สัมพันธ์ร้าวฉานของ “แมดด็อกซ์” และอดีตพ่อบุญธรรม “แบรด พิตต์”
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดารานานาชาติ สัมพันธ์ร้าวฉานของ “แมดด็อกซ์” และอดีตพ่อบุญธรรม “แบรด พิตต์”
เผยสาเหตุ ความสัมพันธ์ร้าวฉานของ "แมดด็อกซ์" ที่มีต่ออดีตพ่อบุญธรรม "แบรด พิตต์" บาดแผลในใจที่ยากเกินจะลบเลือน แม้เวลาจะผ่านมาแล้วถึง 3 ปี หลังพ่อแม่บุญธรรมของเขาเลิกรากัน
ลองนึกภาพการมีพ่อแม่เป็นคนดัง โดยเฉพาะซุป'ตาร์ระดับโลกอย่างวงการฮอลลีวู้ด ในอีกด้านหนึ่งคุณอาจจะได้รับผลประโยชน์ ได้รับความสนใจจากคนรอบข้าง ได้ออกไปพบเจอผู้คนมากมายและได้ไปร่วมเดินพรมแดงพร้อมกับพ่อแม่พวกเขา ซึ่งดูแล้วมันก็น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ?
แต่ในทางกลับกัน ชีวิตของเด็กๆ เหล่านั้นอาจจะได้รับความสนใจที่มากเกินไป อย่างการถูกตามถ่ายรูปจากเหล่าปาปารัสซี่ตลอดเวลา ไม่มีความเป็นส่วนตัว แม้พ่อแม่ของพวกเขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะปกป้องลูกๆ จากสิ่งเหล่านั้น แต่ดูเหมือนว่าก็ไม่ค่อยเป็นผลมากนัก ซึ่งหนึ่งในครอบครัวที่ลูกๆ ของพวกเขาได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ เป็นอย่างมากเห็นจะเป็นเด็กๆ จากตระกูล Jolie-Pitt
ลองนึกภาพการมีพ่อแม่เป็นคนดัง โดยเฉพาะซุป'ตาร์ระดับโลกอย่างวงการฮอลลีวู้ด ในอีกด้านหนึ่งคุณอาจจะได้รับผลประโยชน์ ได้รับความสนใจจากคนรอบข้าง ได้ออกไปพบเจอผู้คนมากมายและได้ไปร่วมเดินพรมแดงพร้อมกับพ่อแม่พวกเขา ซึ่งดูแล้วมันก็น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ?
แต่ในทางกลับกัน ชีวิตของเด็กๆ เหล่านั้นอาจจะได้รับความสนใจที่มากเกินไป อย่างการถูกตามถ่ายรูปจากเหล่าปาปารัสซี่ตลอดเวลา ไม่มีความเป็นส่วนตัว แม้พ่อแม่ของพวกเขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะปกป้องลูกๆ จากสิ่งเหล่านั้น แต่ดูเหมือนว่าก็ไม่ค่อยเป็นผลมากนัก ซึ่งหนึ่งในครอบครัวที่ลูกๆ ของพวกเขาได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ เป็นอย่างมากเห็นจะเป็นเด็กๆ จากตระกูล Jolie-Pitt
ความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้ ภายนอกนั้นดูอบอุ่น เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะหย่าร้างกัน เวลาไปไหนมักยกกันไปเป็นขบวน ลูกๆ ของพวกเขามักอยู่ในสายตาของทั้งคู่ตลอด แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆ แล้วความสัมพันธ์ของ แมดด็อกซ์ ลูกชายคนโต เด็กชายชาวกัมพูชาและแบรด พิตต์ พ่อบุญธรรม เริ่มไม่ลงรอยและมีความตึงเครียดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งโจลี่และแบรดเลิกกัน แมดด็อกซ์ก็ยังมีทีท่าห่างเหินและเคยเผยด้วย "เขาไม่เห็นว่าตัวเองเป็นลูกชายของแบรด"
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2559 ข่าวการเลิกราของแบรดและโจลี่นั้นสร้างความเซอร์ไพร้ส์ให้กับใครหลายคนไม่ใช่น้อย เมื่อโจลี่ออกมาประกาศหย่าสามีที่ครองคู่มานานถึง 12 ปี ทำเอาคนทั่วโลกตกตะลึง เพราะไม่น่าเชื่อว่าคู่ที่เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันทั้งครอบครัว เป็นพ่อแม่ตัวอย่างที่รักลูกมากจะตัดสินใจแยกทางกัน
ซึ่งสาเหตุใหญ่อันเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้โจลี่และแบรดเลิกกันนั้น รวมถึงพ่อลูกเข้าหน้ากันไม่ติด โดยสื่อต่างประเทศได้เผยว่า ในช่วงเดือนกันยายน 2559 แบรด พิตต์และแมดด็อกซ์ได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ขณะที่ครอบครัวกำลังเดินทางจากฝรั่งเศสไปแอลเอ สหรัฐอเมริกา ซึ่งแหล่งข่าวอ้างว่า แบรด พิตต์ ที่อยู่ในสภาพเมามายได้ลงมือทำร้ายแมดด็อกซ์หลังจากที่เขาแสดงท่าทีว่ากำลังปกป้องโจลี่ เพราะหงุดหงิดที่ภรรยาขอร้องให้เขาเงียบลง
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าแมดด็อกซ์มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร สื่อบางสำนักได้รายงานเพิ่มเติมว่า อันที่จริงแล้วแบรด พิตต์ ไม่ได้ทำร่างกายลูกชาย เพียงแต่ใช้คำต่อว่าที่รุนแรงกับแมดด็อกซ์และโจลี่เท่านั้น
โดยเหตุการณ์นี้หน่วยคุ้มครองเด็กและครอบครัว ลอส แอนเจลิสได้เข้ามาสืบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า แบรด พิตต์ได้ลงมือทำร้ายแมดด็อกซ์จริงหรือไม่ ซึ่งผลจากการสืบสวนออกมาว่า แบรดจำทุกๆ อย่างในวันนั้นได้ เขาไม่ได้เมาจนขาดสติถึงขั้นทำร้ายร่างกายแมดด็อกซ์
ซึ่งสาเหตุใหญ่อันเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้โจลี่และแบรดเลิกกันนั้น รวมถึงพ่อลูกเข้าหน้ากันไม่ติด โดยสื่อต่างประเทศได้เผยว่า ในช่วงเดือนกันยายน 2559 แบรด พิตต์และแมดด็อกซ์ได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ขณะที่ครอบครัวกำลังเดินทางจากฝรั่งเศสไปแอลเอ สหรัฐอเมริกา ซึ่งแหล่งข่าวอ้างว่า แบรด พิตต์ ที่อยู่ในสภาพเมามายได้ลงมือทำร้ายแมดด็อกซ์หลังจากที่เขาแสดงท่าทีว่ากำลังปกป้องโจลี่ เพราะหงุดหงิดที่ภรรยาขอร้องให้เขาเงียบลง
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าแมดด็อกซ์มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร สื่อบางสำนักได้รายงานเพิ่มเติมว่า อันที่จริงแล้วแบรด พิตต์ ไม่ได้ทำร่างกายลูกชาย เพียงแต่ใช้คำต่อว่าที่รุนแรงกับแมดด็อกซ์และโจลี่เท่านั้น
โดยเหตุการณ์นี้หน่วยคุ้มครองเด็กและครอบครัว ลอส แอนเจลิสได้เข้ามาสืบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า แบรด พิตต์ได้ลงมือทำร้ายแมดด็อกซ์จริงหรือไม่ ซึ่งผลจากการสืบสวนออกมาว่า แบรดจำทุกๆ อย่างในวันนั้นได้ เขาไม่ได้เมาจนขาดสติถึงขั้นทำร้ายร่างกายแมดด็อกซ์
ภายหลังจากเหตุการณ์บนเครื่องบิน โจลี่ก็ได้ยื่นเรื่องฟ้องหย่าแบรด พิตต์ ด้วยเหตุผลที่ว่า "เข้ากันไม่ได้ และอารมณ์ของเขาจะส่งผลต่อการเลี้ยงดูเด็กๆ" ซึ่งแหล่งข่าว TMZ ได้เผยว่าแบรดมีปัญหาในการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นการมีอารมณ์ฉุนเฉียวกับเด็กๆ และยังมีการใช้กัญชา รวมถึงมีการดื่มแอลกอฮอล์ที่มากจนเกินไป ซึ่งโจลี่มองเห็นว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นอันตรายต่อเด็กๆ ได้
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นการฟ้องหย่าเพื่อให้สิทธิ์เลี้ยงดูลูกดูเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ เพราะทางแบรดเองก็ได้หลักฐานซึ่งเป็นเทปลับที่แฉอดีตภรรยาของเขาว่าเป็นพวกคลั่งยาเสพติด และนิยมเซ็กซ์วิตถาร ซึ่งหากเทปนี้หลุดออกไปโจลี่จะถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นผู้ดูแลลูกๆ ทั้ง 6 คนคือ น็อกซ์ และวิเวียน ลูกฝาแฝดของทั้งคู่ แม็ดดอกซ์, แพกซ์, ซาฮาร่า, ไชโลห์ ซึ่งเด็กทั้งสามคนนี้เป็นลูกบุญธรรมที่โจลี่อุปถัมป์มาเลี้ยง ทั้งนี้เทปเจ้าปัญหาของโจลี่นั้นก็ยังไม่ได้หลุดออกมาและไม่มีใครเห็นว่ามันจริงอย่างที่แบรดพูดหรือเปล่า
หลังจากเหตุการณ์บนเครื่องบินและการหย่าร้างของโจลี่และแบรด มีรายงานจากวงในว่า "แมดด็อกซ์ ไม่ต้องการเห็นพ่อของเขาอีก" และ "เขาไม่เห็นว่าตัวเองเป็นลูกชายของแบรด" จริงอยู่ที่ว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ออกมาจากแมดด็อกซ์โดยตรง แต่มีการคาดการณ์ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ซ่อมให้ดีเหมือนเดิม ดูจากการนัดเจอของแบรดกับลูกๆ แต่ไร้เงาของแมดด็อกซ์ ซึ่งเด็กหนุ่มมักใช้เวลาอยู่กับแม่ของเขามากกว่า
สถานการณ์ทั้งหมดดูเหมือนว่าจะมีผลกระทบยาวนานกับความสัมพันธ์ของแบรดและลูกชายของเขา แม้ว่าโจลี่ และแบรดจะเลิกรากันไปพักใหญ่แล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นการฟ้องหย่าเพื่อให้สิทธิ์เลี้ยงดูลูกดูเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ เพราะทางแบรดเองก็ได้หลักฐานซึ่งเป็นเทปลับที่แฉอดีตภรรยาของเขาว่าเป็นพวกคลั่งยาเสพติด และนิยมเซ็กซ์วิตถาร ซึ่งหากเทปนี้หลุดออกไปโจลี่จะถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นผู้ดูแลลูกๆ ทั้ง 6 คนคือ น็อกซ์ และวิเวียน ลูกฝาแฝดของทั้งคู่ แม็ดดอกซ์, แพกซ์, ซาฮาร่า, ไชโลห์ ซึ่งเด็กทั้งสามคนนี้เป็นลูกบุญธรรมที่โจลี่อุปถัมป์มาเลี้ยง ทั้งนี้เทปเจ้าปัญหาของโจลี่นั้นก็ยังไม่ได้หลุดออกมาและไม่มีใครเห็นว่ามันจริงอย่างที่แบรดพูดหรือเปล่า
หลังจากเหตุการณ์บนเครื่องบินและการหย่าร้างของโจลี่และแบรด มีรายงานจากวงในว่า "แมดด็อกซ์ ไม่ต้องการเห็นพ่อของเขาอีก" และ "เขาไม่เห็นว่าตัวเองเป็นลูกชายของแบรด" จริงอยู่ที่ว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ออกมาจากแมดด็อกซ์โดยตรง แต่มีการคาดการณ์ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ซ่อมให้ดีเหมือนเดิม ดูจากการนัดเจอของแบรดกับลูกๆ แต่ไร้เงาของแมดด็อกซ์ ซึ่งเด็กหนุ่มมักใช้เวลาอยู่กับแม่ของเขามากกว่า
สถานการณ์ทั้งหมดดูเหมือนว่าจะมีผลกระทบยาวนานกับความสัมพันธ์ของแบรดและลูกชายของเขา แม้ว่าโจลี่ และแบรดจะเลิกรากันไปพักใหญ่แล้วก็ตาม
โดยในช่วงเดือนกันยายน 2562 แมดด็อกซ์ที่บินไปเรียนต่อด้านชีวเคมี ที่มหาวิทยาลัยยอนเซ เกาหลีใต้ เขาได้ถูกปาปารัสซี่ตามถ่ายภาพและได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ In Touch Weekly โดยแมดด็อกซ์ถูกถามว่าพ่อของเขาจะไปเยี่ยมที่เกาหลีใต้หรือไม่ ซึ่งตัวเขาเองได้ตอบว่า "อืม ฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย" และเมื่อถูกถามถึงความสัมพันธ์ของเขากับแบรดว่าเป็นอย่างไร แมดด็อกซ์ก็ได้ตอบแบบคลุมเครือว่า "อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด"
อย่างไรก็ตาม แบรด พิตต์ เองก็ได้พยายามปรับความเข้าใจและเข้าหาลูกชายของเขา แต่ดูเหมือนว่าจะไร้ผล เพราะแมดด็อกซ์เองก็พยายามที่จะถอยห่าง ไม่ยุ่งด้วย ซึ่งแบรดก็ได้แต่ทำใจและยอมรับในความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปกับลูกชายของเขา
ปัจจุบันการต่อสู้ในชั้นศาลเกี่ยวกับสิทธิในการเลี้ยงดูเด็กๆ ทั้ง 6 คน ที่มีอย่างยาวนานมาถึง 2 ปีครึ่ง ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็สามารถตกลงกันได้ โดยแบรดได้คืนสถานะโสดให้กับโจลี่ และได้เซ็นยินยอมในข้อตกลงเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูลูกทั้ง 6 คน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของลูกๆ ของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม แบรด พิตต์ เองก็ได้พยายามปรับความเข้าใจและเข้าหาลูกชายของเขา แต่ดูเหมือนว่าจะไร้ผล เพราะแมดด็อกซ์เองก็พยายามที่จะถอยห่าง ไม่ยุ่งด้วย ซึ่งแบรดก็ได้แต่ทำใจและยอมรับในความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปกับลูกชายของเขา
ปัจจุบันการต่อสู้ในชั้นศาลเกี่ยวกับสิทธิในการเลี้ยงดูเด็กๆ ทั้ง 6 คน ที่มีอย่างยาวนานมาถึง 2 ปีครึ่ง ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็สามารถตกลงกันได้ โดยแบรดได้คืนสถานะโสดให้กับโจลี่ และได้เซ็นยินยอมในข้อตกลงเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูลูกทั้ง 6 คน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของลูกๆ ของพวกเขา
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom