ประสบการณ์สุขภาพพ่อเตือนสติ แหม่ม-วิชุดา หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า เจ้มิ้นท์ สาวร่างบางจากละคร เป็นต่อ ที่ทุกวันนี้เธอใช้ชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท เพราะมีประสบการณ์สุขภาพของพ่อ คอยเตือนสติอยู่เสมอ
การทำงานในวงการบันเทิงรวมถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้น เป็นแรงผลักดันหนึ่งที่ทำให้เธอหันมาดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น ทุกวันนี้เธอใส่ใจกับตัวเองเป็นอย่างมาก ทั้งการออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร การนอนหลับพักผ่อน จะมีก็แต่เรื่องอาหารเสริมเท่านั้นที่ไม่เคยอยู่ในความคิดเธอ เนื่องจากเป็นคนไม่กล้าลองเพราะกลัวว่าจะสะสมในร่างกาย จึงไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง กอรปกับที่ตัวเองมีโรคประจำตัวอยู่คือภูมิแพ้ ยิ่งช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ พักผ่อนน้อยๆ ก็จะเกิดอาการแพ้ฝุ่นละอองต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เธอจึงต้องใส่ใจกับการดูแลสุขภาพมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
แหม่มเป็นโรคภูมิแพ้มาเกือบ 10 ปีแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีอาการรุนแรงอะไร เพราะด้วยความที่เรารู้ตัวเองตลอดเวลาว่าเป็นอะไรจึงจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้เหมาะสมด้วยการติดเครื่องฟอกอากาศไว้สำหรับกรองฝุ่น ส่วนที่นอนก็ต้องมีผ้าคลุมสำหรับป้องกันพวกไรฝุ่นที่จะมาเกาะ ซึ่งพอเราทำแบบนี้ที่บ้านแล้วติด เวลาต้องไปนอนพักตามโรงแรมหรืสถานที่อื่น และเรารู้ว่าที่นั่นไม่มีผ้าคลุมเตียง มันก็จะรู้สึกคันตามตัว ทั้งที่จริงๆ แล้วมันอาจจะไม่มีอะไร แต่ข้อดีของการที่เราเป็นคนรักสะอาดแบบนี้ก็ส่งผลดีถึงทุกคนในบ้านด้วย แม้เขาจะไม่ได้เป็นภูมิแพ้เหมือนแหม่มก็ตาม..คงไม่มีใครอยากให้คนเห็นเราแล้วทักว่า ไม่สบายหรือเปล่า? แต่อยากให้คนทักว่า ทำไมเขาดูดีและสดชื่นจัง แหม่มก็เป็นแบบนั้นค่ะ ส่วนเรื่องสวยหรือไม่สวยแหม่มว่ามันไม่สำคัญ มันอยู่ที่ความสดใสที่เราแสดงออกให้คนเห็นภายนอกมากกว่า
เห็นหน้าตาสดใสแบบนี้ แต่เมื่อเธอย้อนเล่าถึงประสบการณ์สุขภาพอันเลวร้ายของพ่อ ทำให้เราถึงกับอึ้งและทึ่งในตัวผู้หญิงคนนี้มากๆ ที่เธอสามารถก้าวผ่านเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาได้
ถึงตอนนี้เป็นเวลา 1 ปีเต็ม ที่คุณพ่อแหม่มเป็นอัมพฤกษ์ สาเหตุเกิดจากการที่ท่านเป็นความดันสูงแล้วดื่มเหล้า ทำให้เส้นเลือดในสมองแตก โชคดีที่รอดชีวิตแต่ก็ต้องมาทุกข์ทรมานกับอาการอัมพฤกษ์ที่ช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้ สิ่งที่แหม่มทำได้ดีที่สุดในตอนนั้นก็คือช่วยดูแลท่านอย่างเต็มที่ และพยายามหาทุกวิถีทางที่จะรักษาให้ท่านหาย ใครบอกว่าหมอที่ไหนรักษาอัมพฤกษ์หาย แหม่มก็จะพาคุณพ่อไปทุที่ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไป แหม่มไม่เคยมองว่ามันคือภาระหน้าที่ๆ เราต้องทำแต่กลับมองว่ามันคือสิ่งที่เราสมควรทำ แหม่มคิดว่าใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็คงทำเหมือนแหม่ม มันเป็นความทุกข์ที่เราต้องซ่อนไว้ในใจ เพราะต้องมาเห็นคนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพ่อตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่ถึงเราจะทุกข์แค่ไหนก็คงไม่เท่ากับตัวพ่อที่ทนทุกข์ทรมานมากกว่าเราเป็นร้อยเป็นพันเท่า
ช่วงแรกๆ ที่รู้ว่าคุณพ่อไม่สบาย น้ำหนักเธอลดลงไปเกือบ 10 กิโล เพราะคิดมาก ผ่านไป 3 เดือนจึงเริ่มทำใจได้ เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นน้ำหนักก็ขึ้นมา 2-3 กิโล แต่ก็กลายเป็นคนกินอะไรไม่ค่อยลง.. วิธีรับมือกับความเครียดตอนนั้นของเธอก็คือการนอน เมื่อไหร่ที่เครียดก็จะนอนหลับ เพราะเธอมองว่าการนอนหลับเป็นการพักผ่อนสมองที่ดีที่สุด ดีกว่าการอ่านหนังสือหรือฟังเพลง เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ยังตื่นอยู่สมองก็ยังคิดวนเวียนแต่เรื่องเดิมๆ ถ้าหลับไปแล้วตื่นมาก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้น
แหม่มรู้ค่ะว่าพ่อเศร้า ..เพราะเมื่อก่อนแหม่มเห็นพ่อร้องไห้เกือบทุกวัน เวลาแหม่มอยากเจอพ่อก็ต้องไปหาท่านที่สถานที่ดูแลคนป่วยซึ่งเป็นโรคนี้เฉพาะ เนื่องจากมีคนคอยดูแลตลอดเวลา ทุกครั้งที่แหม่มไปหาเราก็จะกอดกันร้องให้แต่อีกสำนึกหนึ่งบอกแหม่มว่า เราจะร้องไห้ไม่ได้ เราต้องเข้มแข็ง แต่พอขับรถกลับออกมาแหม่มก็จะร้องไห้ทุกที มันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานจิตใจมาก ..แต่เมื่อเวลาผ่านไปอะไรต่างๆ มันก็ดีขึ้น แหม่มพาคุณพ่อไปหาหมอที่ท่านชอบ ก็ช่วยทำให้ท่านรู้สึกดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ถ้าจะให้หายกลับมาเป็นเหมือนเดิมนั้นคงต้องใช้เวลา
ประสบการณ์สุขภาพที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อสอนแหม่มว่า เวลาที่ร่างกายเราปกติไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร เราก็ควรที่จะดูแลตัวเองให้ดี อย่าใช้ร่างกายเปลืองมากเพราะร่างกายคนก็เหมือนรถยนต์ที่ย่อมมีวันหมดอายุเสื่อมสภาพ หมอหรือใครเตือนก็ควรรับฟังบ้าง อย่าไปฝืนทำเพราะวันหนึ่งถ้าเราเป็นอะไรขึ้นมาทั้งตัวเราและคนรอบข้างก็จะตกอยู่ในความทุกข์เช่นเดียวกัน อย่ารอให้เป็นอะไรเสียก่อนแล้วค่อยกลับมาคิดว่า รู้ว่าจะเป็นแบบวันนี้ไม่ดื้อดีกว่า แหม่มไม่อยากให้ผู้สูงอายุทั้งหลายคิดเอาเองว่าแค่นี้แค่นั้นไม่เป็นไร ลูกหลานท่านคงไม่อยากเห็นคนแก่ไม่มีความสุขไม่อยากให้ท่านรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนแก่เป็นภาระที่ต้องนั่งรอให้คนอื่นมาดูแล ใครที่ไม่เจอกับตัวเองก็คงไม่รู้
สุขภาพของคนเราเปรียบได้กับสมบัติที่มีติดตัวเราทุกคนมาตั้งแต่เกิด บางคนอาจจะมีสุขภาพที่สมบูรณ์ทุกอย่าง แต่บางคนอาจจะมีสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์ ดังนั้นเรามีอะไรติดตัวมาก็เราก็ควรที่จะรักษามันไว้และทำให้แข็งแรงขึ้น อย่าไปทำลายมันให้แย่ลง เหมือนบางคนเกิดมาก็มีคนเพราะพ่อแม่รวย แต่เมื่อใช้ไปเรื่อยๆมันก็หมดเพราะเราไม่รู้จักสร้างเอง สุขภาพก็เช่นเดียวกัน เกิดมาเรามีร่างกายครบ 32 แต่กลับไปกินเหล้าเมา ขับรถ แขนหัก พิการ นั่นคือเราทำตัวเองอย่าไปโทษใคร เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะดูแลสุขภาพกันให้ดี ไม่อยากให้ทุกคนต้องมานั่งเสียดายเวลาที่ผ่านไป


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว
https://www.facebook.com/teeneedotcom