัติ และสิ่งที่ทำให้ขนลุก คือ วันที่ขานชื่อเราในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ไม่มีการขานว่า นาย หรือ น.ส. ซึ่งทำให้ดีใจว่า คนเข้าใจว่า เราคืออะไร และคำนำหน้าไม่สำคัญอีกต่อไป ว่า เราเป็นอะไร
เมื่อถามว่าทำไมเสียงจึงเหมือนผู้ชาย เกรซ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าตอนเด็กๆ ก็เสียงน่ารัก เคยพากษ์ก้านแก้ว แต่เมื่อโตเสียงก็เปลี่ยน แต่ก็เคยทำผิดพลาดด้วยการซื้อฮอร์โมนจากออนไลน์มาใช้ จนที่สุด ก็รู้ว่าเป็นสิ่งที่อันตรายและไม่ถูกต้อง จึงเข้าไปปรึกษาแพทย์ และช่วยให้รักษาเราอย่างถูกต้อง ทำให้รู้ว่าความรู้เรื่องทรานเจนเดอร์ (ข้ามเพศ) น้อยมาก ซึ่งปัจจุบัน เราก็อยู่ในการดูแลของแพทย์ หากจะทำอะไรต่อไป ก็จะบอกอีกที
"รู้ตัวว่าตัวเองไม่เป็นผู้หญิงตั้งแต่ ป.1 ถ้าใครได้รู้จักเกรซ ทุกคนจะมองข้ามเรื่องเพศไป หลังๆ ได้ถามเพื่อนว่าคิดยังไง เพื่อนก็บอกว่า เกรซ เป็นเกรซ และเข้าใจว่าคนไม่ได้กำหนดด้วยเรื่องเพศ แต่กำหนดด้วยความเป็นเขาจริง วันที่ทรมานที่สุด คือ การต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิงไปรับรางวัลสุพรรณหงษ์ วันที่ต้องใส่อายมากและไม่อยากไป แต่ตอนนั้นก็เด็กมากพูดไม่ได้ มันเศร้าและไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ต้องรักษาหรือเปล่า แต่ผ่านมาได้เพราะครอบครัว จนไม่อยากอยู่ในวงการเพราะกลัวว่าต้องเป็นอย่างที่สังคมอยากให้เป็น " เกรซ กล่าว
"ตลอดเวลาเราต้องใช้ชีวิตแอบๆ ไม่กล้าเข้าห้องน้ำในที่สาธารณะ วันนี้สบายใจที่ได้ออกมาพูด ได้เป็นตัวเอง และวันนี้อยากพูดแทนคนที่มีปัญหาเรื่องการข้ามเพศให้มากที่สุด จากการวิจัยพบว่า คนข้ามเพศ 50% เคยคิดฆ่าตัวตาย เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย และไม่ได้รับการยอมรับ ซึ่งหากมีคนไม่เข้าใจ ขอให้ใช้ชีวิตต่อไป และเชื่อว่า สักวันคนจะเข้าใจเราได้จริง"
ชมคลิปด้านล่าง
https://www.facebook.com/teeneedotcom