อั้มซัดไฮโซสาวปลื้มล้ำเส้น เตือน!! อย่าโมเม

จากกรณีอั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ พระเอกช่อง 3 ตกเป็นข่าวกับนักธุรกิจหญิง เจ้าของธุรกิจสปา Baby Angel Beauty & Spa by ไอดิน โดยฝ่ายหญิง ชื่อ แพรว ภูษณิศา พงศาโภคิน ให้สัมภาษณ์ในเชิงว่า สนิทสนมกับดาราหนุ่ม แต่เกิดทะเลาะกัน ทำให้ดาราหนุ่มไม่มาร่วมงานฉลองครบ 3 ปีของสปาตนเอง เมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น

 เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่อาคารมาลีนนท์ ช่อง 3 พระเอกอั้มเปิดแถลงชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากปรึกษาผู้ใหญ่ว่าจะทำอย่างไร เพราะโดนเอาชื่อไปใช้เป็นเครื่องมือในการโปรโมตหรือว่าสร้างกระแส

 “ผมไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเจอ จะเห็นหน้าเขาก็ตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่เขียนว่าคุณคนนี้ชื่นชอบในผลงานผม ผมก็ได้ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้แล้วว่ามันเป็นสิ่งที่ดีในความรู้สึกนั้นๆ ที่ชอบในผลงาน ถ้าจะมีงานอะไรมาติดต่อก็ให้คุยกับทางบริษัทของผม”

 สำหรับเรื่องการปฏิเสธไปร่วมงานของสปาดังกล่าว อั้มกล่าวว่า
 
“ผมรู้มาว่าวันนั้นเป็นงานฉลองครอบรอบสปาของเขา แล้วเขาได้ติดต่อมาทางบริษัทของผมว่าอยากให้ผมไปร่วมเดินแบบ ผมก็โอเคอยู่ เพราะผมถือว่าเป็นหน้าที่ของเรา เวลาติดต่องานทุกครั้งทางบริษัทของเขาจะติดต่อกับบริษัทของผมทุกครั้ง โดยผ่านตัวแทน ผมก็ตกลงว่าจะไป แต่ก่อนวันงานมีนักข่าวจากรายการวิทยุ อีเอฟเอ็ม โทร.มาถามผมว่า พรุ่งนี้ผมจะมีงานแถลงข่าวความสัมพันธ์เหรอ ผมบอกว่าไม่ใช่ ผมไปงานอีเว้นต์ปกติทั่วไปธรรมดา

แต่พี่นักข่าวเขาบอกว่ามีใบหมายเชิญที่ส่งให้นักข่าวเขียนว่า

“อั้ม-อธิชาติ สนองneed ไฮโซพันล้าน รับเชิญร่วมงานปาร์ตี้” แล้วข้างล่างเขียนว่างานนี้คุณแพรวไฮโซจะออกมาแถลงข่าวชัดเจนถึงความสัมพันธ์กับอั้ม-อธิชาติ พร้อมทั้งออกมาประกาศเซอร์ไพรส์ให้ทุกคนต้องตะลึง

 “อันนี้มันเป็นการพีอาร์ที่นอกเงื่อนไข เท่าที่ทีมงานคุยกันไว้ว่าเป็นงานอีเว้นต์ธรรมดา แต่ว่าเขาใช้ชื่อผมไปพีอาร์ ซึ่งเป็นการพีอาร์ที่ไม่ได้มีการตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น แล้วก็เป็นการพีอาร์ไปในเชิงชู้สาว มันไม่ได้เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นมาเลย มันไม่ได้มีการแถลงข่าวแบบนั้น ผมจึงปรึกษากับพี่ๆ ทางบริษัท ซึ่งผมขออนุญาตให้พี่สุรีรัตน์ ชัยชนะ เป็นคนที่คุยกับคุณแพรวโดยตรงเองเลย ผมจึงขออนุญาตให้พี่รัตน์พูดว่าเขาได้คุยอะไรกับคุณแพรวบ้าง”

 ทางด้าน สุรีรัตน์ ชัยชนะ ผู้ดูแลคิวพระเอกหนุ่มในงานนี้ กล่าวว่า

 การเชิญอั้มไปงานเพื่อเดินแบบก็คือเดินแบบ แต่ว่าถ้ามาแถลงข่าวอะไรทางบริษัทคงไม่อนุญาต และเราก็คุยกันระดับผู้ใหญ่แล้วว่ามันไม่ใช่แบบนี้ คุยกันเสร็จกับเลขาฯ ของคุณแพรวก็วางสายไป สักพักเลขาฯ คุณแพรวโทร.มาบอกให้เราโทร.ไปหาคุณแพรว ตนก็โทร.ไป พูดเหมือนกับที่เราพูดกับเลขาฯของเขา

 "เขาก็พยายามที่จะขอคุยกับอั้ม เขาบอกว่าต้องจ่ายเท่าไรก็ได้เพื่อให้อั้มมางานนี้ ตนบอกว่าเรื่องเงินมันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับเรื่องของการทำงาน เพราะถ้าเราพูดคุยกันตามข้อตกลงเราก็ทำงานด้วยกันได้ แต่นี้ไม่ใช่ ก็คงร่วมงานกันไม่ได้ เขาก็พยายามขอคุยกับอั้มให้ได้ เขาบอกว่าอีก 30 นาทีให้เราโทร.ไปบออกเขาว่าอั้มว่ายังไง เราก็ไม่ได้โทร.ไปอยู่แล้ว เพราะตอนนี้เวลาประมาณตี 1 ซึ่งมันเป็นเวลาที่น้องพักผ่อน เขาก็โทร.กลับมาอีก ถามว่าทำไมไม่โทร.กลับหาเขา เราก็บอกว่าเราติดต่อน้องไม่ได้ แล้วเวลานี้ก็เป็นเวลาพักผ่อนของน้อง พรุ่งนี้ค่อยคุยกันเป็นอันว่าเราไม่สะดวกว่าจะไปงานนี้ เราได้ชี้แจงเขาไปแล้วตรงนั้น เขาอ้างว่าเขาไม่รู้ว่าเขาไม่ได้แถลงข่าวอะไร เขายังยืนยันว่าโดยส่วนตัวเขาไม่รู้จักกับน้อง

สำหรับเรื่องที่ไฮโซสาวซื้อแหวน ซื้อตั๋วเครื่องบินให้อั้มไปเที่ยวดูไบล่ะ อั้มกล่าวเสียหนักแน่นว่า
 
“อยากบอกว่าไม่ต้องให้ผมหรอก เพราะถึงให้ผมก็ไม่รับ ผมไม่เคยขอใครกิน ไม่ต้องมาให้ผม ผมทำงานมีรายได้ของผม ไม่ว่าจะแหวนหรือตั๋วเครื่องบิน ผมซื้อของผมเองได้ ที่เขาให้สัมภาษณ์เหมือนกับว่าเขาเอาของมาล่อ ถือว่าสิ่งพวกนั้นเป็นการไม่ให้เกียรติกัน แล้วเมื่อวานผมได้ดูข่าวตอนที่เขาสัมภาษณ์บอกถึงความสัมพันธ์ว่าเป็นอย่างไรกัน เขาบอกว่ายังไม่เป็นแฟนกัน ขอไม่พูดถึงดีกว่า แล้วที่เขาบอกว่าติดที่ผู้ใหญ่ทางช่อง อันนี้ผมก็ปรึกษาผู้ใหญ่เหมือนกันว่าพอมันเกิดกรณีนี้ขึ้นเหมือนเขาต้องการเราใช้ชื่อเราโปรโมต แล้วพี่ๆ สื่อที่ไปสัมภาษณ์เขาในงานวันนั้นยังเข้าใจไปในทางนั้นด้วย เขาใช้ชื่อของผมไปในการโปรโมตรวมทั้งใช้สื่อ ผมอยากให้ทุกอย่างจบในวันนี้ ผมกับเขาไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย แล้วผมได้ปรึกษากับทางฝ่ายกฏหมายบ้างแล้ว ถ้ายังมีอะไรทำนองนี้ออกมาอีก ผมก็จะดำเนินตามขั้นตอนของกฏหมายครับ”

 ผู้สื่อข่าวถามต่อว่านักร้องสาวคนสนิท นัท มีเรีย เบเนเด็ดตี้ ทราบข่าวนี้หรือไม่ อั้มกล่าวว่า

“ทราบครับ เขาก็งงๆ ค่อนข้างตลกนิดหนึ่ง เขาบอกว่าอยากให้ชี้แจงกับพี่ๆ ทุกคน ตอนแรกผมคิดว่าผมควรจะพูดกับพี่ๆ ทุกคนในงานอีเว้นต์ต่างๆ แต่มันก็อาจจะช้าไป เพราะว่าเรื่องนี้ก็มีพี่ๆบางคนรู้สึกคล้อยตามไปบ้างแล้ว”

 วันเดียวกัน น.ส.ภูษณิศา หรือแพรว เจ้าของสปา เปิดแถลงถึงกรณีดังกล่าวเช่นกันที่โรงพยาบาลรามคำแหง โดยเกริ่นว่า

สาเหตุที่ตนเข้าโรงพยาบาลนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากอาการตรอมใจตามที่เป็นข่าว แต่เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.โดยมีอาการอ่อนเพลีย และรู้สึกเครียด เนื่องมาจากการจัดงานครบรอบ 3 ปีของสปา ที่ไม่เป็นไปตามความคาดหมาย จากที่นายอั้มไม่มาร่วมงาน

 ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่อั้ม อธิชาติเตือนว่า

หากไม่หยุดพูด จะดำเนินการฟ้องร้อง น.ส.ภูษณิศากล่าวว่าเป็นเรื่องที่ตนเองงงมาก เนื่องจากคนที่ผิดสัญญาเป็นอั้มที่ไม่มาร่วมงานไม่ใช่ตน ส่วนกรณีที่เป็นข่าวว่า อั้ม อธิชาติ ไม่พอใจเรื่องการโปรโมตสปา เพราะเกิดจากใบแฟกซ์ที่มีเนื้อความว่า จะแถลงความสัมพันธ์ที่ส่งไปให้สื่อมวลชน เรื่องนี้ตนเองเพิ่งจะเห็นใบแฟกซ์  เกิดจากความเข้าใจผิดจากการประสานงาน  ตนเองต้องขอโทษแทนทีมงานที่ส่งแฟกซ์ดังกล่าวไปให้สื่อมวลชน และขอรับผิดกับเรื่องดังกล่าวที่ไม่ได้ตามงานที่สั่งไปแล้ว เพราะไว้ใจการทำงานของเลขาฯ และทีมงานเนื่องจากมีประสบการณ์การทำงานสูง

สำหรับกรณีที่ว่าอั้ม อธิชาติระบุว่า
 
ไม่เคยคุยกันเป็นการส่วนตัวนั้น ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เพราะตนกับอั้มไม่เคยคุยกันเป็นการส่วนตัว แต่ใช้วิธีการสื่อสารผ่านทางเลขาฯ ทั้งหมด เป็นการตอบโต้ไปมาระหว่างคนกลาง และการพูดคุยระหว่างคนกลางนั้นเป็นไปทางที่ดี ตนเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักแสดง สิ่งที่พูดออกมาจากใจ เลขาฯ พูดอย่างไรก็ฟังอย่างนั้น และคิดไปตามที่หูได้ยินซึ่งเมื่ออั้มยืนยันอย่างลูกผู้ชายว่าไม่ได้คุยอย่างที่เป็นข่าว เท่ากับว่าเลขาฯ ของตนทำงานผิดพลาดและตอนนี้เลขาฯคนดังกล่าวออกจากงาน อั้มได้ทำให้เลขาฯ ของตนตกงานไปเรียบร้อยแล้ว

  เมื่อนักข่าวถามถึงเรื่องการซื้อแหวนให้พระเอกอั้ม นักธุรกิจหญิงกล่าวว่า
 
เป็นเรื่องจริงที่ตนเองซื้อให้อั้ม ในฐานะคนที่ชื่นชอบ ตั้งใจจะมอบให้เป็นการขอบคุณในวันที่จัดงาน แต่อั้มไม่ได้มาจึงไม่ได้ให้ ตอนนี้จึงมอบให้หมอที่รักษาตนไปแล้ว

 ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะข่าวที่ระบุว่า
 
ตนเองต้องการเกาะอั้มดัง ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นเรื่องจริง จะไม่พูดอะไรเพิ่มเติม เพราะไม่อยากจะให้เกิดเรื่อง และต่อไปนี้จะไม่พูดถึงอั้ม อธิชาติ อีกต่อไปและหวังว่าอั้มจะไม่กล่าวถึงตนเองอีก