สื่อนอกเม้าส์สนั่นมุมมืดของ ฟ่านปิงปิง อดีตนางเอกซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 กำลังถังแตก!

คนจีนไม่ได้ให้ความสำคัญกับศิลปินและนักแสดงเพียงแค่มีฝีมือการแสดงเท่านั้น เพราะพวกเขายังมองลึกไปถึงพฤติกรรมนอกจอ หากประพฤติไม่ดีก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนรักได้ ดังเช่นกรณีของ ฟ่านปิงปิง นางเอกซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ที่หลบเลี่ยงการจ่ายภาษี แม้ตอนนี้ปัญหาจะถูกสะสางแล้ว แต่เธอไม่สามารถยืนในวงการบันเทิงได้เหมือนเดิม

ไม่ใช่แค่นางเอกสาวเท่านั้นที่โดนแรงกดดัน แต่ผู้จัดที่ว่าจ้างเธอก็มักจะถูกตำหนิ มันไม่สมควรเลยที่จะว่าจ้างนักแสดงที่มีข่าวในทำนองนี้ ซึ่งนั่นกลายเป็นปัญหาใหญ่ในการกลับเข้าสู่วงการบันเทิงของเธอจนถึงตอนนี้ จากดาราระดับเอลิสต์ที่ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรก็มักจะเป็นที่สนใจของคนและสื่อมวลชนเสมอ แต่ปัจจุบันเธอไม่มีพื้นที่ปฏิเสธหรืออธิบายข่าวลือใดๆ เลย

ล่าสุดฟ่านยังเผชิญปัญหาข่าวลืออย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ "Toggle" (สื่อสิงคโปร์) ได้รายงานข่าวฉาวของอดีตนางเอกซูเปอร์สตาร์ในหลายๆ ประเด็น โดยประเด็นที่พวกเขาเปิดเผยคือ ในช่วงที่เธอมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องภาษีและต้องรวบรวมเงินจำนวน 4 พันกว่าล้านบาทมาเสียค่าปรับ นางเอกที่ขึ้นชื่อว่าสวยและรวยมากได้ยืมเงินจากเพื่อนราว 400 ล้านหยวน หรือประมาณ 1,700 ล้านบาท ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าแม่พรีเซ็นเตอร์ที่ครองแชมป์หลายสมัยยังต้องถูกปรับเงินอีกจำนวนมาก เนื่องจากแบรนด์ต่างๆ กว่า 122 ราย เรียกร้องค่าเสียหายทั้งในเรื่องของการทำภาพลักษณ์เสีย รวมถึงโฆษณาที่ถ่ายไปหลายชิ้นไม่สามารถแพร่ภาพเธอได้เนื่องจากคดีของเธอ มีการประมาณการณ์ว่าค่าปรับนี้สูงถึง 600 ล้านหยวน หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท

สื่อนอกเม้าส์สนั่นมุมมืดของ ฟ่านปิงปิง อดีตนางเอกซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 กำลังถังแตก!

นอกจากนี้เธอยังถูกเม้าส์ว่ากำลังจะถังแตก เพราะมีข่าวซุบซิบว่าทนายของเธอไล่ฟ้องร้องชาวเน็ตที่โพสต์หมิ่นประมาทเธอ เธอชนะคดีและได้รับค่าเสียหายไปจำนวนไม่น้อย นอกจากนี้ยังมีข่าวว่านางเอกคนดังที่มีภาพลักษณ์หรูหราได้ปรากฏตัวใน Live (คล้ายๆ กับไลฟ์สดขายครีม) ร่วมกับ "ซื่อหลี่" เน็ตไอดอลคนดังเพื่อขายแผ่นมาส์กหน้า "Fan Beauty" แม้จะดูไม่เหมือนฟ่านในอดีตเท่าไหร่ แต่การไลฟ์ครั้งนั้นก็สามารถทำเงินได้ถึง 10 ล้านหยวน หรือ 43 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ข่าวลือเรื่องที่ว่าเธอกำลังถังแตกดูจะไม่สอดคล้องกับภาพล่าสุดของเธอที่สนามบินนัก เมื่อที่นิ้วของเธอยังมีแหวนเพชรมูลค่า 196 ล้านบาท ติดตัวอยู่เช่นเดิม