สื่อยักษ์ใหญ่ของไต้หวัน เปิดเบื้องลึกสาเหตุการหย่าของจ้าวลี่อิง กับเฝิงเส้าเฟิง

ตามรายงานของสื่อไต้หวันบอกว่า สาเหตุที่แท้จริง มาจากเส้นทางการใช้ชีวิต และการงานของทั้งคู่แตกต่างกันมากเกินไปหลายคนรู้ว่าเฝิงเส้าเฟิง นั้นบ้านรวยเขาเป็นทายาทนักธุรกิจรุ่นที่ 2 การที่มาทำงานในวงการเป็นความชอบส่วนตัวของเขาล้วนๆ ไม่เกียวกับเรื่องรายได้ แต่จ้าวลี่อิงพื้นฐานเป็นชาวนา การที่เธอประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ นอกจากความโชคดีแล้วก็เพราะเธอทำงานอย่างหนัก เธอต้องดิ้นรนต่อสู้อย่างมาก กว่าจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้

ดังนั้นสำหรับจ้าวลี่อิงงานมีความสำคัญกับเธอมาก ถ้าเสียงาน เสียฐานะในวงการที่เธออยู่ตอนนี้ไป เธอจะรู้สึกไม่มั้นคง จะเห็นได้ว่าหลังคลอดลูกแล้วเธอก็ เธอใช้เวลาพักพื้นเพียงครึ่งปี ก็กลับมารับเต็มตัวเหมือนเดิมแล้ว ซึ่งตรงนี้จะต่างจากเฝิงเส้าเฟิง ช่องว่างระหว่างทั้งสองคนยิ่งมาก็ยิ่งห่างไกล
เพราะการศึกษาและภูมิหลังที่ต่างกันแบบนี้ ทำให้พ่อและแม่ของเฝิงเส้าเฟิง ไม่ชอบจ้าวลี่อิงไปด้วย โดยมักจะตำหนิเธอต่อหน้าว่าไม่ได้ดูแลหลานชายของพวกเขาให้ดีพอ หากไม่ใช้เพราะท้องเกรงว่าจะไม่รับลูกสะใภ้คนนี้

อีกอย่างจ้าวลี่อิงมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด จากคำสัมภาษณ์ของเฝิงเส้าเฟิง ยอมรับว่าหลังคลอดลูกชายแล้ว ลี่อิงมีอารมณ์อ่อนไหวง่าย เธอมักจะร้องไห้บ่อยๆและการหวนกลับคืนวงการของเธอหลังจากหายหน้าไปปีกา่าๆ ก็มีความกดดันมากเธอเครียดจนผมร่วง โดยมีภาพเธอใส่วิกออกงานถ่ายแบบปกนิตยสารหนึ่งอย่างชัดเจน และเธอยังพยายามขอ กองถ่ายใช้ช่างแต่งหน้าและสไตลิสต์ประจำตัวของเธอเองด้วยเพื่อปรับสภาพอารมณ์ของเธอให้กลับเป็นปกติโดยเร็วที่สุด และเป็นการลดแรงกดดันในการทำงาน ลี่อิงจะหลีกเลี่ยงการรับงานอีเว้นต์ใหญ่ เธอจะรับแต่งานถ่ายแบบปกนิยสาร สัมภาษณ์ และโฆษณา เล็กๆน้อยๆ

นอกจากนี้ทั้งสองคนเป็นดารา ทำให้ต้องเดินสาย ตามกองถ่ายไปตามที่ต่างๆ ทำให้ไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน ดังนั้นการเลียงดูลูกส่วนใหญ่จะเป็นที่บ้านของเฝิงเส้าเฟิง จ้าวลี่อิงทำได้แค่ไปหาลูก ในตอนที่เธอมีเวลาว่างเท่านั้นที่ว่าหลังจากหย่าแล้วจะช่วยกันเลี้ยงดูลูกนั้นก็ไม่จริง คนวงในบอกจ้าวลี่อิงต้องการเอาชนะเฝิงเส้าเฟิง ในอนาคตเธอมีแผนจะเอาลูกมาอยู่ด้วยจะเห็นว่าจากสาเหตุต่างๆที่ทับซ้อนกันอยู่ ความสัมพันธ์ของทั้งคูู่จึงจบแบบนี้ ความรักที่สวยงาน มักสู้ความจริงเรื่องฟืน ข้าว น้ำมัน เกลือ และปัญหาเล็กๆน้อยๆไม่ได้ หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว การตัดสินใจของทั้งสองคนอาจเป็นผลดีต่อทั้งคู่ก็ได้ ก็หวังว่าต่อไปในอนาคตทั้งคู่จะเจอเส้นทางชีวิตที่เหมาะกับตัวเอง