เทียบจะจะ!!..เหตุผลพี่มากและหัวใจของโกโบริ

เรื่องแรกกำลังทะยานสู่ 300 ล้านบาท ขณะที่อีกเรื่องไต่ระดับอยู่ที่ 30 ล้าน!ตัวเลขที่แตกต่างกัน (แค่เลขท้าย) อดไม่ได้ที่จะนำมาเปรียบเทียบ

การตีความใหม่กับเรื่องที่คนมีความคุ้นเคยและอยู่ในความทรงจำ ท้าทายผู้สร้างยุคนี้ว่าจะหนีจากภาพจำเดิมๆ ได้หรือไม่

 ส่วน "คู่กรรม" เลือกที่จะตัดทอนรายละเอียดเพื่อชูให้ "โกโบริ" โดดเด่น ก็ถือว่ากล้าไปอีกแบบ แต่ทำแล้วมีเหตุผลรองรับพอที่จะทำให้เรื่องดูกลมหรือสมบูรณ์ขึ้นหรือเปล่า ต้องลองไปชมกัน 

 หากมองในส่วนที่เหมือนของทั้ง 2 เรื่อง คือการเลือกนักแสดงในระดับแม่เหล็ก ก็นับว่าสูสี

 "ณเดชน์" ในบทของ โกโบริ ทำให้เชื่อในตัวตนของทหารหนุ่มญี่ปุ่น เรื่องนี้เขาเล่นได้ดีทีเดียว

  ส่วน "มาริโอ้" ที่สวมบทเป็น "พี่มาร์คฟันดำ" ก็ไม่น้อยหน้า บทรักบททะเล้นบวกกับน้ำเสียงแบบฝรั่งเหน่อ เรียกความประทับใจไปไม่น้อย

 หันมาดู 2 สาวนักแสดง "ใหม่" ดาวิกา สวยคมบาดจิตบาดใจ บทจะเฮี้ยนก็ดูน่ากลัว แต่พอบทรักก็ดูหวานไปทั้งตัวเช่นกัน

ส่วนน้องใหม่ "ริชชี่" กับบทบาทของ "อังศุมาลิน" ยอมรับว่าเผลอเอาใจช่วยตั้งแต่ก่อนชม เพราะเธอแสดงเป็นครั้งแรก แถมยังเป็นซีนอารมณ์แบบหนักหนาสาหัส ไม่ง่ายเลยที่จะดึงความรู้สึกที่ขัดแย้งในตัวเองออกมาให้คนดูเข้าใจ ถือว่าเจอบทหิน แต่เห็นความพยายามของน้องและผู้กำกับที่ทำอย่างเต็มที่

 ส่วนประกอบอื่นๆ ที่ส่งผลให้เรื่องสนุก ก็ยังมีเรื่องของบท ฉาก และความสมจริงอื่นๆ

สำหรับในส่วนที่เป็นนักแสดงสมทบ...คู่กรรมของผู้กำกับ กิตติกร เลียวศิริกุล เลือกที่จะตัดทอนบทของ แม่ พ่อ ยาย วนัส ตาผล ตาบัว ชาวบ้านร้านตลาด แต่ให้ความสำคัญกับฉากสงคราม พิธีแต่งงาน และการเดินเรื่องที่มีกลิ่นอายของหนังญี่ปุ่น มีเสียงวอยซ์โอเวอร์ ที่เราจะได้ยินเสียงนางเอกนึกในใจบ่อยๆ เพลงประกอบดูวัยรุ่นไม่หนักเหมือนเพลงที่ต้องไปพบกันบนทางช้างเผือก

  ด้าน "พี่มาก" ของผู้กำกับ "โต้ง" บรรจง ดูจะเน้นไปที่บท...เหนือไปจากบทที่ขยี้ใหม่ จนกลายเป็นหนังผีโรแมนติกคอมเมดี้แล้ว บทยังส่งให้เกลอทั้ง 4 ของพ่อมาก ฮากระจายแทบทุกช็อต ฉากสนามรบก็บิวท์ให้รู้สึกจริงจังได้ แถมยังทิ้งท้ายให้คิดเล่นๆ ว่าแท้จริงแล้วใครกันหนอที่เป็นผี

ตำนานกับบทประพันธ์ทั้ง 2 เรื่อง วัดกันที่มุมมองของผู้กำกับจริงๆ

 สิ่งที่รู้สึกได้จากหนังน่าจะเป็นข้อคิดดีๆ...

 เราจะอยู่ได้อย่างไร หากแตกต่างกันคนละโลก (พี่มาก)

และในความเป็นจริงจะเป็นไปได้มั้ยถ้า “คุณมีเหตุผลของคุณ ผมมีหัวใจของผมก็พอแล้ว” (คู่กรรม) 

หรือจะเอาประโยคฮาๆ ในโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กตอนนี้ "รอผัว จนตัวตาย" และ "เล่นตัว จนผัวตาย" ก็ดูอินไปอีกแบบ 555

ไปดูหนังไทยกันเถอะค่ะ ดูแล้วจะวิพากษ์วิจารณ์จะติจะชม ก็เต็มที่เลย ดิฉันเชื่อว่าเสียงเหล่านี้จะดังไปถึงผู้ผลิต ที่จะสร้างงานคุณภาพดีๆ ให้เราได้ชมกันต่อไป