แจงแล้วนะจ๊ะ ! หลัง เอ พศิน เจอดราม่าตั้งชื่อลูกสูงเกินไป

"นอนวันละสองชั่วโมง ผมก็ตื่นมาเชียร์ พยายามดูแลคุณแม่ไม่ให้วูบ เพราะว่าน้ำนมเยอะมาก ส่วนที่ไม่จัดแถลงข่าวนั้น ผมคิดว่าเงียบ ๆ แบบนี้ดีกว่า ผอ. ก็นำกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมครับ ผมไม่ชอบแถลงข่าวเพราะว่าตื่นไมค์ครับ อย่างน้องแตงกวา (ภรรยา) เค้าชอบที่ทุกคนให้ความสนใจนะครับ เค้าตั้งใจจะเป็นคุณแม่ที่ดี อย่างลูกก็เลี้ยงกันเองครับ มีครอบครัวน้องแตงกวามาช่วยดูแลในช่วงแรก หลังจากนี้ต้องดูแลเรื่องอาหาร งานในวงการบันเทิงก็ยังรับเท่าเดิมครับ เราก็ใช้เวลาเต็มที่ ถ้าเราทำงาน โดยไม่เลือกบท ไม่เลือกค่าย เดี๋ยวทางผู้จัดเค้าจะจ้างเองครับ วินาทีแรกที่ผมเห็น คือ ลูกเราตัวเล็ก ๆ ตอนท้องให้ภรรยาทานน้ำมะพร้าวเยอะ ตัวลูกเราเลยไม่มีไข ร้องเบา ๆ ทุกวันนี้ยังไม่ค่อยร้องเท่าไร น้องเค้าเลี้ยงง่ายครับ ตอนอุ้มก็เกร็ง ๆ เวลามองตารู้สึกมีความสุขครับ ส่วนลูกคนที่สองอยากได้ลูกสาวประมาณ 1 - 2 ปี คนโตมีภาวะความเป็นพี่ก่อน ครอบครัวค่อนข้างเห่อ มีคนแวะมาเยี่ยมตลอด ของรับขวัญมีให้หลายท่านครับอย่างพี่แซ็ก ธนินวัฒน์ ที่ผมเขียนบทภาพยนตร์ให้และเป็นพี่น้องที่นับถือกัน พี่เปา อินทิรา เอาทองมารับขวัญเป็นพระประจำวันเกิด พี่เจเน็ต เขียว และผู้ใหญ่หลายท่าน ที่ไม่ประสงค์ออกนามมาช่วย ตอนนี้น้องเกิดมามีเงินเก็บในธนาคาร ต้องขอบคุณมากครับสำหรับเรื่องในวงการบันเทิง คิดว่าคงไม่ผลักดันครับ เพราะผมเคยเป็นดาราเด็ก รู้สึกว่าเหนื่อย นอกจากเค้าอยากทำค่อยทำ แต่ที่อยากให้เค้ามีทักษะ คือ เรื่องดนตรี เค้าจะได้เป็นคนใจเย็น คิดว่าอยากมีสัก 2 - 3 คน 

สำหรับกระแสดราม่าเรื่องชื่อลูก "เจ้าพระยา" ผมมองว่าไม่ได้สูงไป แล้วแต่คนตีความครับ เพราะว่าเจ้าพระยาคนคิดว่าเป็นพระยาศักดิ์แต่ตอนนี้ยกเลิกไปแล้ว ตอนนี้ชื่อนี้เป็นโรงพยาบาลก็มี อาบอบนวดก็มี ถ้าเป็นอย่างนี้คิดว่าสูงมั้ย มันอยู่ที่เรามองยังไงมากกว่า แต่สำหรับสูงในคุณค่าและความหมายของมัน ผมมองเป็นแม่น้ำ คุณแม่เค้ามองเป็นคนที่ขาดน้ำไม่ได้ ขาดเลือดไม่ได้ เจ้าพระยาเป็นดั่งแม่น้ำของคนทั้งประเทศ"