แทค ซวย เหตุหน้าคล้าย บีม ตำรวจซิวผิดตัว !!!


“แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม” “แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม”


ตกเป็นผู้ต้องสงสัยโดยไม่รู้ตัว

     สำหรับหนุ่ม
แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งเรื่องกับทางสื่อมวลชนพบว่าพบหนุ่มแทคขับรถ ชนแล้วชิ่ง แถมยังฝ่าด่านตรวจของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเมื่อมีการตรวจค้นยังพบอาวุธปืนและวิทยุสื่อสารซึ่งไม่ได้รับอนุญาตในการ มีไว้ในครอบครอง แถมยังตรวจพบการตกแต่งรถยนต์คล้ายรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย

     แต่เมื่อตรวจสอบอีกครั้งกลับ กลายเป็นการแจ้งชื่อผิด ซึ่งคนที่ถูกตำรวจเรียกตัวนั้นเป็นดีเจหนุ่มไฮโซ
บีม-ศรัญยู ประชากริช ไม่ใช่หนุ่ม แทค ภรัญญู แต่อย่างใด จากกรณีดังกล่าว หนุ่มแทค เลยจัดแถลงข่าวที่สตูดิโออาร์เอสฯ วานนี้ (25 พ.ย.)

     เรื่องราวทั้งหมดก็ เหมือนกับที่พวกพี่ ๆ ได้เห็นจากข่าวที่เสนอว่า ผมขับรถฝ่าด่านไปชนกับตำรวจ แล้วก็ขับรถหนี ตอนแรกที่ได้ข่าวตกใจและก็งงด้วย ก็จะมีข่าวตั้งแต่ตอนกลางคืนและตอนเช้า 10 โมง ซึ่งถ้าเป็นตอนกลางคืนผมทำรายการอยู่ที่อาร์เอส ส่วนตอน 10 โมงผมยังไม่ตื่นเลย มารู้ข่าวอีกทีตอนประมาณ 11 โมง เพราะเปิดดูจากสถานีช่องนึง ไม่ขอบอกว่าเลขอะไร ตอนนั้นก็ตกใจเหมือนกัน ส่วนทางตำรวจก็ดูเป็นจริงเป็นจังมาก โฟนอินแจ้งข้อหานั้นข้อหานี้ คือคนบริสุทธิ์อย่างเราก็ตกใจและงง

     ตอนที่ตำรวจสัมภาษณ์ก็ เอ่ยชื่อผมเต็มเลยว่า
แทค ภรัณยู ขับรถฝ่าด่านแล้วก็มีภาพผมด้วย ผมก็รู้สึกงงว่าไปทำอะไร แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมถึงมาพูดอย่างนี้ หลังจากที่ทราบเรื่องผมก็โทรหาป๊าก่อนเลย ก็ชี้แจงให้เขาฟังเขาจะได้ไม่ตกใจ แต่แม่ผมทราบเรื่องแล้ว เขาก็ดูน้ำเสียงกระโตกกระตากมาก ผมเองก็เข้าใจแม่เพราะเขามีผมคนเดียว

    
คือตัวผมอยู่ไกลจากบ้าน ครอบครัวผมอยู่เชียงใหม่ ผมมาอยู่กรุงเทพฯคนเดียว ดังนั้นบางครั้งการสื่อสารด้วยโทรศัพท์ มันไม่เหมือนกับการที่ครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน อย่างนั้นมันสามารถปลอบใจกันได้ และก็ให้ความช่วยเหลือกันได้ แต่ตอนนี้ที่บ้านสบายใจแล้วผมก็โอเค ทางอาร์เอสเองก็โทรมาถามว่า มันเป็นอะไรยังไง แต่พอเขารู้ความจริงแล้วก็โอเค โล่งใจ

     หลังจากที่ได้ยินข่าว แล้ว
ทางผมก็ไม่ได้ติดต่อกลับไปหาทางคุณตำรวจ เพราะเข้าใจว่าบางครั้งมันผิดพลาดกันได้ บางครั้งเราสื่อสารกันผิดได้ ผมก็เข้าใจและให้อภัย ผมมองว่าชื่อจริงของเราอาจจะคล้าย ๆ กัน ศรัณยูกับภรัณยู หรือจะด้วยผมเองหน้าตาเหมือนเขา นิสัยหรือว่าสักอะไรเหมือนเขา อย่างการขับรถเองก็เหมือนกัน ผมขับรถฟอร์จูนเนอร์เหมือนกับเขา แต่ผมไม่มีปัญญาแต่งรถขนาดนั้นเหมือนเขา เพราะผมไม่ได้รวยพอ โดยส่วนตัวผมกับเขาก็ไม่ได้รู้จักกัน จะเจอกันตามงานก็มีทักทายกันบ้าง ผมก็เข้าใจว่าบางคนอาจจะมีผิดพลาดกันได้ ตอนนี้ได้ข่าวว่าไม่มีอะไรแล้วก็ดีแล้วครับ เรื่องราวทุกอย่างเคลียร์แล้วผมเองก็สบายใจ     ผมมองว่าไม่มีความจำเป็น อะไร ที่จะต้องไปเคลียร์กับทางตำรวจ ผมเองเคารพตำรวจมาก ผมเล่นฟุตบอลกับสโมสรเพื่อนตำรวจ พี่ชายผมเองก็เป็นผู้กองอยู่ที่กองปราบ ผมเลยไม่อยากจะไปอะไรกับทางตำรวจ เราเป็นเหมือนพี่น้องกันมากกว่า ผมก็เข้าใจความผิดพลาดของเขา แต่ผมเองก็รู้สึกน้อยใจที่เขาเสนอข่าวว่าเป็นเรา คือถ้ามุมมองประชาชนมองตำรวจที่ว่า อยู่ดีๆก็ไปให้ข้อหากับคนบริสุทธิ์ ประชาชนทุกคนจะมองตำรวจไทยเป็นยังไง ที่อยู่ดี ๆ ยังไม่ได้ข้อสรุป ยังไม่ได้ผู้ต้องหา อยู่ดี ๆ ก็มาระบุซะแล้วว่าเป็นคนนั้น ความรู้สึกของประชาชนก็จะมองผม หรือมองตำรวจเป็นด้านลบไปแล้ว ผมก็ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น เพราะตำรวจเองก็ช่วยเหลือสังคมเยอะเหมือนกัน พอเรื่องมาเกิดที่ตัวผม เลยไม่อยากให้ประชาชนทุกคนมองตำรวจแบบนั้น

     ก็อยากฝากพี่ ๆ สื่อมวลชน รวมไปถึงทางตำรวจ การออกข่าวอะไรอยากจะให้รอบคอบกันมากกว่านี้ อยากจะให้ไตร่ตรองกันมากกว่านี้ เพราะคนที่เสียหายบางครั้งมันไม่ใช่ผม บางครั้งมันอาจจะเป็นหน่วยหรือว่าทีมงานที่คุณเสนอข่าว หรือว่าหน่วยทีมงานที่คุณระบุตัวผู้ต้องหาผิด มันจะกระทบกับทางสถานีของคุณมากกว่า ครั้งต่อไปก็อยากจะให้รอบคอบกว่านี้นิดนึง ผมกับตำรวจก็พี่ ๆ น้อง ๆ กันทั้งนั้น ไม่แน่นะถ้าเป็นเมืองนอกผมอาจจะได้ไปหลายล้านแล้ว 
 



“แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม” “แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม”


“แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม” “แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม”


“แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม” “แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม”


“แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม” “แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม”

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี ดาราเดลี่


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์